Pacific Rim : Tales from Zero Years - Part 1 : K-Day
Present By : Guillermo Del Toro | Writer : Travis Beacham
สำนักพิมพ์ : Legendary comic
สำนักพิมพ์ : Legendary comic
พบกับเรื่องราวจุดเริ่มต้นของวันโลกาวินาศ K-Day มันเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น วันที่ Kaiju ตัวแรกปรากฎตัวออกมา
P.P.D.C. Local Command Center, วันที่ 9 ธันวาคม 2024
Naomi : ก๊อก ก๊อก ท่านจอมพล เพ็นเทคอส? มีใครอยู่บ้างมั้ย
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง เธอจึงลองเดินเข้าไปและพบกับอะไรบางอย่างที่ถูกคลุมอยู่กลางห้อง แต่แล้วก็เสียงที่ดึงดูดความสนใจของเธอ เธอจึงลองมองออกไปด้านนอก
Naomi : ว้าว
และมันคือหุ่น Gipsy Danger ที่หมดสภาพจากการปะทะ
??? : นี่มันเป็นเขตห้วงห้ามนะ
Naomi : โอ้...ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ...ฉันแค่...
??? : ผมล้อเล่นน่ะ คุณคือนักข่าวคนนั้นใช่มั้ย
Naomi : ฉัน นาโอมิ โซโคลอฟ
Tendo : ผม เท็นโด โชอิ อยู่ฝ่ายเทคโนโลยีและการปฏิบัติการต่างๆ (จริงๆอยากเรียกว่า เท็นโด โซจินะเนี่ย)
Naomi : ฉันมีนัดสัมภาษณ์กับคุณ มาร์เชล เพ็นเทคอส
Tendo : ใช่ครับ และจริงๆผมกำลังจะไปรับคุณที่ทางเข้า พอดีมันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นน่ะครับ ตอนนี้ท่านกำลังเดินทางไปยังฮาวาย และฝากให้ผมมาขอโทษคุณสำหรับเรื่องนัด
Naomi : แล้วนั่น...
Tendo : ใช่ครับ ยิปซี แดนเจอร์
จากนั้นคนงานก็ขึ้นเครนยกตัว Gipsy Danger
และเฮลิคอปเตอร์หลายลำก็พากันยกมันออกไป
Naomi : ฉันไม่เคยมองดูมันใกล้ขนาดนี้มาก่อนเลย พวกเขาคงจะไม่ทำลายเธอหรอกใช่มั้ย?
Tendo : หมายถึงแม่สาวตกยุคคนนั้นน่ะเหรอ ไม่หรอก พวกเขาต้องการ... จริงๆแล้ว พวกเขาต้องการที่จะทิ้งเธอไว้กับฐานเก่าที่เหลือแห่งนี้ แต่มาร์เชลยังไม่อยากที่จะเสียเธอไป ไม่ใช่ในตอนนี้...
Naomi : พวกเขากำลังจะปิดฐานทัพทั้งหมดใช่มั้ย? รวมถึงปิดโครงการ เยเกอร์ โปรแกรม เพื่อนำเงินไปสร้าง The Wall แทน
Tendo : นี่คุณทำพวกการเปิดโปงข่าวสารต่างๆด้วยหรือไง?
Naomi : ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรหรอก
Tendo : แย่จังนะ เพราะผมว่ามันเป็นโปรแกรมที่ดี น่าจะมีใครคัดค้านซักหน่อย
Naomi : ฉันก็อยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ถ้า บ.ก.ของฉันยอมพิมพ์มันละก็นะ แต่ไม่มีทางซะล่ะ มันก็เหมือนกับการย้อนไปถามถึงคำถามที่ว่า “ทำไมพวกเราถึงเลือกที่จะสู้”
Tendo : ผมอยู่ที่นั่นด้วยนะ คุณรู้ใช่มั้ย... วันที่ 10 สิงหาน่ะ
Naomi : คุณอยู่ที่ซานฟราน ซิสโก ในวัน K-Day?
Tendo : ใช่ ผมทำงานอยู่บนเรือเฟอร์รี่ ที่เกาะแองเจิล และมันคือเหตุผลที่ผมมาอยู่ตรงนี้
และย้อนกลับไปวันที่ 10 สิงหาคม 2013, San Francisco
“ซึ่งผมก็อยากจะให้คุณได้รับรู้นะ ว่ายามเช้าของเมืองนั้นมันสวยงามแค่ไหน... แต่ผมทำไม่ได้”
“เพราะผมไม่รู้ว่านั่นจะเป็นโอกาสสุดท้ายของผมที่ได้เห็นมัน”
Tendo ทำงานอยู่บนเรือเฟอร์รี่ และพบเห็นอะไรบางอย่างผุดขึ้นมาจากน้ำ บางสิ่งที่ใหญ่มหึมา แฃะมันกำลังเข้าใกล้ตัวสะพาน
มันคือ Kaiju ตัวแรกนั่นเอง
“พวกเขาบอกว่า คุณสามารถที่จะได้ยินเสียงของมันแม้คุณขะอยู่ห่างไกลออกไปอีกหลายไมล์”
“และมันเป็นเสียงที่ดังที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา”
แค่เสียงคำรามของมันก็ทำให้กระจกเรือเฟอร์รี่แตกเป็นเสี่ยงๆ
“มันคือเสียงของวันสิ้นโลก”
Pacific Rim
Tales from Zero Year - Part 1 : K-Day
บรรยายไทยโดย Bank-Genesis
การโจมตีของมันทำให้ตัวสะพานพัง และเกิดคลื่นน้ำพุ่งเข้าจู่โจมใส่ตัวเรือจนโครงเครง ก่อนที่ตัวมันจะดำลงไปในน้ำ เพื่อขึนฝั่ง
จากนั้นข่าวก็รายงานถึงการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาด และมันก็มุ่งหน้าไปยังทางตอนใต้เพื่อเข้าไปในเมือง ซึ่งพวกเขาได้บอกให้ชาวเมืองอพยพโดยด่วน แต่เมื่อตัวสะพานถูกทำลาย และถนนถูกตัดขาด ทำให้เหล่าผู้คนต้องติดอยู่ในเมืองที่อาจจะเป็นที่เส้นทางผ่านของเจ้าสัตว์ประหลาด
Tendo : พวกเราต้องไปช่วยพวกเขา
Mackie : นี่นายบ้าไปแล้วหรือไงกัน เท็นโด?
Tendo : แล้วนายล่ะ ไม่ใช่หรือไง แม็กกี้? นายมีเรือนะ แล้วนายคิดจะอยู่เฉยๆตรงนี้ในขณะที่พวกคนอื่นๆติดอยู่ในเมืองงั้นเหรอ
เพื่อนอีกคน : บ้าจริงๆ... แต่ฉันว่าเขาพูดถูกนะ
Mackie : ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าเขาพูดถูก
อีกหลายนาทีต่อมา เรือเข้าเทียบท่าเพื่อรับคนอื่นๆขึ้นมา
“และด้วยขนาดของมัน ทำให้ต้องใช้เวลาเล็กน้อยกว่าจะเทียบท่าได้ แต่มันก็สักพักหลังจากที่เรือเทียบท่าที่เกาะหลัก ที่ผมรู้ตัวว่าคุณปู่ท่านอาศัยอยู่ในไชน่าทาวส์”
“แต่โทรศัพท์มันใช้การไม่ได้”
Mackie : เกิดอะไรขึ้นเหรอ Tendo
Tendo : ฉันติดต่อคุณปู่ไม่ได้
Tendo จึงเลือกที่จะตรงกลับไปในเมือง
Mackie : ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย??? นี่นายคิดจะไปไหนกันว่ะนั่น?
Tendo : ไชน่าทาวส์ เดี๋ยวฉันกลับมา
Mackie : ฉันไม่รู้ว่าพวกเราจะรอได้นานแค่ไหน ดังนั้นถ้านายไม่กลับมาให้ทันเวลาละก็...
Tendo : ทำในสิ่งที่นายต้องทำเถอะ แม็กกี้
จากนั้นเขาก็ตรงกลับไปในเมืองและห้องพักที่ปู่ของเขาอยู่พร้อมพาตัวเขาออกมา ซึ่งจริงๆเขาก็ไม่ได้สนิทกับปู่มากนัก แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่าเขาให้ความสำคัญกับปู่มากแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
Tendo : โอเค ผมได้ตัวปู่แล้ว แต่พวกเราต้องรีบกันหน่อย มันกำลัง... ใกล้เข้ามาแล้ว
สายไปแล้ว Kaiju เข้ามาถึงตัวเมืองแล้ว Tendo จึงรีบพาปู่ไปยังรถที่อยู่ข้างหน้าทันที
ในขณะเดียวกันเครื่องบินทหารก็ระดมยิงเข้าใส่ Kaiju จนมันบาดเจ็บ เลือดสีฟ้าสาดกระเซ็นไปทั่ว
และโดนตัวของปู่ของเขาเข้าให้ แต่ Tendo ไม่มีเวลาที่จะมาสังเกตในตอนนี้ และรีบบึ่งออกไปทันที
“ในช่วงเวลานั้น มันเหมือนกับว่าโลกหยุดนิ่งไป”
แม่ : ราลี่, ยานซี
Raleigh : พวกเรากำลังดูอยู่ครับแม่
(Raleigh พระเอกของเรื่อง)
และ Mako นางเอกของเรื่องก็ฟังข่าวของมันอยู่เช่นกัน
“กองทัพอเมริกาไม่สามารถที่จะหยุดยั้งการเดินหน้าของเจ้าสัตว์ประหลาดตนนี้ได้แม้แต่น้อย”
และที่บาร์แห่งหนึ่ง Pentecost ก็ได้ดูข่าวนี้อยู่เช่นกัน
และก็มีสายหนึ่งเข้ามาหาเขา ด้วยชื่อว่า Luna
Pentecost : ลูน่า ฉันกำลังหาทางติดต่อเธออยู่เลย เธอได้ดูนี่หรือเปล่า
Luna : แน่นอน และฟังนะ ฉันมีเวลาไม่มากนัก...
Luna : ...ฉันอยากจะติดต่อนายให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้ฉันอยู่บนลานบินที่วานเด็นเบิร์ก หน่วยของฉันจะเข้าทำการจู่โจมเจ้าตัวประหลาดนั่น...
Pentecost : นี่เธอล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย? เธออยู่ในช่วงลาพักร้อนไม่ใช่หรือไง?
Luna : นั่นมันก็แค่เรื่องบังหน้า พวกเรากำลังฝึกบังคับยานบินลำใหม่อยู่
Pentecost : พวกคนอเมริกาไม่สามารถที่จะสั่งเธอได้นะ ลูน่า เธอเป็นหน่วยพิเศษนะ
Luna : พวกเราอาสาสมัครเอง
Pentecost : ฉันขอถามได้มั้ย ว่าทำไมกัน?
Tamsin : ลูน่า นั่นใครน่ะ?
Luna : พี่ชายฉันเอง
Tamsin : ว่าไง สตาร์กส์
Luna : ทัมซิน ฝาก “สวัสดี” แหน่ะ
Pentecost : ทำไมเธอถึงเลือกที่จะเป็นอาสาสมัคร
Luna : ก็เพราะเมื่อ 70 ปีก่อน พวกนาซีมันเอาระเบิดมาลงใส่บ้านของพวกเรา แล้วในตอนนั้นพวกแยงกี้บ้านี่ก็ตึงมือสุดๆ ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะบินมาช่วยพวกเราเลยไงล่ะ ดังนั้นมันเลยถึงเวลาที่จะตอบแทนพวกนั้นบ้างแล้ว
Pentecost : ก็ฟังดูดีนะ ลูน่า แต่พวกเราทั้งคู่รู้ดี ว่าเธอก็แค่อยากจะฆ่าเจ้ามังกรตัวนั้น
Luna : ถูกต้อง แหงสิ คิดว่าฉันมีโอกาสบ่อยๆหรือไงกันล่ะ?
Pentecost : ระวังตัวให้ดี.. ข้างนอกนั่นมันเหมือนวันสิ้นโลกเลยนะ
จากนั้น Luna ก็พร้อมขึ้นเครื่อง
ทางด้าน Tendo ก็ไปไม่ทัน เรือได้ออกไปแล้ว พวกเขาจึงได้แต่รอคอยว่าจะมีใครกลับมารับไป และมันเป็นเวลาเดียวกับที่ฝูงบินมาถึง
Luna : เป้าหมายอยู่ในระยะแล้ว
“พระเจ้าช่วย ดูขนาดตัวมันสิ”
และการรบก็เกิดขึ้น
Luna : ตังสติไว้ก่อน ทัสมิน พวกเราจะถ่ายรูปหลังจากที่มันตายแล้ว
แต่การโจมตีของพวกเธอก็แทบจะทำอะไรผิวหนังของมันไม่ได้เลย
และนั่นทำให้พวกเธอต้องรอดูและหาจุดอ่อนของมันให้เจอ แต่ Luna มีความคิดของเธอเอง
Luna : นี่มีใครลองยิงเข้าใส่คอของมันหรือยังเนี่ย?
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ลูน่า...”
Luna : ใครนะ? ฉันเหรอ
“ลูน่า...”
Luna : ฉันได้ตัวมันแล้ว
ในขณะที่ Luna กำลังจะกดยิงมิตไซต์นั่นเอง
“ระวังด้านข้าง มันกำลัง...”
บรึ้ม!
Luna โดน Kaiju ตบเข้าใส่จนยานระเบิดก่อนที่เธอจะมีโอกาสได้กดยิงมิตไซต์
Tamsin : ลูน่า!!!
“เรือเฟอร์รี่กลับมารับเราได้ทันเวลา”
“ทันเวลากับที่เราได้ยินว่าพวกนั้นเตรียมที่จะใช้นิวเคลียร์ถล่มมันแล้ว”
“และมันก็เกือบจะรู้สึกผ่อนคลายได้ขึ้นมาหน่อย แต่มันก็ฟังดูบ้าเหมือนที่ได้ยินนั่นแหละ”
“แต่มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับคุณปู่”
ที่นอกเมือง เกาะอีกฝั่ง ชาวบ้านต่างเสียใจเมื่อเห็นบ้านและเมืองของพวกเขาตกอยู่ในกองเพลิง ส่วนปู่ของ Tendo ก็กำลังเกิดอาการแปลกๆขึ้นกับเขา
“ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มันเกิดจากเลือดของไคจู ไม่มีใครรู้ว่าเลือดของมันมีพิษแบบไหน”
“ที่ผมรู้มีเพียงแค่ว่า ท่านกำลังจะตาย และผมไม่สามารถทำอะไรที่จะช่วยเหลือท่านได้เลย”
Tendo : พูดอีกครั้งสิครับ?
Tendo แนบหูลงไปเพื่อฟังคำพูดสุดท้ายของปู่ของเขา และในตอนนั้นเองที่แสงสว่างวาบขึ้นมาทางด้านหลังของเขา
“ท่านและเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นตายแทบจะพร้อมๆกัน”
“และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมจำได้เกี่ยวกับ K-Day”
Kaiju ตนแรกถูกสังหารโดยนิวเคลียร์
Naomi : ขอถามอีกหน่อยได้มั้ยคะ คุณปู่ของคุณท่านพูดอะไรออกมาเป็นครั้งสุดท้าย?
Tendo : “จงอดทน...”
Naomi : ว้าว
Tendo : ผมเข้าใจ และ ต้องขออภัยสำหรับเรื่องที่คุณอดพบกับท่านจอมพลด้วย และหวังว่าคุณจะได้บางสิ่งที่สามารถใช้การได้จากบทความของคุณนะ
Naomi : ฉันแน่ใจว่าจะต้องได้แน่ๆ ขอบคุณมากค่ะ
Tendo : แล้วผมจะรออ่านนะ ว่าแต่คุณบอกว่ามันเรียกว่ายังไงนะ?
Naomi : “ทำไมพวกเราถึงพวกเราถึงเลือกที่จะสู้”...
Tendo : ก็แล้วมันยังมีอะไรที่ดีกว่านี้อีกล่ะ?
จบบทแรก
บทต่อไป
การกำเนิดของ Jaeger Program!
สำหรับเรื่องราวของ Tales from Zero Years นั้นจะแบ่งเป็น 3 บทครับ บทเริ่ม,การกำเนิด Jaeger Program และ เรื่องราวของเหล่าตัวเอกก่อนจะเข้าสู่ภาคหนังโรง
ซึ่งผมคิดว่าในหนังอาจจะมีกล่าวถึงสามส่วนนี้บ้าง แต่เป็นแบบคร่าวๆให้เราพอเข้าใจ ส่วนตัวหนังสือจะนำเสนอเรื่องราวเพิ่มเติม อย่างบิดาผู้ให้กำเนิด Jaeger Program ที่จะปรากฎในบทถัดไป และทั้งสามบทเชื่อมต่อกันโดย Naomi นักข่าวคนนี้ครับ และในบทหน้าเราจะรู้ว่าทำไมมันถึงต้องใช้คน 2 คนในการขับอีกด้วย
มีทั้ง เยเกอร์ ทั้ง The Wall
ReplyDeleteถ้าจุดอ่อน Kaiju อยู่หลังคออีกนี่ ฮาแน่ๆ
หน้าที่ Luna คุยโทรศัพท์ก่อนขึ้นเครื่อง กรอบสุดท้าย น่าจะเป็น "...70 ปี.." มากกว่านะครับ
ขอบคุณสำหรับสปอยครับ =)
ใช่ 70 ปีจริงๆ อ่านพลาดไปหน่อย ขอบคุณที่เตือนครับ
Deleteเท็นโด ทำไมนายไม่ใช้ไฮเปอร์คล็อกอัพล่ะ ^w^
ReplyDeleteSh@d0w_F[i]GuRe มันคล้ายๆการ์ตูนเรื่องผ่าพิภพไททันเลย
ReplyDeleteพี่เทพเทนโด 555 สนุกดีครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ
ขอบคุุณมากครับผม^^
ReplyDelete