Monday, August 12, 2013

Superior Spider-Man #15

Superior Spider-Man #15

Run, Goblin, Run! Part 1 of 2 : The Tinkerer's Apprentice

เรื่องโดย : Dan Slott | เรื่องโดย : Humberto Ramos

วางจำหน่าย : 7 สิงหาคม 2013

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics


การตามล่า Hobgoblin เริ่มขึ้นแล้ว เขาจะหนีจากเงื้อมมือของ Superior Spider-Man ไปได้สักแค่ไหนกัน

ที่ร้านรับซ่อมอุปกรณ์เล็กๆแห่งหนึ่ง

Hobgoblin ได้แบกเอาอุปกรณ์ของเขาเข้ามาในร้าน เพื่อให้ Tinkerer ที่เป็นเจ้าของร้านนี้ช่วยจัดการ ซึ่ง Tinkerer ก็ด่าเข้าให้ เพราะเขาบอกไว้แล้วว่าอย่าแต่งตัวแบบนี้เข้ามา เขาไม่อยากต้องเปลี่ยนร้านอีก แต่ Hobgoblin ก็อธิบายว่าเขาไม่มีเวลา เพราะเขาโดน Spider-Man ที่บ้าไปแล้วไล่ล่ามา อีกทั้ง Kingpin กับ Shadowland ก็ล่มไปแล้วด้วย และตอนนี้อยากให้เร่งจัดการซ่อมแซมอุปกรณ์ให้เขาก่อน


ซึ่ง Tinkerer ก็บอกว่ามันแพงอยู่นะ แต่ Hobgoblin ก็คิดว่าเขาหาเงินได้จากวีดีโอเขาจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ และรีบร้อนออกไปพร้อมบอกให้รีบซ่อม แล้วเย็นๆดึกๆวันนี้เขาจะมารับ ทางด้าน Tinkerer จึงส่งงานนี้ให้กับ Tiberius Stone ที่ตอนนี้กลายมาเป็นลูกศิษย์ของเขา โดยเขาหลบซ่อนอยู่หลังร้านของ Tinkerer หลังจากที่เขาโดนตามล่าจาก Kingpin และเมื่อ Kingpin ไม่อยู่แล้ว Tinkerer ก็คิดว่าน่าจะได้เวลาที่เขาจะจากไปแล้ว


และจากนั้น Stone ก็เอาอุปกรณ์ของ Stone มาไว้กับตัวเองเพื่อจัดการพวกมัน

“นี่มันเยี่ยมจริงๆ”

“ของเล่นของเจ้า ฮ๊อบก๊อบลิน มาอยู่ในมือของฉันแล้ว และเมื่อคิดถึงเมื่อก่อนที่เจ้านั่น ข่มขู่ ฉัน...”

“นี่มันยอดจริงๆ มันเป็นสัญญาณที่ดี เพราะฉันเองก็หลบอยู่ภายในนี้มาหลายอาทิตย์แล้ว...”

“หลังจากที่ สไปเดอร์แมน ทำลายแผนการของฉัน”

“หลังจากที่ คิงพิน ทำให้ฉันกลายเป็นคนที่มีค่าหัว”

“และหลังจากที่ แม็ก โมเดลล์ หันหลังให้กับฉัน”

“และต้องขุดขู้อยู่ที่นี่โดยทำอะไรไม่ได้...”

“แทนที่จะได้วางแผนกว่าล้านรูปแบบ เพื่อสั่งสอนพวกแกทุกคนให้รู้ว่า”

Stone : แกหาเรื่องกับเด็กเนิร์ดผิดคนแล้ว!


ที่ Hell's Kitchen

Spider-Man ยืนสั่งการเหล่าลูกน้องใหม่ของเขาให้เคลียร์พื้นที่ต่างๆ และบอกว่าใครที่หาศพของ Fisk พบก่อนจะได้รับไป 2 เท่าของค่าจ้าง จนทั้ง Carrie และ กัปตัน Watanabe ยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำอะไรแบบนี้จริงๆ

Carrie : ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายกับคนของนายทำอะไรแบบนี้นะ สไปเดอร์แมน...

Spider-Man : คิงพินได้เข้าควบคุมที่นี่นานเกินไปแล้ว และพอกันทีกับการอยู่เฉยๆแล้วไม่ทำอะไร

Spider-Man : ...การที่ต้องปล่อยให้ความชั่วร้ายลอยนวลอยู่ต่อไปทั้งๆที่ผมมีพลังที่จะหยุดมันได้

Spider-Man : ...นั่นต่างหากคือสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล เจ้าหน้าที่ คูเปอร์

Carrie : แล้วนั่นทำให้อะไรๆดีขึ้นมาหรือไง?

Spider-Man : ผมคงจะต้องขอยกประโยคที่ว่า "พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่" และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมทำ และมันก็จบลงแล้ว


และ Carrie ก็ขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว จากเรื่องของหุ่นยนยักษ์พวกนี้ ซึ่ง Spider-Man ก็ลากไปว่า เมืองนี้ช่วยสนับสนุนเขา และให้เธอลองถาม นายก Jameson ได้เลย และตำรวจก็เรียกหาทั้งคู่ก่อนที่ Carrie จะซักถามมากกว่านี้ นั่นเพราะพวกเขาพบศพของ Kingpin แล้ว

Spider-Man : วิลสัน ฟิสค์ หรือคิง พิน ได้ตายไปแล้ว เท่านี้นิวยอร์กก็ปลอดภัยมากขึ้น

Watanabe : ใช่ แล้วยังลดค่าใช้จ่ายสำหรับการสอบสวนได้ด้วย

Spider-Man : เอาล่ะ เจ้าหน้าที่ คูปเปอร์ และกัปตัน วาตานาเบะ ติดต่อมาหาผมด้วยล่ะ ถ้าพวกคุณพบศพของ ฮ๊อบก็อบลิน

Spider-Man : เพราะในตอนนี้ มันยังมีงานที่ผมต้องไปทำอยู่อีกมาก



และทาง Carrie ก็แน่ชัดแล้วว่า เขาเปลี่ยนไปจริงๆ และจากที่เขาพูดว่าเมืองนี้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้เขา ทำให้ Watanabe มีหนทางในการค้นหาบัญชีรายจ่ายของเมือง ที่อาจจะสาวไปหาแผนการเบื้องหลังที่เขาวางไว้ได้

Wanatabe : และแน่นอนว่าไม่ใช่ด้วย ฐานะของกัปตัน ยูริ วาตานาเบะ

Watanabe : โชคร้ายหน่อยนะพ่อเพื่อนนักโหนใย เพราะฉันเองก็มี "พลังและความรับผิดชอบ" เหมือนกัน... ในฐานะของ เรธ



Phil (Hobgoblin) ได้เอาไฟล์วีดีโอการก่อการของ Spider-Man ที่ Shadowland ออกมาโชว์ให้คนในสำนักงานดู จนตอนนี้เขาได้รับความไว้วางใจจากเหล่าเพื่อนร่วมงาน และหัวหน้า และ Robbie ก็บอกว่าถ้าเขาต้องการอะไรก็บอกมาได้เลย


เขาจึงขอให้ Robbie ขึ้นเช็คก้อนโตให้เขา ให้เหมาะสมกับวีดีโอนั่น แต่ยังไงก็ตาม เงินที่เขาได้มานั้นออกจะไม่มากพอที่จะจ่ายค่าแรงให้ Tinkerer และโดยเฉพาะกับ Origin Hobgoblin และเมื่อคิดถึง เขาก็ติดต่อเข้ามาทันที พร้อมถามถึงเรื่องเงินของเดือนนี้ที่ดูจะล่าช้ากว่าปกติ และย้ำว่ามันยังมีอีกหลายคนที่อยากจะเป็น Hobgoblin โดย Phil ก็พยายามบ่ายเบี่ยงว่าเดือนนี้อาจจะล่าช้าไปสักหน่อย

Kingsley : แล้วงั้น แกจะมานั่งดูหน้าฉันอยู่ทำไม? ไปสิ

Kingsley : แกเป็นสุดยอดวายร้ายไม่ใช่หรือไง ? งั้นก็ไปปล้นธนาคารสิ เจ้าบ้า! ปล้นมาสัก 4 หรือ 5 ล้าน...


Kingsley : นั่นเพราะถ้าแกยังคิดที่จะเป็นอย่างที่แกเป็นอยู่ แกก็ต้องจ่ายเงินให้ฉันในราคาที่มันน่าสนใจ

และเมื่อไม่ทางเลือก Hobgoblin จึงต้องออกไปปล้นธนาคาร อย่างที่เขาบอก

Hobgoblin : บ้าจริง มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?

Hobgoblin : ค่าใช้จ่ายเยอะเกินไป แถมยังต้องจ่ายเงินค่าใช้ชื่อและเจ้าอุปกรณ์พวกนี้ในแต่ละเดือนอีก ไหนยังมีการทำงานตามเวลาทั่วไป

Hobgoblin : เมื่อไหร่กันที่การกลายเป็นคนเลวแบบนี้มันกลายเป็นงานหลักของฉัน?


แต่การปรากฏตัวของเขาก็ส่งผลให้กับอีกคนนึงด้วย

Spider-Man : อะไรกัน? เป็นไปได้ยังไง เจ้า ฮ๊อบก๊อบลิน รอดมาได้?

Spider-Man : เจ้าหมอนี่รอดออกมาจาก ชาโดว์แลน โดยไม่ถูกระบบตรวจจับของฉันค้นพบได้ยังไงกัน

Spider-Man : และที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ระบบโครงข่ายของ สไปเดอร์-บอท ของฉันนั้นก็จับตามองดูเมืองนี้อยู่ เพื่อเตือนให้ฉันรู้เมื่อเกิดเหตุร้ายทุกอย่าง!

Spider-Man : แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง ที่เจ้าหมอนั่นมันหลบรอดจากกล้องทุกตัวของฉันได้...

Spider-Man : แต่กลับโดนนักข่าวของ เดย์ลี่ บูเกิ้ล ถ่ายภาพได้ทุกครั้ง? นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี!

Spider-Man : ฟังไว้เหล่าลูกสมุนของฉัน! ตอนนี้เหล่าสไปเดอร์บอทของฉันเกิดความผิดพลาดขึ้น ฉันต้องการคนที่จะเป็นดวงตาให้กับฉันตามท้องถนน คนที่ฉันเชื่อใจได้

Spider-Man : ถ้านายสามารถไล่ตามเจ้าบ้านั่นเจอ ก็ปิดล้อมมันไว้... และรายงานมาหาฉัน!

Spider-Man : จนกว่าจะหามันพบ จะไม่มีใครได้กลับบ้านทั้งนั้น เข้าใจมั้ย?!


Spider-Man : และฉันก็หมายถึงไม่มีใครจริงๆ

และนั่นหมายถึงตัวเขาเองด้วย และเขาก็หายตัวไปจากชีวิตปกติยาวนานกว่าอาทิตย์

ป้าเมย์ คิดในแง่ดีว่าเขาอาจจะยุ่ง และอาจจะเป็นเพราะ “แฟนใหม่” ที่เขาเคยพูดถึง และป้าเมย์ก็อยากจะเชิญทั้งคู่มาทานมื้อเย็น

MJ ยิ่งแล้วใหญ่เพราะเธอติดต่อหาเขาไม่ได้เลยนับตั้งแต่ที่คลับของเธอโดนเผา แถมยังไม่เคยมาเยี่ยมเลยด้วย ทำให้เธอเริ่มคิดว่า Peter ที่เธอรู้จักไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้...

Horizon Lab ในขณะที่กำลังมีการประชุมเรื่องคดีความ Peter ขาดการประชุมเป็นหนที่สาม จน Max เริ่มจะอารมณ์เสียแล้ว

และแม้แต่ Anna Maria ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น


และ Doc Ock ตอนนี้ก็มาหมกอยู่ที่ Spider-Island นี่เอง

“ เจ้า ปีเตอร์ ทำอะไรแบบนี้ได้ยังไง? เขาออกไปผจญภัยด้วยตัวเองแบบนั้นได้ยังไง?”

“ฉันพยายามใช้ทุกอย่างที่ฉันมีอย่างดีที่สุด ใช้ทั้งแผนการและงบประมาณ มากกว่าที่เจ้าหมอนั่นจะจินตนาการถึง...”

“...แต่ฉันก็ยังพ่ายแพ้ อย่างหมดท่าในตอนนี้ เพราะอะไรกัน? มันเป็นเพราะฉันตัดสินใจพลาดไปงั้นเหรอ?”

“ในฐานะของ ด็อกเตอร์ อ็อคโตปุส ฉันไม่เคยต้องปกปิดสถานะ ทั้ง อ็อคตาเวียส และ อ็อคโตปุส คือคนคนเดียวกันเสมอมา”

“บางทีอาจจะเป็นเพราะ ส่วนที่เป็น “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” นั่นแหละที่เหนี่ยวรั้งฉันเอาไว้”


“ถ้าฉันเลือกที่จะสละเจ้าส่วนที่เป็นชีวิตใหม่ของฉันออกไป...”

“และเลือกที่จะเป็น “แมงมุม” อย่างสมบูรณ์แบบ...”

“... ฉันจะสามารถที่ในสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้แก่โลกใบนี้ได้”

“แต่ว่ามันจะต้องเสียสละอะไรไปบ้างล่ะ เพื่อให้ได้กลายเป็นแบบนั้น?”

และในที่สุด Doc Ock ก็เลือกรับสายโทรศัพท์ สายหนึ่งเข้ามา

Doc Ock : สวัสดีครับ?

Anna : ปีเตอร์ใช่มั้ย? เฮ้ พ่อรูปหล่อ หายไปไหนมาตั้งนานเนี่ย?

Doc Ock : แอนนา มาเรีย! ไง คือว่ามัน... รู้สึกดีนะที่เธอโทรมาหาฉัน

Doc Ock : อะไรนะ? ไม่ๆ ฉันไม่ได้หลบหนีอยู่ในถ้ำที่ไหน...


ฐานทัพของเหล่า Goblin, ใต้ท้องถนนนิวยอร์ก

บุคคลสองคนกำลังคุยกัน

???1 : มีข่าวล่าสุดของเจ้า ฮ๊อบก๊อบลิน บ้างมั้ย

???2 : ทำไมจะไม่ละ? เจ้าหมอนั่นลงหน้าหนึ่งของ เดลี่ บูเกิ้ล ทุกวันเลยนะ แถมยังติดอันดับสูงสุดของวีดีโอในเว็บไซต์ของที่นั่นด้วย

???1 : และที่หมอนั่นหลุดรอดจากโครงข่ายของสไปเดอร์แมนได้ ก็ต้องขอบใจฉันนี่แหละ

???1 : เจ้างี่เง่าโชคดีจริงๆ

???2 : แล้วมันเป็นไปได้ยังไงกัน? ฉันคิดว่า “ก๊อบลิน โปรโตคอล” มันทำงานเฉพาะกับพวกเราเสียอีก

???1 : ผิดแล้ว คนที่สวมหน้ากากก็อบลิน หรือมีสัญลักษณ์ของฉัน จะได้รับสิทธิพิเศษนั่นทั้งหมด เจ้าโง่นั่นก็แค่ได้รับประโยชน์จากมันก็เท่านั้นเอง


???2 : งั้นมันจะรอดไปได้นานแค่ไหน...?

???1 : ในไม่ช้า เจ้าสไปเดอร์แมน ขี้กังวลนั่นจะต้องพบว่าฉันได้เจาะระบบของมัน ดังนั้นบอกให้เด็กๆซ่อนตัวไว้หน่อย เพราะฉันจะปิดการทำงานของโปรแกรม

และชายปริศนา ???1 คนนี้ก็คือ Green Goblin นั่นเอง

Green Goblin : มาดูกันว่า เจ้าโง่นั่นจะเป็นยังไง... เมื่อมันกลับมาสู่สายตาของสไปเดอร์แมนอีกครั้ง

Green Goblin : ใช่ มาดูกันว่าเจ้านั่นจะเทียบกับฉันได้หรือเปล่า


และทางด้าน Doc Ock ก็ไปหาอธิการของมหาลัยเพื่อพูดคุยปรึกษาเรื่องที่เขาหายตัวไป โดย อธิการก็ไม่ติดใจเรื่องของเขา และจากคะแนนผลการสอบที่สูงมากของเขาทำให้ทางมหาลับจะให้งบประมาณการวิจัยกับเขาตามที่ต้องการ และ Doc Ock ก็เอ่ยปากชม Dr.Lamaze เล็กน้อย ต่อหน้าของอธิการบดี จน Anna ยังคิดเลยว่าเขาพูดได้ เนียนมาก ซึ่งเขาก็ได้ใจของ Dr.Lamaze ไปในตอนนี้ และเป็นอันตกลงกันว่า พวกเขาจะไม่เจอกันจนกว่า Doc Ock จะส่ง Thesis มาให้ในกับ Dr.Lamaze และเหล่าผู้พิจารณา


Doc Ock : ขอบคุณมาก แอนนา นั่นเป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์ที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ

Anna : ก็นะ มันก็ดีสำหรับเธอ ที่บางทีไม่ได้รับโทรศัพท์ เพราะต้องออกไปช่วยสไปเดอร์แมน

Doc Ock : ใช่ โชคดีจริงๆ

Anna : ไม่ ฉันพูดจริงๆ เพราะว่าฉันหยิบมันออกมาจากกระเป๋าของเธอ

Anna : มันสั่นมาได้สัก 2 นาทีแล้ว

Doc Ock : แอนนา ทำไมเธอถึง?

Anna : เพราะว่า สไปดี้ น่าจะยังสบายดีน่ะสิ แต่ฉันน่ะกังวลถึงอนาคตของเรา ไม่สิ อนาคตของเธอ ปีเตอร์

Doc Ock : เธอพูดว่า อนาคตของ “เรา” ใช่มั้ย

Anna : อย่าพูดนะ!

Dock Ock : ฉันก็จะกลับมาคุยเรื่องนั้นทีหลังนะ แต่โชคไม่ดีเลยจริงๆ...


“... ที่ฉันเป็นที่ต้องการตัวที่ไหนสักแห่ง”

และ Hobgoblin ก็ก่อการอีกแล้ว แต่ว่าคราวนี้ “Goblin Protocol” ของ Spider-Bot โดนปิดไปแล้ว และ Stone ก็ดำเนินการตามแผนของเขาแล้ว โดย Hobgoblin ก็คิดว่าหลังจากปล้นคราวนี้และขายวีดีโอให้กับ Daily Bugle เขาน่าจะมีเงินจ่ายซักที แต่แล้วฝันร้ายของเขาก็เริ่มต้นขึ้น

Spider-Man : ไง ก็อบลิน?! แกทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?


Spider-Man : บอกฉันมาซิ ว่าเจ้าโง่ งี่เง่า แบบแก หลุดรอดจากการตรวจจับของฉันมาจนถึงตอนนี้ได้ยังไง?!

Spider-Man : บอกฉันมา!

Spider-Man : ก่อนที่ฉันจะ...

Hobgoblin : ก่อนที่แกจะทำอะไร?! แกจะทำอะไรฉันได้อีกเจ้าแมลงงี่เง่า?!

Hobgoblin : ในเมื่อแกเอาทุกๆอย่างไปจากฉันจนหมดแล้ว !

Hobgoblin : ทุกอย่างของฉันพังพินาศเพราะแก!

Hobgoblin : และที่นี่... ตอนนี้... คือเวลาที่ฉันจะขอบางอย่างกลับคืนมา

Hobgoblin : เริ่มจากการเฉือนเอาหัวของไอ้เจ้านักโหนใย...ของแก...? เฮ้!

แต่มันมีอะไรแปลกๆ ดาบเพลิงของเขาไม่ทำงาน


และมันคือฝีมือของ Stone ที่ควมคุมจากระยะไกลนั่นเอง

Stone : ว้า มันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ยังไงน้า?

Spider-Man : ทำตามที่ฉันบอก

Spider-Man : พูดออกมาซะ!

Spider-Man : บอกมาซะ ว่าแกใช้กลเม็ดอะไรในการหนีจากสายตาของฉัน...

Spider-Man : แล้วฉันจะพิจารณาอีกครั้งเรื่องที่จะปรานีแก

Hobgoblin : ว้าว ใช่เลย... ฟังดูใจกว้างจังนะ...

Hobgoblin : แต่ฉันขอเผ่นดีกว่า! เจอกันคราวหน้านะ ใช่ หน้า หน้า แบบไกลๆล่ะ!

Spider-Man : เจ้าคนขี้ขลาดนี่


Spider-Man : แกอาจจะเร็วแต่ก็ไม่มีทาง... หยุดฉันได้

แต่มันทำได้เพราะมันเล่นทิ้งทุกอย่างแล้วกลับสู่สภาพของคนทั่วไป

“ฉลาดมาก ท่าทางจะต้องติดตามมันจับเครื่องตัวจับขนาดนาโนแล้วสิ”

“...แต่จากที่ฉันตรวจจับได้ มันก็อยู่บนอุปกรณ์ที่มันทิ้งพวกนี้ซะส่วนใหญ่”

Spider-Man : ดังนั้นตอนนี้คำถามก็คือ ฉันข่วนเล่นงานหมอนั่นได้ลึกพอหรือเปล่า?

Spider-Man : ส่วนที่เหลือจะไปติดอยู่บนตัวของหมอนั่น ที่ผิวหนังบ้างมั้ย?

Spider-Man : บ้าจริงๆ เจ้าหมอนั่นอาจจะเป็นใครก็ได้ในตอนนี้

Spider-Man : และถ้าเจ้านั่นสามารถซ่อนตัวมันจากเหล่าสไปเดอร์บอทของฉันได้แล้วละก็... กับอีแค่การบล็อกเครื่องแกะรอยระดับนาโนของฉันก็คงจะเหมือนกับเด็กเล่นขายของเลยมั้ง

Spider-Man : แต่ไม่มีทาง! ฉันจะไม่ยอมเสียมันไป! โดยเฉพาะเมื่อฉันมาได้ไกลถึงขนาดนี้แล้ว!


Spider-Man : แกอยู่ที่ไหนกัน

ทางด้าน Hobgoblin ก็ลอกเปลือกออกกลายเป็น Phil และตรงกลับไปยัง Daily Bugle

Phil : ถอยออกไป

“ไม่อยากเชื่อว่าฉันจะต้องทิ้งอุปกรณ์ทั้งหมดไปแบบนั้น”

“แต่มันก็โชคดีที่ฉันจะได้หาอย่างอื่นมาทดแทนเจ้าขยะพวกนั้น”

“แล้วยังคิงสลี่ย์อีก! หมอนั่นยังต้องการเงินจากงานล่าสุดนั่นอยู่อีก ฉันต้อง...”


Phil : โรเบิร์ตสัน เขาอยู่ที่ไหน? ฉันต้องการตามเจอ ร็อบบี้ เดี๋ยวนี้!

Robbie : ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว มีอะไร?

Phil : นายต้องจ่ายเช็คมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ! ตอนนี้เลย!

Phil : และถ้านายต้องการวีดีโอตัวหน้าของฮ๊อบก๊อบลินในคราวหน้า ก็จ่ายฉันมาเดี๋ยวนี้เลย!

Robbie : ฟิล สงบสติหน่อยซิ โอเคมั้ย? อูริช ช่วยฉันจัดการกับหลานชายของนายหน่อย

และชื่อของเขาก็เข้าหูของคนที่ไม่ควรจะได้ยินที่สุดแบบเต็มๆ

Spider-Man : “ฟิล” “อูริช” อืมมมม

Spider-Man : คุณภาพเสียงที่ได้ยินไม่มีปัญหา แต่มันจะอยู่ได้นานแค่ไหนกันล่ะ?

Spider-Man : งั้นฉันก็ควรจะใช้ข้อได้เปรียบของฉันให้มากที่สุดในขณะที่ยังทำได้งั้นสินะ

Spider-Man : คอมพิวเตอร์ อ็อคตาเวียส แผน โอเมก้า วัน เริ่มได้


Spider-Man ทำการถ่ายทอดคำพูดของเขาออกช่องสัญญาณโทรทัศน์ทุกตัวในเมืองนี้

Spider-Man : เหล่าผู้คนแห่งนิวยอร์ก ผม คือ สไปเดอร์แมน จากทีมอเวนเจอร์ ตอนนี้ผมต้องการความช่วยเหลือของพวกคุณ

Spider-Man : ผมต้องการให้คุณเป็นฮีโร่ของผม

Spider-Man : ผมต้องการให้คุณเป็นตาให้กับผม


พนักงาน 1 : บ้าจริง เขาออกทุกช่องเลยอ่ะ

Spider-Man : ตอนนี้มันมีผู้ที่หลบหนีอยู่ในเมืองของเรา ได้โปรดช่วยผมตามหาตัวเขาด้วย เขาเป็นวายร้าย...

Spider-Man : ที่ชื่อว่า ฮ๊อบก็อบลิน... และในขณะเดียวกันเขาก็คือชายคนนี้ ฟิล อูริช

Phil : ไอ้เจ้าแมงมุมเวรตะไล...

งามไส้แล้ว ตัวตนของ Hobgoblin ถูก Spider-Man เปิดเผยกลางที่สาธารณะ Phil จะทำอย่างไรต่อไป เมื่อทุกๆอย่างรอบตัวเขาล้วนพังทลาย? และ Spider-Man จะตรวจพบความผิดพลาดใน Spider-Bot ของเขาหรือไม่?


โปรดติดตามตอนต่อไป

เล่มหน้า

จุดจบของวงศ์วานแห่ง Hobgoblin!


คุยกันท้ายเล่ม

เล่มนี้เนื้อเรื่องค่อนข้างจะเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีการแสดงถึงพัฒนาการของตัวละครหลายๆคน และความรู้สึกแปลกๆของแต่ละคนที่รู้สึกในตัว Peter รวมถึงตัว Doc Ock เองด้วย แต่สุดท้ายที่สดใหม่จริงๆก็คือ การประกาศตัวจริงของวายร้ายออกสื่อนี่แหละ ที่แทบจะไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนใหญ่จะเห็นแต่วายร้ายประกาศตัวจริงฮีโร่คราวนี้กลับกันซะงั้น นับเป็นคราวซวยของ Phil อย่างแท้จริงที่ต้องมาเผชิญหน้ากับ Spidy Ock แบบนี้ และเล่มหน้ามาดูกันว่าเรื่องราวจะจบลงยังไงครับ

และสำหรับตัวละคร Hobgoblin (Phillip Urich) ใครอยากรู้เรื่องราวของเขาผมมีแปลไว้แล้ว ที่นี่ ครับ

SSM #16 ผมคาดว่าจะออกในอาทิตย์หน้า หรือพุธที่ 21 สิงหาครับ

8 comments:

  1. ว่าว แปลกใหม่

    ReplyDelete
  2. จะฆ่าทิ้งกันงี้เลยหรือนี่ โดนประจาร- -*

    ReplyDelete
  3. เขร้ !! Doc Ock พี่เเกมาเหนือเมฆ
    บอกเเล้วว่าอย่าไปหาเรื่องกับเเก Spidy ไม่ใช่เพื่อนบ้านที่เเสนดีเเบบเเต่ก่อนเเล้ว
    Green Goblin ได้เป็นรายต่อไปเเน่

    ReplyDelete
  4. งานนี้ถ้า Hobgoblin แสดงฝีมือได้ดีล่ะก็มีโอกาสจะได้นายจ้างใหม่นะเนี่ย

    ปล. คุณ Genesis ครับ ผมอยากขอทำสปอยหัวนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะมีเวน่อมเข้ามาเป็นดารารับเชิญได้ไหมครับ?

    ReplyDelete
    Replies
    1. จริงๆแล้วก็ไม่มีปัญหาครับ มันติดที่ว่าเล่มนี้ผมแปลลงแค่ที่บล็อกน่ะครับ ถ้าแบบนั้นมันเลยอาจจะว่างไปช่วงหนึ่งในบล็อก

      ถ้ายังไงรอบนี้อาจจะทำคู่กันไปได้มั้ยครับ คือ คุณ NetNN ก็ทำลงที่ pantip กับ comics66 ส่วนผมก็ลงที่บล็อกตามปกติ

      Delete
  5. ยินดีมากครับ

    ผมชอบอ่านสไตล์การแปลของคนอื่นเพื่อเอามาเทียบกับของผมเพื่อดูว่าผมมีข้อดีข้อด้อยอย่างไรอยู่แล้ว ถ้าได้ทำสปอยคู่กันไปก็ยิ่งดีครับ

    ปล.ผมเห็นคุณทำสปอยอยู่ก่อนแล้วเลยคิดว่าควรให้เกียรติ์ด้วยการขออนุญาติคุณก่อนน่ะครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ยินดีเช่นกันครับ ^ ^

      ผมก็ชอบงานแปลของ คุณ NetNN เหมือนกันครับ การใช้คำกับรูปแบบการแปลละเอียดมากเลยครับ แถมยังแฝงรายละเอียดจุดเก่าๆด้วย

      Delete
  6. คนฆ่าฟิล อาจจะเป้นคิงสเล่ย์เองก็ได้ (เหมือนกรณี เจสัน ฟิลลิป)

    ReplyDelete