Spider-Man 2099 #7 : Spider-Verse Tie-in
เรื่องโดย : Peter David | ภาพโดย : Will Sliney
วางจำหน่าย : 7 มกราคม 2015
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
Spider-Man 2099 และ Lady Spider ทำการศึกษาร่างกายของ Daemos เพื่อหาทางเอาชนะพวกมัน
แต่เมื่อ Daemos ที่ถูกขังไว้ได้หลุดออกมา พวกเขาก็ต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนของเขา Punisher 2099!
ยุค 2099
Daemos ได้ติดอยู่ในกรงไฟฟ้าที่ถูกใช้เพื่อกักขัง Symbiote
Lady Spider : มีโอกาสมั้ยที่ เดียมอส จะหลุดออกมาได้?
Miguel : ไม่มีทาง ตัวที่ขุมขังจะเพิ่มระดับพลังงานทุกครั้งที่เขาทำการต่อต้านมัน เขาคงจะต้องใช้พลังมากพอที่จะดับไฟฟ้าจากเมืองท่าฝั่งตะวันออกหากคิดที่จะทำให้เกิดรอยแยกเล็กน้อย แต่จากนั้นมันก็จะประสานกันดังเดิมและขังมันไว้
Miguel : ดังนั้นมันจะเหมือนที่ฉันพูด หมอนี่จะไม่ได้หลุดไปไหน
เมื่อเห็นว่าเป็นไปตามแผน Miguel ก็ไปทำในสิ่งต่อไปของเขา นั่นก็คือ Tyler Stone
Miguel : ไทเลอร์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
Tyler : สไปเดอร์แมน ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง
Miguel : ฉันรู้สึกว่านายคงจะไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก
Tyler : ถ้าเป็นฉัน ฉันจะหยุดอยู่ตรงนั้นก่อนนะ
Miguel : เพื่ออะไรล่ะ?
Tyler : พอดีฉันตกแต่งห้องใหม่นิดหน่อย
“ เลเซอร์ ฉันเกลียด เลเซอร์ จริงๆ”
Tyler : จากที่นายพูดก่อนหน้านี้ตอนที่มาที่นี่ นายบอกเองว่าจะให้สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วถือว่าเกิดไปแล้ว
Miguel : นี่แกส่งฉันไปที่ยุค 2014 แล้วก็ทิ้งฉันไว้ที่นั่น!
Tyler : แล้วไง แกก็กลับมาอยู่ตรงนี้แล้วนี่ ดังนั้นจะมาหัวเสียอีกทำไมมิทราบ แล้วว่าแต่เพื่อนของแกนั่นใครกัน?
Miguel : เลดี้สไปเดอร์ เธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
Lady Spider : อะไรนะ?
Miguel : คุณรู้ว่าผมหมายถึงอะไร
Lady Spider : ฉันว่าไม่นะ
Miguel : ฉันอยากให้นายจัดเตรียมห้องแล็บที่อยู่ติดกับห้องที่ขังเดียมอสให้หน่อย
Tyler : ฉันจะทำไปเพื่ออะไร?
Miguel : ฉันจะใช้มันทำการผ่าบางอย่าง
Tyler : ผ่า...?
Miguel : ร่างเก่าของเจ้าคนที่พวกเรากำลังขังมันไว้ และฉันต้องการให้นายไปส่งคนเอามันมาจากจุดที่ฉันระบุไว้
Tyler : ก็คือจะให้ฉันจัดการเรื่องนี้จากใจของฉันเลยงั้นสิ?
Miguel : นายไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดหรอก ไทเลอร์ ในไม่ช้ายังไงนายก็ต้องกลับบ้าน และถ้าในไม่ช้านั้นนายหาเรื่องฉันอีก... ฉันจะตามไปหาถึงที่แน่ อยากจะลองดูมั้ยล่ะ?
Miguel : .... วินสตัน ไปทำตามที่เขาบอก
Winston : รับทราบ
Tyler : สไปเดอร์แมน ยินดีต้อนรับกลับนะ เพราะถ้าแกไม่อยู่มันรู้สึกไม่เหมือนเดิมเลยจริงๆ
Miguel : งั้นนายก็เชื่อมือฉันเรื่องนั้นได้เลย
Tyler : แน่นอน
Miguel ได้นำศพร่างเก่าของ Daemos เข้ามา และไม่ลืมที่จะจับตาดูร่างปัจจุบันไปด้วย ซึ่งเขากับมันก็มีการพูดคุยกันเล็กน้อย เพราะ Miguel มั่นใจว่ากรงขังนั่นจะเอามันอยู่และมันจะถูกฆ่าก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกมา
Daemos : นี่แกคิดจริงๆเหรอ ว่าฉันกับพี่น้องของฉันจะสามารถูกหยุดยั้งไว้ได้? นี่พวกแกมีความคิดที่ไร้เดียงสาแค่ไหนกัน พวกเราไม่มีวันที่จะถูกหยุดยั้ง พวกเราทำสำเร็จตามเป้าหมายของพวกเราเสมอ และพวกเราทุกคนล้วนเป็นอมตะ
Daemos : พวกแกจะได้ต่อสู้กับพวกเราตั้งแต่วันแรกที่พวกแกเกิดมาจนถึงสุดท้ายวันสุดท้ายของชีวิต และถึงตอนนั้นพวกเราจะเหยียมลงไปบนศพของพวกแก
Miguel : ถ้างั้นฉันก็หวังว่าแกจะมีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตอยู่ในนั้นไปตลอดชีวิต
Daemos : ไม่มีปัญหา แต่หากแกไม่เชื่อที่ฉันพูด... ฉันขอบอกว่า เชื่อเถอะว่ะ
“โชคร้ายจริงๆที่ฉันดันเชื่อนี่สิ”
“แต่ฉันคงจะโง่มากถ้าไปบอกมัน”
แต่ก่อนที่ Miguel จะเริ่ม เขาได้ขอให้ Lady Spider ช่วยเขาตรวจสอบอะไรบางอย่าง มันคือสิ่งที่เขาได้มาจากตัวเขาอีกคนที่คิดจะมาเตือนเขาเรื่อง Morlun ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าจะช่วยให้เขาสามารถโดดข้ามมิติได้ แต่เนื่องจากเขาไม่ได้เก่งด้านมิติเวลาเลยไม่รู้จะตรวจสอบยังไง และพอดีกับที่ Lady Spider มีความรู้เรื่องอุปกรณ์พวกนี้เลยให้เธอช่วยดูได้ ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่นี่จะช่วยเหลือเธอตรวจสอบ Lady Spider ที่รับมาก็ยอมรับว่าเธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้จริงๆ แต่พวกเขาไม่รู้ว่างานนี้ Tyler Stone ก็รู้ด้วยเช่นกัน
พวก Miguel ทำการตรวจสอบศพของ Daemos และพบว่ามันไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลย ในขณะที่ทาง Daemos ได้ยื่นข้อเสนอให้ทั้งคู่ ว่าหากทั้งคู่ปล่อยมันไป มันสัญญาว่าครอบครัวของมันจะปล่อยให้ทั้งคู่ไปและไปล่าสไปเดอร์แมนคนอื่นๆแทน แต่ Miguel ไม่คิดที่จะแลกเปลี่ยนตัวเองกับชีวิตของคนอื่นๆเขาจึงปฏิเสธข้อตกลงนี้ Lady Spider ก็ด้วยเช่นกัน
และเมื่อได้ยินเช่นนั้น Daemos จึงบอกว่ามันจะหลุดไปจากที่นี่และฆ่าพวกเขาเป็นคนแรก พร้อมแนะนำให้พวกเขาไปสั่งลากับคนที่รักก่อนได้เลย Miguel จึงวิ่งออกไปทันทีจน Lady Spider ตกใจที่เขาทำตามที่ Daemos บอก แต่ Miguel ก็บอกว่าเขาจะไปห้องแล็บชีวะข้างๆ พร้อมให้ Lady Spider จับตาดู Daemos ไว้ แต่เธอรู้สึกไม่ชอบใจกับ Daemos ที่ดูสงบนิ่งแบบนี้เลยจริงๆ
Miguel ที่ไปถึงห้องแล็บได้พูดคุยเรื่องการรักษาบางอย่างกับแพทย์ที่นั่น ซึ่งเขาบอกว่าโรคที่ Miguel บอกนั้นได้ถูกค้นพบยารักษาไปตั้งแต่ปี 2040 แล้ว และเขาสามารถที่จะทำตัวยาให้ได้ใน 2 นาที และแค่ฉีดเข้าไปก็เรียบร้อย แต่แล้ว Lady Spider ก็ติดต่อเข้ามา เพราะเธอคิดว่า Daemos กำลังคิดที่จะทำอะไรบางอย่าง และสุดท้ายเธอก็ต้องตะโกนเรียกให้เขารีบลงมา
เพราะ Daemos เริ่มพังที่นั่นแล้ว
Daemos : ฉันเตือนพวกแกแล้ว! สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเพราะพวกแกเอง!
Daemos : แค่พลังกายที่อ่านได้ของเขามันเกิดขีดจำกัดไปแล้ว! นายต้องรีบกลับมาเดี๋ยวนี้!
Miguel : กำลังไป!
Daemos : มันเป็นความผิดของแก! แกบอกเอง...ว่ามันจะฆ่าฉัน... ก่อนที่จะปล่อยฉันออกไป
Daemos : ความผิดพลาดของแกก็คือ… การที่แกบอกว่ามันจะหยุดยั้งฉันได้…
Miguel : พวกนายออกไปเดี๋ยวนี้!
Lady Spider : นี่นายคงไม่คิดหรอกใช่มั้ยว่ามันจะหลุดออกมาน่ะ?
Miguel : ก็ไม่เชิง เพราะเราไม่มีทางรู้แน่ชัดนี่!
Lady Spider : แต่นายยืนยันเองไม่ใช่หรือไง!
Miguel : ก็ฉันโกหกไง! มีความสุขหรือยังล่ะ?
Lady Spider : ไม่เลยสักนิด!
“ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย หมอนี่ดูดกลืนพลังงานมากพอที่จะส่องสว่าง นูวายอร์ก ได้ทั้งเมือง”
“แล้วนี่หมอนี่ยังยืนอยู่ได้ยังไงเนี่ย? ถ้ามันยังทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...”
Daemos : ฉันจะตาย! แกคงจะคิดแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ ฉันจะตายน่ะเหรอ? ใช่ ฉันจะตาย! และจากนั้นอีกไม่กี่นาทีร่างโคลนของฉันจะมาไล่ล่าพวกแก!
Daemos : มันจะรู้ทุกๆอย่างที่ฉันรู้! พวกแกจะไม่มี...วัน...
และแล้ว Daemos ก็สิ้นใจตายลงตรงนั้น แต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มของเภทภัยครั้งใหม่
“มันเหมือนกับว่ามันกำลังค่อยๆล้มลงไปอย่างช้าๆ แต่เมื่อตัวของมันตกลงไปถึงพื้น...”
“ฉันก็รู้ว่าพวกเขาจะบอกอะไรฉัน ก่อนที่พวกนั้นจะได้บอกฉันเสียอีก...”
??? : ไม่มีสัญญาณชีวิต! มันตายแล้ว! จบเรื่องแล้ว!
Miguel : ไม่ มันไม่ใช่แบบนั้น...
Miguel : กลับไปที่ห้องแล็บเร็วเข้า!
Miguel : ฉันไม่รู้ว่าพวกเราจะมีเวลาเหลือมากเท่าไร! ฉันแค่หวังว่าเธอจะทำให้เครื่องโดดข้ามมิติทำงานได้
Lady Spider : ไม่ต้องห่วงสำหรับเรื่องนั้น แล้ว เดียมอส ล่ะ?
Miguel : “พวกเราควรจะต้องคิดว่ามันพูดถูก”
Miguel : “...และมีตัวมันตัวอื่นกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้แล้ว”
Miguel : “แต่โชคดีเหลือเกินที่ฉันได้ติดต่อใครบางคนที่สามารถจะทำให้มันช้าลงได้ไว้แล้ว”
Lady Spider : “ใครบางคนที่ทำให้มันช้าลงได้? ใครกัน? เพื่อนของนายเหรอ?”
Miguel : “คำว่าเพื่อนอาจจะดูเกินไปหน่อย เอาเป็นว่าเป็นคนรู้จักแล้วกัน”
Daemos : นี่แกเป็นใครกัน?
เขาก็คือ Punisher 2099!
Punisher : พวกนั้นเรียกฉันว่า พันนิชเชอร์ และฉันชอบมีปัญหากับผู้คนที่ชอบฆ่าคนอื่น
Punisher : ฉันจะให้โอกาสแกหนึ่งครั้งที่จะยอมแพ้
Punisher : และขอล่ะ อย่าได้คิดที่จะใช้มันเชียว
Daemos : ฉันก็ไม่คิดอยู่แล้ว!
Daemos ที่คิดจะโดดขึ้นไปก็โดนยิงจนร่วงลงมา
Daemos : ไม่เลวนี่... สำหรับอาวุธของแก...
Daemos : แต่อีกไม่นานกระสุนของแกจะต้องหมด... หรือแย่กว่านั้น...
Daemos : แกจะยิงพลาด!
Daemos หลบกระสุนได้และถีบ Punisher กระเด็นจนปีนหล่นลงมา
Daemos : อาวุธของแกมันน่าสนใจมาก... แต่ฉันไม่ต้องการอาวุธ
Punisher : แกสู้แบบของแก ฉันก็สู้แบบของฉัน
Daemos : ไม้เบสบอล? นี่แกเอาจริงเหรอวะ? แกคิดว่ามันจะทำอันตรายฉันได้สักแค่ไหนกัน...?
แต่แล้ว Daemos กลับพบว่าเขาสมประมาทไม้นี้จนเกินไป เพราะเขาโดนตีจนหน้าหัน
Punisher : มันเป็นไม้ไทเทเนียม ฉันเลยคิดว่าพอประมาณเลยล่ะ
และจากนั้น Daemos ก็โดนต่อเข้าไปอีก 2-3 ไม้
Daemos : ไม่เลว แต่ถ้าแกอยากจะหยุดฉัน แกต้องใช้มากกว่านั้น
Punisher : อยู่แล้ว และที่ฉันคิดไว้ก็คือปืนพลังแก๊สพลาสม่า
เรียกง่ายๆว่า “ปืนไฟ” นั่นเอง
Daemos : ถามจริง แกคิดจริงๆเหรอว่ามันจะทำให้ฉันรู้สึกเจ็บน่ะ?
Punisher : ไม่ว่ะ แต่ฉันคิดว่าพื้นที่แกเหยียบอยู่จะรู้สึกนะ
Daemos : อะไรนะ?
ตามนั้น พื้นที่มันเหยียบอยู่โดนไฟเผาจนหลอมละลายส่งผลให้ Daemos ตกลงไปยังด้านล่างในทันที
Punisher : สไปเดอร์แมน ได้ยินมั้ย?
Miguel : ชัดเจนเลย เจค ว่ามาเลย
Punisher : ตอนนี้เพื่อนของนายกำลังวิ่งอยู่ที่ไหนสักแห่งบริเวณดาวทาว ฉันจะถ่วงเวลามันไว้อีกสักพัก
Punisher : ถ้านายมีที่ไหนที่ปลอดภัยจะไป เป็นฉันก็คงจะไปเหมือนกัน
Miguel : กำลังจัดการอยู่... และขอบใจมาก เจค สำหรับความช่วยเหลือ
Lady Spider : แล้วนายอยากให้มันพาเราไปที่ไหน?
Miguel : มีที่เดียว เขตปลอดภัย ว่าแต่เธอแน่ใจว่าตั้งค่ามันถูกต้องจริงๆ?
Lady spider : เอาเป็นว่าฉันกำลังเรียนรู้แล้วกัน
Miguel : แหม่ ทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจเสียเหลือเกิน
Lady Spider : ฉันมั่นใจประมาณ 90%
Miguel : 90 เนี่ยนะ?
Lady Spider : ก็ได้ จริงก็แค่ 75%
Miguel : เมย์!
Lady Spider : แล้วนายอยากอยู่ที่นี่หรือไงเล่า?
Miguel : ไม่อยู่แล้ว แต่ว่า...
Lady Spider : ถ้างั้น ก็เปิดการทำงานและพาพวกเราออกไปจากที่นี่
Miguel : ตามนั้น
และจากนั้นพวกเขาก็วาร์ปออกมาได้สำเร็จ
“ข่าวดีคือ เลดี้ สไปเดอร์ ทำได้ พวกเรามาถึงยังเขตปลอดภัย”
“แต่ข่าวร้ายก็คือ...”
“มีใครบางคนมาถึงก่อนเรา”
เบื้องหน้าของ Miguel และ Lady Spider คือซากศพของเพื่อนๆของเขา...
โปรดติดตามตอนต่อไป!
คุยกันท้ายเล่ม
แหม่จบเล่มนี่ Cosmic Spider-Man ศพสวยเชียว ก่อนหน้านี้ยังเป็นแค่ซากตากแห้งอยู่เลย ซึ่งจริงๆคิดว่าเล่มนี้หลายๆคนคงพอจะเดาเนื้อหาได้จาก Amazing Spider-Man #13 ที่ผ่านมาที่พบว่าทั้งคู่มาอยู่ที่ Safe Zone และจากพรีวิวก่อนหน้านี้พวกเขาก็จะพบและทำการซ่อมแซม Leopardon แต่พวกเขาจะซ่อมมันอย่างไรเป็นสิ่งที่ต้องติดตามในเล่มหน้า Spider-Man 2099 #8 ที่จะลงวันพรุ่งนี้ครับ!
สรุปจากที่ผ่าตัดไปเนี่ยได้อะไรมามั่งเนี่ย ดูๆมาไม่เห็นจะได้อะไรเลย
ReplyDeleteป.ล.เห็นด้วยเรื่องcosmicศพสวยเชียว(ตอนก่อนเป็นชีเปลือยอยู่เลย)
นักวาดไม่คุยกันสินะ 555
ReplyDeleteปกติการ์ตูนพวกนี้จะวาดนานมากแล้วค่อยวางแผง น่าจะทำให้มีเวลาปรับแก้ภาพนะ (หรือว่าจะมีอะไรแถๆ ว่าคอสมิคสไปเดอร์จะฟื้น)
ReplyDeleteจะว่าได้พลังกลับคืนก็ได้มั้งครับ เพราะเห็นบอกไว้ว่า พลังจะสถิต อยู่ที่ จักรวาลนี้เท่านั้น
ReplyDeleteพอคุณพ่อดูดไป แล้วกลับโลกของแก พลังเลยกลับมาสู่ cosmic ทำให้ฟื้นขึ้น
ดริฟฟฟฟ
นี่ Cosmic Spider-Man จะคืนชีพรึเปล่าเนี่ย?
ReplyDelete