Thor God of Thunder : God Butcher
ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า บทแรก ผู้สังหารเทพ
ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า บทแรก ผู้สังหารเทพ
เหล่าเทพกำลังล้มตายในจักรวาล และผู้ที่ค้นพบมันก็คือ Thor เทพแห่งสายฟ้า เจ้าชายแห่งแอสการ์ด แต่เขากำลังจะค้นพบยิ่งกว่านั้น เพราะว่าผู้สังหารเทพตนนี้ คือหนึ่งในคนที่เคยปะทะกับเขา และในคราวนี้แผนการของมันจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ใน Thor : God of Thunder เราจะได้พบกับเรื่องราวของ Thor จาก 3 ยุคสมัย
Thor จากอดีตสมัยนี่ยังอารมณ์ร้อน ทำตามใจตัวเอง แต่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและความกล้าหาญ
Thor จากปัจจุบัน ที่เพียบพร้อมทั้งพลังและอุดมการณ์
Thor จากอนาคต เทพองค์สุดท้ายที่เหลือรอดของ Asgard
Thor #01-03
บทนำแห่งผู้สังหารเทพ
The Past
หลายปีก่อน ในห้องเก็บอาวุธของแอสการ์ด
Thor พยายามดึง Mjolnir ออกมาเพื่อใช้เป็นอาวุธคู่กาย แต่ตัวเขาในตอนนี้นั้นยังไม่ใช่ผู้ที่เหมาะสมกับมัน เขายังอารมณ์ร้อน อ่อนต่อโลก ไร้ซึ่งความเหมาะสม เขาจึงหยิบขวานที่ชอบใจที่สุดออกไปแทน และบอกไว้ว่า สักวันนึงเขาจะทำให้ค้อนนี้กลายเป็นของเขาให้จงได้
893 A.D.
Thor ลงมาช่วยเหลือพวกมนุษย์ชาวไวกิ้งจัดการกับเหล่ายักษ์น้ำแข็งที่รุกรานพวกเขา ภายหลังจากสังหารเหล่ายักษ์ เขาได้ดื่มกินอยู่ในหมู่บ้าน จนกระทั่งมีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศ และต้นเสียงคือ หญิงชราผู้หนึ่งที่พบกับเศษซากศพที่กระจัดกระจาย และเมื่อ Thor ตรวจสอบก็พบว่ามันคือซากศพของเทพ
และเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าผู้คนต่างตื่นตระหนก ถึงการที่เทพถูกสังหาร แต่ Thor ก็เปลี่ยนบรรยากาศโดยบอกไปว่าไม่ว่าอะไรก็ตาม มันก็ไม่อาจจะปะทะกับเหล็กกล้าแห่งแอสการ์ดได้ จนเมื่อชาวบ้านต่างกลับไปจนหมด หญิงชราจึงถามว่าเขาเคยเห็นอะไรเช่นนี้หรือไม่ และ Thor ก็มั่นใจว่า เขาไม่เคยเห็นดวงตาของเหล่าเทพหวาดกลัวสิ่งใดมากเช่นนี้มาก่อน จากนั้นหญิงชราคนนี้จึงสวดภาวนาให้กับเหล่าเทพทุกองค์ โดยมี Thor ยืนฟังบทสวดนั้นอย่างเงียบงัน
ณ ศึกสงครามบนท้องทะเล
Thor นำทัพเหล่านักรบไวกิ้งจากทางเหนือเข้าสู่สมรภูมิ และในระหว่างที่หมอกลงจัด เขาได้ถูกใครบางคนไล่ตามอยู่ และเมื่อพวกเขาไปถึงฝั่งก็เตรียมเข้าปะทะกับนักรบของศัตรู หากแต่ว่ามีสิ่งมีผิดปกติ นั่นคือเทพผู้ปกป้องของฝั่งตรงข้ามกลับหายตัวไป และสิ่งที่ปรากฏออกมามีเพียงแค่ เพกาซัส ม้าบินที่เปราะไปด้วยคราบเลือดเพียงเท่านั้น
Thor ควบม้าบินขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยทันที ปล่อยให้ทั้งรบทั้ง 2 ฝั่งเข้าปะทะกัน และท่ามกลางหมู่เมฆเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดของเทพ และสิ่งที่เขาเห็น คือ เทพอีกตนที่ไร้ซึ่งหัวบนบ่า และในขณะที่เขากำลังงุนงง ศัตรูร้ายได้อย่างกรายเข้ามาหาเขาจากด้านหลัง เงามืดในมือมันได้เปลี่ยนรูปร่างเป็นดาบสีดำดุจเถ้าถ่าน ฟันไปยังคอของเพกาซัสจนดับดิ้น โดยที่แม้แต่ Thor เองยังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนที่ตัวการจะเปิดเผยตัวตนออกมาให้เขาเห็น
“เจ้ารู้สึกได้หรือไม่ เทพตัวจ้อยจากแดนสวรรค์ ความรู้สึกที่ไร้หนทางช่วยเหลือเมื่อเจ้าได้ล่วงหล่นลงไป นั่นแหละ นั่นคือความรู้สึกเดียวกันเมื่อเจ้าเป็น มนุษย์ธรรมดา”
“แต่ถัดไปเจ้าจะได้เรียนรู้ ว่ามันรู้สึกอย่างไรเมื่อเจ้าถูกฉีกร่างสังหาร”
แต่ Thor ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาล่วงลงมายังตัวเพกาซัสสีดำ และถือโอกาสนี้ควบมันเข้าต่อกรกับศัตรู และเข้าได้ปะทะกับมันอย่างยากลำบาก และการปะทะครั้งนี้ทำให้เขาได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างกันของ สงคราม และ การล่าสังหาร โดนที่ Thor นั้นดูจะได้เปรียบในระหว่างการเข้าปะทะกัน แต่หลังจากที่มันได้รับบาดเจ็บกลับทำให้มันคลุ้มคลั่ง และเข้าเล่นงาน Thor อย่างบ้าคลั่ง ด้วยพลังจากเงามืดของมันที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามต้องการ ทำให้มันได้เปรียบ Thor เป็นอย่างมากจนเขาพลาดท่า
Thor พลาดท่าร่วงหล่นจากเพกาซัส และโดนศัตรูเล่นงานอย่างต่อเนื่อง จนเขาแทบจะไม่สามารถตอบโต้มันได้เลย และกำลังจะโดนมันสังหาร แต่ในตอนนั้น มันกลับถามหาว่าด้วยความอยากรู้ว่าตนกำลังจะสังหารเทพผู้บัญชาหรือปกป้องสิ่งใด
“จงบอกข้ามาเดี๋ยวนี้เลย เจ้าชายแห่งแอสการ์ด ก่อนที่เจ้าจะได้ทำแค่กระซิบกระซากและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด จงบอกมาว่า ธอร์คือเทพแห่งสิ่งใด ก่อนที่เจ้าจะสิ้นใจตายไปโดยไม่ได้บอกกล่าวสิ่งใด”
คำตอบของเขาช่างง่ายดาย และรุนแรงกว่ามันที่คาดคิด
“สายฟ้า”
และ Thor สลบอยู่ท่ามกลางหิมะ
ในอีกหลายชั่วโมงต่อมา เขาตื่นขึ้นมาในเต็นท์ของชาวไวกิ้งที่มาด้วยกันกับเขา และเมื่อเขาได้กินอาหารพร้อมเตรียมอาวุธใหม่แล้ว เขาก็เดินทางออกตามหาตัวผู้สังหารเทพในทันที และพบกับ Hinkon เทพแห่งการล่าที่ถูกผู้สังหารเทพใช้เป็นคนส่งสาสน์ให้แก่มัน เพื่อบอกว่ามันจะรอเขาอยู่ที่ถ้ำของมัน และก่อนจากไปเขาก็ทำตามคำของเทพที่ผู้โชคร้าย มอบความสงบให้แก่เขา
Thor มาตามคำท้าของมัน เขาหมายจะได้สู่กับมันเพื่อจบเรื่องนี้ แต่เขาพลาด เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนของมัน
พลังแห่งเงามืดของมันได้ลากตัว Thor เขามายังถ้ำของมัน
The Present
ในส่วนลึกของจักรวาล ดวงดาว Indigarr Thor ได้รับคำอธิษฐานขอความช่วยเหลือมาจากดาวดวงนี้ ที่ไม่มีฝนตกลงมานานแล้ว และทุกๆอย่างกำลังจะตายจากการขาดน้ำ เขาจึงต้องการความช่วยเหลือของ Thor และเมื่อเขาได้ยินคำอธิษฐานนั้น เขาก็มุ่งหน้ามายังดาวดวงนี้พร้อมพายุฝน เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่อาศัยอยู่บนดาวดวงนี้
และคำอธิษฐานนั้นมาจากเด็กสาวตัวเล็กๆเพียงคนเดียว พวกเขาต่างต้อนรับ Thor อย่างดีที่เดินทางมาช่วยเหลือพวกเขา และ Thor ได้เล่าเรื่องราวของเทพ ดินแดน Asgard ที่เขาอาศัยอยู่ เหล่าภูติ และคนแคระ ผู้คนที่ได้ฟังต่างตกตะลึงกับเรื่องที่เขาเล่า และช่วงค่ำคืนหลังจากที่ทุกๆคนหลับหมดแล้ว แม่เฒ่าก็ขอบคุณ Thor ที่เดินทางมายังดาวที่ห่างไกลเช่นนี้ แต่ Thor ก็ไม่คิดมาก เพียงแต่สงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่คิดจะอธิษฐานให้แก่เทพของพวกเขาเอง และด้วยคำถามนี้ แม่เฒ่าได้กล่าวว่า ดาวดวงนี้ไม่มีเทพเจ้าอาศัยอยู่ ซึ่งมันไม่อยู่ในความเชื่อของ Thor ตั้งแต่ที่เขาออกเดินทางมาเขาไม่เคยพบเห็นโลกที่ไม่มีเทพอาศัยอยู่ แต่แม่เฒ่าก็บอกว่ามันมีตำนานของเทพเจ้าที่อาศัยอยู่บนก้อนเมฆเหนือพวกเขาขึ้นไป แต่มันก็เป็นเพียงเรื่องเล่าขานเท่านั้น เช่นเดียวกับที่เขาเล่าให้คนอื่นๆฟัง และนั่นทำให้ Thor โกรธเป็นอย่างมากที่เธอกล้าพูดจากับเขาที่มาช่วยแบบนี้ และทำให้เขาตั้งใจที่จะเดินทางไปเยือนเทพของดาวดวงนี้
เขาเดินทางขึ้นมายังเหนือฟากฟ้า และพบกับปราสาทที่อาศัยของเหล่าเทพ หากแต่ไม่มีแม้วี่แววของเหล่าเทพที่อาศัยอยู่ ทรัพย์สมบัติต่างๆอยู่ครบถ้วน แต่เมื่อเขาเดินผ่านห้องเก็บเนื้อ เขาก็พบโซ่คล้องอยู่หน้าประตู มันช่างผิดสังเกตเขาจึงเดินเข้าไปยังห้องนั้นทันที เขาทำลายโซ่และเปิดประตูเข้าไป แต่ทันทีที่ประตูเปิดออก กลิ่นเหม็นสาบก็ลอยขึ้นมาเตะจมูกเขา และกลิ่นเหล่านั้นมาจากเหล่าเทพของดาวดวงนี้ ที่บัดนี้พวกเขากลับกลายเป็นเศษเนื้อที่ถูกเก็บอยู่ภายในนี้เสียเอง
เขาได้ตรวจสอบ และยืนยันว่าพวกนี้คือเทพที่หายไปของดาวดวงนี้จริงๆ หากแต่พวกเขาถูกชำแหละเป็นชิ้นๆ ไม่เว้นแม่แต่ผู้หญิงหรือเด็กก็ตาม พวกเขาถูกชำแหละเสมือนสัตว์ที่ถูกล่า และมันไม่มีกองกำลังใดๆที่จะทำแบบนี้ได้ จากซากศพพวกเขาถูกเล่นงานด้วยคนเพียงคนเดียว และจากบาดแผลที่เกิดจากอาวุธนานาชนิด แต่กลับไม่มีเหลือทิ้งไว้เลย นั่นคือผู้สังหารได้เก็บพวกมันกลับไปด้วย ใบหน้าของเทพที่ถูกสังหารตกอยู่ในความหวาดกลัว เขาไม่เคยเห็นใบหน้าแบบนี้ก่อนตั้งแต่... แล้ว Thor ก็นึกอะไรบางอย่างออก และถูกจู่โจมจากบางสิ่ง มันคือโซ่หน้าประตูที่รวมตัวกันใหม่
และกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เข้าจู่โจมเขาอย่างบ้าคลั่ง แต่นั่นทำให้เขารู้ว่ามันไม่ใช่ฆาตรกร มันเป็นเพียงสุนัขรับใช้ของเจ้าฆาตรกรจอมโฉดเท่านั้น และมันก็แข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดไว้มาก แต่ตอนนี้เขาสามารถเชื่อมโยงเรื่องต่างๆเข้าด้วยกันได้แล้ว ว่ามันอาจจะเป็นฝีมือของ Gorr ผู้สังหารและชำแหละเทพ และหากนั่นคือความจริง มันจะยังมีเทพอีกมากที่อาจจะตายลง
และหลังจากการต่อสู้ยาวนานหลายชั่วโมง เขาสามารถจัดการมันลงได้ และด้วยพลังของมันทำให้เขาคิดว่าการที่ Gorr จะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาได้ แสดงว่าตัวมันเองย่อมต้องมีพลังมากกว่าครั้งล่าสุดที่พวกเขาเคยเจอกันแน่นอน แต่ยังไงก็ตามเขาก็ให้สัญญาแก่เหล่าเทพที่ล้มตายที่นี่ ว่าเขาจะจัดการมันแก้แค้นให้พวกเขาให้จงได้
และออกเดินทางสู่ Omnipotence เมืองแห่งสรรพความรู้ เพื่อหาที่อยู่ของมัน
เมืองแห่งสรรพความรู้แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นหลังจากมหาสงคราม 12 ล้านปี และมันถูกใช้เก็บรวบรวมสรรพความรู้ต่างๆของเหล่าเทพเจ้า และมันไม่มีเหล่ามนุษย์คนใดที่จะได้เห็นสถานที่แห่งนี้ ในคราวนี้ Thor มาถึงที่นี่เพื่อหาคำตอบของเขา และเทพผู้ปกครองที่นี่ Librarian ก็นำพาพวกเขาไปยังห้องเก็บเอกสาร ซึ่ง Thor ต้องการหาเรื่องราวของเทพเจ้าที่สาบสูญไป Librarian จึงพาเขาไปยัง ห้องสมุดของเหล่าผู้สาบสูญ และนั่นทำให้ Thor ต้องอึ้งมากเมื่อพบว่ามันมีหนังสืออยู่ในห้องนี้อยู่เป็นจำนวนมาก จนแทบจะไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน
และที่เขาทำได้ก็คือ การทยอยไปหาเหล่าเทพทีละองค์ และเมื่อไปถึงเขาก็พบว่าเทพเหล่านั้นล้วนตายไปจนหมดแล้ว และต้องปะทะกับเหล่าอสูรดำทุกครั้งไป
และเขาคิดว่ามันเป็นความผิดของเขาเอง ที่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นและเขาสาบานว่าจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นมากกว่านี้อีกแล้ว เขาได้ท้าทายต่อผู้สังหาร ให้มาสังหารเขาได้เลยถ้ามันกล้า และเขาจะไม่หยุดจนกว่าจะจัดการมันได้ ไม่หยุดจนกว่าจะได้เห็นความรู้สึกผิดภายในดวงตาของมัน
และไม่นานจากนั้น Thor ได้ขอให้ Tony ช่วยตรวจหาถ้ำแห่งหนึ่งบนโลก ถ้ำที่เขาเคยมาในสมัยก่อน ซึ่ง Tony ก็ถามว่าไม่คิดจะให้เข้ากับเหล่า Avengers ช่วยจริงงั้นเหรอ แต่แน่นอนว่าคำตอบก็เดิมๆมันคือเรื่องของเหล่าเทพ แต่เหนืออื่นใด มันคือความผิดพลาดของเขาเอง เขาจึงต้องการจะแก้ไขมันด้วยตัวเอง และฝากให้ Tony ไปเยือนเหล่าเทพ Olympus ให้ระวังตัวไว้ จากนั้นเขาก็เข้าไปภายในนั้น
และเมื่อเขาเข้าไป เขาได้ติดต่อกับมารดาของทุกสรรพสิ่ง หนึ่งในสามพระมารดาแห่งแอสการ์ด Freyja และเขาได้เตือนถึงภัยร้ายที่กำลังย่างกรายอยู่ในจักรวาล ภัยร้ายของเหล่าเทพ แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบก็พบว่ามันมีใครบางคนอยู่ภายในนี้ และเขาได้เข้าโรมรันใส่ในทันที แต่นั่นคือเทพผู้หวาดกลัว ที่หลบหนีผู้สังหารเทพมาได้ และเขาได้พูดถึงชื่อของ Gorr ออกมา และบอกว่าสิ่งที่มันกำลังทำอยู่นั้นก็เกิดจากสิ่งที่เกิดขึ้นในถ้ำแห่งนี้เมื่อนานมาแล้ว จากสิ่งที่เขาทำกับมัน
และเขานี่แหละคือต้นเหตุของเรื่องนี้
The Future
ในอนาคตอันแสนไกล ท้องพระโรงแห่งแอสการ์ด เหลือเทพเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่บนบรรลังค์แห่งนี้ รอบด้านเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และชายแก่ผู้อยู่บนบรรลังค์นั้นสูญเสียแขนและตาไปข้างนึง แต่อย่างไรก็ตาม ค้อนคู่ใจของเขายังคงอยู่ เขาได้เรียกร้องให้ใครสักคนนำแขนมาให้แก่เขา แต่เขาก็รู้ตัวว่าบัดนี้มันไม่มีใครอื่นอีกแล้วอยู่ที่นี่ เทพผู้ชราภาพนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ Thor เทพแห่งสายฟ้า ราชาแห่งแอสการ์ดที่บัดนี้พังทลายไปแล้ว เทพองค์สุดท้ายของเหล่าเทพทั้งหมดที่เหลือรอด และวันนี้เขาจะต่อสู้เพื่อที่จะได้ไปยังสรวงสวรรค์วัลฮาลาเสียที
ที่ด้านนอกอสูรกายสีดำได้โดน Mjolnir เข้าอย่างจัง และเมื่อมันบินกลับไปก็เข้าไปอยู่ในอุ้งมือเหล็กของ Thor (ดูเหมือนแขนของ Destroyer) ตอนนี้ Thor จะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เพื่อจัดการศัตรูร้ายของแอสการ์ด เพื่อนำความตายมาสู่ผู้สังหารเทพ และเหล่าอสูรกายทมิฬคลั่งของมัน
และให้มันได้รับรู้ว่าเขาจะสู้กับมันเฉกเช่นเทพองค์นึง แต่เบื้องหน้านั้นมีแต่ความดำมืด กองทัพของอสูรกายทมิฬคลั่งจำนวนมหาศาลได้รอเขาอยู่แล้ว
เขาได้เข้าปะทะกับพวกมันอย่างเต็มความสามารถ แต่ด้วยจำนวนที่มากเหลือล้นทำให้เขาเพียงคนเดียวไม่สามารถต่อกรได้ และเริ่มโดนเล่นงานอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายก็ถูกปกคลุมด้วยมืดมิด
เขาไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไปแล้ว
Thor God of Thunder #4
The Last God in Asgard
Thor ในวัยชราได้รู้สึกตัวว่าเขานั้นกำลังจะตายและจะได้ไปอยู่กับครอบครัวของเขาอีกครั้ง ใช่แล้วเขาได้พ่ายแพ้ต่อเหล่าผู้สังหารเทพ และถูกพวกมันพาตัวไป ซึ่งเขาได้หวนคิดถึงเรื่องต่างๆในชีวิตอันยาวนานของเขา เหล่ามิตรสหายล้วนตายจากไปจนสิ้น รวมไปถึงเรื่องที่แท้จริงแล้วเขานั้นไม่เหมาะสมที่จะเป็นราชาเลย แต่ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรอีกต่อไปนอกจากความละอายและความเงียบงัน เพราะสิ่งต่างๆกำลังจะถึงจุดจบแล้ว แต่พวกมันกลับไม่สังหารเขาทิ้ง ซึ่งนั่นทำให้ Thor สิ้นหวังยิ่งขึ้น พวกมันไม่ยอมให้แม้แต่ชัยชนะเล็กๆของเขาที่จะได้ตาย ถึงแม้ตอนนี้เขาจะสิ้นหวังจะร้องเรียกให้พวกมันมาสังหารเขาทิ้งก็ตามเขาทิ้งก็ตามที
ยุคปัจจุบัน
Thor ได้พบกับเทพผู้หลบซ่อน Shadark และเขาเลื่อนใสในตัว Thor ที่กล้าเผชิญหน้ากับ Gorr ซึ่งเทพตนนี้ได้ถูกพวกมันไว้ชีวิตแม้เขาต้องการจะให้พวกมันสังหารเขาเพียงใดก็ตาม และนั่นทำให้ Shadark เข้าใจว่า Gorr นั้นเป็นศิลปิน และจากอาวุธที่เขามีเขาใช้มันเพื่อทำลายความสง่างามแห่งเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในจิตใจ และทำให้เกิดเศษเสี้ยวแห่งความบ้าคลั่งขึ้นในจิตใจของผู้อยู่รอด และ Shadark ก็หนีมาอยู่ที่นี่ภายหลังจากที่ ผู้สังหารเทพได้สังหารเพื่อนของเขา Janaro เทพแห่งมิตรสัมพันธ์ ซึ่ง Thor ไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาเล่ามา เขาหวังจะได้เจอกับผู้สังหารเทพสักครา ซึ่ง Shadark นั้นไม่เห็นด้วยและกล่าวว่า ผู้สังหารเทพจะมาหาเขาเอง แต่อย่างไรก็ตามเขาเคยได้ยินคำพูดคำหนึ่งที่เป็นความลับของเขา นั่นคือ Chronux ซึ่ง Thor ไม่รู้จัก และบอกให้เขามากับตนและตนจะปกป้องเขาเอง
(ช่วงนี้ Shadark จะบอกว่าเหล่าสมุนของ Gorr นั้นเรียกขานว่า อสุรกายทมิฬคลุ้มคลั่ง (Black Berserkers ) )
และเขาจะได้จบทุกๆอย่างลงซะที
พวกเขามากันยังนครแห่งสรรพความรู้ จุดเชื่อมต่อของเหล่าเทพทุกองค์ Thor พา Shadark มายังที่นี่เพื่อพบกับผู้ปกครองของที่นี่ Libarian แต่เมื่อเข้าไปด้านในก็พบว่า Libarian ถูกจู่โจมจากเหล่าอสุรกายทมิฬจนบาดเจ็บสาหัส และพวกมันก็กำลังเตรียมที่จะเผาภูมิความรู้ของที่นี่ให้เป็นเถ้าถ่าน
ปีคริสต์ศักราชที่ 493
ภายในถ้ำของผู้สงหารเทพ Gorr ได้จับตัว Thor ไว้ เพื่อทรมานและให้เขาบอกเรื่องของเหล่าเทพทุกองค์ที่เขารู้มา ซึ่งแน่นอนว่า Thor ไม่ยอมง่ายๆ Gorr จึงต้องใช้ไม้แข็งทรมาน Thor จนเขาต้องแผดเสียงแห่งความเจ็บปวดดังกังวาลออกมาจากในถ้ำ
ปัจจุบัน Thor กำ Mjolinr ในมือจนแน่น และฟาดมันใส่เหล่าอสุรกายทมิฬ และ Shadark ก็ตัดสินใจที่จะสู้โดยมี Libarian ช่วยเหลือ ซึ่ง Thor ได้ถามถึงนาม Chronux ที่ Shadark เคยเอ่ยถึงในถ้ำ ว่าหนังสือเรื่องราวของเทพองค์นี้อยู่ที่ใด Libarian จึงตอบกลับว่า มันไม่ใช่เทพ หากแต่เป็นโลกอันเล้นลับ และมีเพียงหนังสือเล่มเดียวเท่านั้นที่สามารถนำเขาไปได้ และมันอยู่ในจุดที่กำลังเกิดเพลิงไหม้จากฝีมือของเหล่าอสูรกายทมิฬ Thor เบิกตากว้างรีบวิ่งเข้าไปด้านในอย่างลนลาน
อนาคตอันห่างไกล Thor ในวัยชราที่แทบไม่เหลือกำลังกระเสือกกายของเขาออกจากบัลลังก์ที่นั่งอยู่ เพื่อออกไปพบกับความตายที่เขาต้องการ และเรียกหาค้อนคู่ใจของเขาให้กลับมายังมือของเขาอีกครั้ง และเมื่อสิ้นเสียงของเจ้านาย ค้อนทรงพลังก็บินขึ้นฝ่าเหล่าอสูรกายทมิฬที่ขวางทางเพื่อกลับไปอยู่ในมือของเจ้าของที่แท้จริงอีกครั้ง และสิ่งที่เขาพูดออกมาก่อนเดินทางสู่ความตายและศึกสุดท้ายนี้ คือ
“เพื่อแอสการ์ด”
สิ้นเสียงเขาฟาด Mjolnir ลงพื้นก่อให้เกิดอำนาจทำลายล้างไปทั่วบริเวณ เล่นงานเหล่าอสูรกายทมิฬที่เข้าใกล้ ในขณะเดียวกัน Thor ในวัยหนุ่มกำลังโดนทรมานอย่างสาหัส และ Thor แห่งยุคปัจจุบันได้ค้นพบม้วนหนังสือที่เขาต้องการ
และมันได้กลายเป็นเถ้าถ่านในมือของเขา แต่เขาได้อ่านทุกสิ่งที่ต้องการจะอ่านแล้ว และจุดหมายต่อไปของเขาคือ Chronux นครแห่งอนันตกาล เพื่อเด็ดหัวของ Gorr ทิ้งเสีย
แต่สายไปอย่างนั้นหรือ เมื่อ Gorr ได้มาถึงก่อนแล้ว เหล่าอสูรกายทมิฬของเขาได้สังหารเหล่าเทพผู้อยู่ที่นี่ เพื่อนำเลือดของพวกเขามาเติมเต็มสระแห่งนี้เพื่อเดินทางข้ามผ่านกาลเวลา โดยเขาเหลือเทพองค์สุดท้ายไว้เพื่อร่ายมนตราให้แก่เขา ซึ่งดูเหมือน Gorr จะรู้ความลับอะไรบางอย่างของเหล่าเทพ แต่สิ่งที่เขาทำนั้นมากกว่าที่เทพองค์สุดท้ายแห่งโครนักซ์จะคาดคะเนได้เพราะพวกเขาไม่เคยใช้เลือดจำนวนมากขนาดนี้มาก่อนในการเดินทางข้ามเวลา Gorr จึงบอกเขาว่ามันรู้จักเทพอยู่ 2 แบบ คือพวกที่เทพที่ชอบทำร้ายคนอื่น และพวกที่ไม่ทำอะไรเลย แต่ในไม่ช้าเหล่าเทพทั้งหลายทั้งปวงจะได้รับรู้ในสิ่งเดียวกัน นั่นคือความตาย Gorr ลงไปในบ่อเลือดแห่งกาลเวลา เพื่อเดินทางไปยังช่วงเวลาที่เขาต้องการ
ในอนาคตอันห่างไกล ในที่สุด Thor ในวัยชราก็หมดเรี่ยวแรงที่จะสู้ต่อไป
Thor : อ๊ากกกกก
เขาถูกอสูรกายทมิฬแทงเข้าใส่จากด้านหลัง และล้มลงหมดซึ่งทางสู้
Thor : พวกแกมัวรออะไรอยู่อีกเล่า เจ้าพวกอสูรกายโง่งม พวกแกได้รับชัยชนะแล้ว
Thor : เจ้าได้ยินเสียงของข้าหรือไม่ กอร์ร์ ธอร์พ่ายแพ้แล้ว จบมันลงเสียที!
Thor : ข้าชราเกินไป และเหน็ดเหนื่อยเกินไปแล้ว ข้าไม่สามารถสู้กับพวกเจ้าได้อีกต่อไป ข้าไม่สามารถ...
ทันใดนั้นเองแสงสีฟ้าก็สว่างวาบขึ้น จนแม้แต่เหล่าอสูรกายยังต้องหวาดเกรง
Thor : เจ้าผู้สังหารเทพนั่น...มันอยู่ที่ไหน?
ท่ามกลางความสิ้นหวัง Thor จากยุคปัจจุบันปรากฎกายยืนตระหง่าองอาจประดุจเทพนักรบ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือดของเหล่าอสูรกายที่เขาสังหาร
Thor #05
Dream of A Godless Age
ในยุคปัจจุบัน Chronix, ณ นครแห่งอนันตกาลDream of A Godless Age
Gorr ได้ค่อยๆเดินลงสู่สระน้ำสีแดงฉานของเหล่าเทพผู้ปกครองที่แห่งนี้ ด้วยความคับแค้นแห่งกาลก่อน ความคับต่อเหล่าเทพของมัน
400 ล้านปีก่อน ภายในความว่างเปล่า
มันได้ย้อนกลับมายังยุคก่อนที่เหล่าเทพ หรือห้วงจักรวาลจะถือกำเนิด สถานที่ซึ่งเทพองค์แรกได้ให้กำเนิดดวงดาวต่างๆ และเบื้องหน้าของเขาก็คือเทพองค์แรกที่กำลังสร้างสรรค์เหล่าเทพขึ้นมา Gorr ได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมประกอบ ชีวิตแรกๆที่ถูกสร้างขึ้นมา และนั่นทำให้มองย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของมัน และตัดสินใจที่จะลงมือในสิ่งที่มันต้องการเสียที พลังความมืดของมันได้ห่อหุ้มตัวเป็นดังเกราะสีดำทมิฬ
“นามของข้าคือ กอรร์ บุตรแห่งบิดาผู้ไร้นาม ผู้ถูกทอดทิ้งจากโลกที่ถูกลืมเลือน”
“ข้าได้สังหารมามากเพื่อให้ข้ามาจนถึงจุดนี้ จุดกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง ด้วยความมืดมิดและความโกรธแค้น ร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ และทั้งหมดนั่นก็เพื่อความฝันเพียงหนึ่งเดียวอันเรียบง่ายที่ยังคงตราอยู่ในหัวใจมาตลอดของข้า...”
“...การมาถึงของยุคที่ไร้ซึ่งเทพเจ้า”
และที่ Chronux
Gorr ได้กลับมาในสภาพบอบช้ำพร้อมหัวใจดวงหนึ่ง มันคือหัวใจของเทพอาวุโสนั่นเอง และตอนนี้เขาต้องการช่วงเวลาที่เขาจะสามารถสร้างสิ่งที่เขาต้องการ และทำการล่าทาสครั้งใหญ่
แต่มันไม่เกิดขึ้นง่ายๆเป็นแน่ เมื่อ Thor ได้มาถึงแล้ว
Thor : เจ้าผู้สังหารเทพ จงเตรียมพบกับความพิโรธและความโกรธเกรี้ยวของเหล่าเทพซะเถอะ
ในอดีต 893 A.D. , ถ้ำของผู้สังหารเทพ
ภายหลังจากการทนการทรมานมาถึง 17 วัน ในที่สุด Thor ก็ทนต่อไปไม่ไหวและคิดจะที่จะบอกในสิ่งที่มันต้องการเพื่อหยุดความทรมานนี้ แต่ในตอนนั้นเองที่เหล่าทหารไวกิ้งได้มาถึง และในค่ำคืนนี้พวกเขาพร้อมยอมตายเปิดศึกกับ Gorr เพื่อช่วยเหลือ Thor เทพของเขา
และทั้งยุคปัจจุบันและอดีตต่างเปิดศึกกับ Gorr ซึ่งในอดีตนั้นมันไม่ได้ต้องการทำร้ายพวกเขา เพราะมันมุ่งเป้าแค่เทพเท่านั้น แต่เมื่อพวกไวกิ้งไม่ฟัง มันก็จำเป็นที่จะต้องสังหารพวกเขา และในปัจจุบัน Thor กำลังเสียเปรียบเพราะครั้งนี้มันไม่ได้มีแค่ Gorr แต่มีเหล่าอสูรกายทมิฬของมันด้วย และ Gorr ได้บอกถึงความรู้สึกของตนในถ้ำครั้งนั้น ว่ามันไม่เคยหวาดกลัวมนุษย์มากเท่าครั้งใดมาก่อนเท่าครั้งนั้น แต่มันก็ช่วยให้ Gorr ได้เข้าใจเรื่อง 2 เรื่อง
“เรื่องแรก เหล่ามนุษย์ที่นับถือในตัวเทพเจ้าจะหวาดกลัวโลกที่ปราศจากเทพเจ้ามากยิ่งกว่าความตายของตน...ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม”
“สอง ไม่ว่าข้าจะแข็งแกร่งเพียงใด หรืออาวุธของมันจะล้ำเลิศแค่ไหน ...ข้าก็ไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้ด้วยตัวข้าเพียงคนเดียว”
และตอนนี้แผนการของมันก็กำลังจะเข้าสู่ขั้นต่อไป
และมันได้บอกว่าความจริงแล้วมันจมลงสู่ความมืดแห่งการสังหารเทพ มันไล่ล่าสังหารเทพและทรมานพวกเขาไปเรื่อยๆ จนพบกับ Thor และในถ้ำวันนั้น Thor นี่แหละที่เป็นคนฉุดรั้งมันขึ้นมาจากความมืดนั่นที่เกือบจะกลืนกินความฝันของมันไปแล้ว เขาได้แสดงให้มันเห็นถึงเส้นทางใหม่ของมัน
และในถ้ำวันนั้น Thor ที่อ่อนล้าได้ตัดแขนของ Gorr ทิ้ง ในขณะที่มันกำลังไล่ล่าสังหารเหล่าไวกิ้ง และบอกให้พวกนั้นเลิกเชื่อถือในตัวของเทพ
และนั่นคือ เขาได้ช่วยมันไว้จากชีวิตทีเกือบจะล้มเหลว นั่นคือสาเหตุที่มันจะสังหารเขาเป็นคนสุดท้าย
จากนั้น Gorr ก็เดินไปยังบ่อเลือด พร้อมหัวใจของเทพอาวุโส ซึ่งเทพองค์สุดท้ายของ Chronux ก็จัดการตั้งเวลาให้มันตามที่มันต้องการเพื่อหมายจะรอดชีวิต แต่แน่นอนว่ามันไม่ทำแบบนั้น และสังหารเขาทิ้งทันที
Thor : ไม่ ข้าได้สาบานไว้แล้วว่าจะไม่มีเทพองค์ใดที่ต้องตายอีก
Gorr : งั้นแสดงว่าเจ้าไม่ได้ฟังที่ข้ากล่าวเลยงั้นสิ เทพทุกองค์ล้วนต้องตาย ตั้งแต่องค์แรกจนองค์สุดท้าย จะไม่มีเทพองค์ใดที่เหลือรอด และข้าจะทำมันในต่อจากนี้ไป การสร้างกองกำลังขึ้นมาเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น ข้าได้ตัดสินใจที่จะไปไกลกว่านั้น...
ในอดีต Thor คิดจะปลิดชีพ Gorr ทิ้ง
Thor : จงตายซะ เจ้าอสูรกายสีดำที่น่ารังเกียจ
Gorr : ไม่ ข้าขอปฏิเสธความตาย ข้าจะไม่ยอมตายหากเหล่าเทพยังคงอยู่
และสิ้นเสียง Gorr ก็หายตัวไปท่ามกลางแสงสีฟ้า และปัจจุบัน Gorr ก็เดินทางผ่านบ่อเลือดอีกครั้ง
Gorr : ลาก่อน ธอร์ จงมีชีวิตอยู่ให้ยาวนานที่สุด เพราะข้าคงจะต้องผิดหวัง หากเราไม่ได้พบกันอีกครั้ง
Thor : ม่ายยยยยยยยยย!!!
และเมื่อ Gorr ไปแล้ว เจ้าอสูรกายก็ทำลายคริสตัลทิ้ง เพื่อลบร่องรอยที่เจ้านายของมันไป และเมื่อมันเปิดช่อง ก็ทำให้ Thor สามารถหลุดจากการล้อมกรอบของเหล่าอสูรกายทมิฬได้
Thor : กอรร์ เจ้าจะไม่มีวันหนีพ้นจากข้าไปได้ มันจะไม่มีจักรวาลใดที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ข้าจะหาเจ้าพบ
Thor กล่าวขึ้นพร้อมพุ่งตัวตาม Gorr ลงไปในบ่อเลือด
และมันนำเขามายังช่วยเวลานี้ อนาคตอันแสนไกล
Thor : เจ้าผู้สังหารเทพ มันอยู่ที่ไหน
Thor.Old : ข้าคงจะสายตามืดบอดไปแล้วจริงๆ ที่ไม่ได้สังเกตเห็นเจ้าเลย
Thor : ท่านพ่อ มันเกิดอะไรขึ้นกับแอสการ์ด
Thor.Old : ข้าไม่ใช่พ่อของเจ้า เจ้าหนุ่ม เอาล่ะตอนนี้จับค้อนในมือนั่นให้มั่น และแสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้าแข็งแกร่งอย่างที่ข้าจดจำเจ้าได้
เมื่อกล่าวจบ Thor ทั้งสองก็โห่ร้องเพื่อเข้าปะทะกับเหล่าศัตรูเบื้องหน้า
ในอดีตที่ถ้ำ เหล่าทหารไวกิ้งต่างคิดว่า Thor สามารถสังหาร Gorr ได้แล้ว แม้แต่ตัวเขาเองก็ด้วยเช่นกัน และเขาได้สั่งให้ห้ามใครแพร่งพรายเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้เป็นอันขาด ตราบเท่าที่พวกเขามีชีวิตอยู่
อนาคต Thor ทั้งสองเข้าเล่นงานพวกอสูรกายทมิฬจนแตกพ่าย และค่อยๆหายไป
Thor.Old : พวกมันกำลังหายไป มันเรียกเจ้าพวกนี้กลับไป ตาข้าไม่ได้ฝาดไปจริงๆ นี่คือชัยชนะ
Thor : เจ้าผู้สังหารเทพ มันอยู่ที่ไหน ข้าตามหลังมันมา
Thor.Old : ตามหลังมันมางั้นหรือ นี่เจ้าโง่เง่าเกินกว่าที่ข้าจำได้ใช่มั้ยเนี่ย เจ้ามาถึงในจุดเดียวกับมัน แต่เจ้ามาสายเกินไป นั่นคือสิ่งที่ข้าบอกเจ้าได้ เจ้าหนุ่ม
Thor.Old : เจ้านั่นมันมาถึงที่นี่ได้ 900 ขวบปีแล้ว
คำตอบที่ได้ทำเอา Thor วัยหนุ่มถึงกับตกตะลึง
“และตอนนี้มันกำลังยุ่งมาก”
เงาร่างสีดำได้ถอนตัวออกจากโลก เพื่อกลับไปหาเจ้าของในดวงดาวอันห่างไกล และพวกมันเป็นแค่เศษเสี้ยวเล็กๆเพียงเท่านั้น
Gorr : หืม ธอร์อีกคนงั้นหรือ ช่างวิเศษจริงๆ เพราะมันแค่คนเดียวไม่สามารถรับมือพวกเจ้าจำนวนมหาศาลขนาดนั้นได้หรอก และมันก็มาได้ทันเวลาพอดีเสียด้วย
Gorr : ข้าได้กล่าวไว้แล้ว ว่าข้าจะเก็บเจ้าไว้เป็นเทพองค์สุดท้าย เทพเจ้าสายฟ้า และเวลานั้นใกล้จะมาถึงแล้ว
Gorr : มันจะเป็น วันแรกของยุคใหม่แห่งอิสรภาพ
“วันที่ความฝันของข้าเป็นจริง”
ในบัดนี้ เหล่าเทพที่เหลือล้วนถูกมันจับตัวไว้เป็นทาส เพื่อสร้างบางอย่าง และเทพที่เหลือรอดจะสามารถต่อกรกับมันได้ก็มีเพียงแค่ Thor : The God of Thunder เพียงคนเดียวเท่านั้น
เป็นอันจบบทแรกเพียงเท่านี้ และในเล่มหน้าจะเป็นประวัติของ Gorr ก่อนจะขึ้นบทจบที่แท้จริงของ Gorr ในบทที่สอง Thor : God Bomb แล้วค่อยมาพบกันใหม่ในสรุปบทหน้านะครับ
จริงๆตอนแรกผมไม่ได้สนใจ Thor เลยจริงๆ แต่พอได้มาอ่านแล้วก็ต้องคิดว่ามันสุดยอดจริงๆ เนื้อเรื่องทำออกมาได้เป็นมหากาพย์สุดๆ มีจุดเชื่อมต่ออะไรที่ลงตัวมาก จนผมอยากจะทำสปอยมาให้อ่านกันเลยทีเดียว และคิดว่ามันจะกลายเป็นสปอยสรุปที่ยาวมากเลยทีเดียว
สนุกมากครับ ยกนิ้วให้เลยย
ReplyDeleteไม่เคยคิดจะอ่าน thor จนกระทั่งเจออันนี้นี่แหละ
ReplyDelete