Superior Spider-Man #16
Run, Goblin, Run! Part 2 of 2
เรื่องโดย : Dan Slott | เรื่องโดย : Humberto Ramos
วางจำหน่าย : 21 สิงหาคม 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
การตามล่ามาถึงจุดสิ้นสุด พบกับจุดจบของ Hobgoblin!!
หลังจากการประกาศตัวตนของ Urich ออกไป มันทำให้ตึก Daily Bugle เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้น แต่ Robbie ได้ประกาศให้ทุกๆคนห้ามส่งข้อความหรืออะไรออกไปทั้งนั้น ถ้ามีใครทำเขาจะไล่ออกทันที
และนั่นเป็นเพราะ Robbie ยังคงเชื่อใจ Urich และ Ben ลุงของเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเพราะเขาคือหลานของตนเอง ส่วน Norah ก็บอกให้ Urich พูดออกมาว่าเขาไม่ใช่ Hobgoblin แต่คนอื่นๆก็กำลังชุลมุน จน Spider-Man บอกเพิ่มเติมถึงสิ่งที่ทำให้เขากลายมาเป็น Spider-Man และอยากให้ทุกๆคนให้ความร่วมมือกับเขาในครั้งนี้
และด้วยคำพูดของ Spider-Man ทำให้หลายๆคนเริ่มที่จะเชื่อเขา จน Urich ร้อนตัวกว่าเดิม ซึ่ง Robbie กับ Ben ก็พยายามช่วยเหลือเขา แต่สิ่งที่พวกเขาลืมไปก็คือพวกเขาไม่ได้ด้านนอก ว่าตอนนี้คนอื่นๆมาล้อมหน้าตึกไว้หมดแล้ว ซึ่ง Norah ก็คิดว่าเมื่อมองภาพรวมมันมีความเกี่ยวข้องกันจริงๆ และนี่คือโอกาสสุดท้ายที่ Urich จะพิสูจน์กับเธอ แต่เมื่อสิ่งต่างๆเริ่มค่ำเครียด สภาวะอารมณ์ของ Urich เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
"หมอนั่นอยู่ที่บูเกิ้ล"
Spider-Man : มันปรากฎขึ้นมาในเครื่องตรวจตราของตำรวจ
Spider-Man : และสัญญาณอ่อนๆของเครื่องสะกดรอยระดับนาโนของฉันก็คอนเฟิร์มว่ามันใช่
Spider-Man : หน่วยลาดตระเวนแมงมุม ได้ยินมั้ย! ใครอยู่ใกล้ที่สุด?
Spider-Patrol A : นี่คือหน่วยลาดตระเวนที่สาม อยู่ในช่วงหัวมุมถนนที่ 23 ตรงบอร์ดเวย์ พวกเราแยกย้ายกันออกไป แต่พวกเราน่าจะไปถึงได้ใน...
Spider-Man : ไม่ต้องมากเรื่อง! ไปตอนนี้เลย ฉันอยากให้เครื่องจักรกลหนักนั่นไปอยู่ที่บนท้องถนน...
Spider-Man : และฉันไม่สนใจ ถ้าพวกเราจะยิงโดนพวกคนอื่นๆที่ขวางทางอยู่ไม่กี่คน
และในขณะที่หนึ่งในหน่วยลาดตระเวนกำลังวิ่งออกไป เขาก็โดนผ้าผืนหนึ่งจับตัวไว้
Spider-Man : สิ่งเดียวที่ฉันสนใจ นั่นก็คือ การจัดการเจ้าอูริช...
“...ในขณะที่หมอนั่นยังถูกขังอยู่ในนั้น”
ที่ออฟฟิศ Phil เริ่มคลั่งแล้ว
Ben : เฮ้ ฟิล สงบสติหน่อย ทุกๆอย่างมันจะโอเคน่...
Phil : ชู่----- มันเป็นไปตามนั้นแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
Phil : ลองดูผมสิ มีงานที่ยอดเยี่ยม ฮ่า ฮ่า... และยังผู้หญิงที่แสนจะเซ็กซี่
Phil : ผมได้ทุกๆอย่างมาครองแล้ว เหมือนกับความฝันเลยไม่ใช่เหรอ?
Phil : ฮ่า ฮ่า ฮ่า
Norah : เยี่ยมเลย งานนี้พวกเราได้ตายกันหมดแน่ จริงมั้ย?
Spider-Man : ไม่ใช่วันนี้หรอก คุณ วินเทอร์ มันจะไม่เป็นแบบนั้น
Spider-Man : ถ้ายังมีผมที่จะจัดการกับเขาอยู่
ตัวประกอบ 1 : สไปเดอร์แมน
Robertson : ฉันคิดว่านายสร้างเรื่องเยอะเกินไปแล้วในวันนี้นะ พ่อนักโหนใย
Spider-Man : อะไรนะ นี่นายกล้าดียังไงมาบอกฉันแบบนั้น ฉันเป็นคนดีนะ ฉันเป็นฮีโร่
Robertson : ไม่ใช่ นายมันก็แค่ไอ้บ้าที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น... คนที่ทำให้เรื่องราวบานปลายและสร้างเรื่องให้ทุกๆคนกระวนกระวาย
Robertson : และจากที่พวกเรารู้ ชายคนนี้ยังมีสิทธิที่จะเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แล้วไหนล่ะหลักฐานของนาย?
Spider-Man : จะบ้าตาย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ เดลี่ บูเกิ้ล ร้องขอหลักฐานในการพิสูจน์ตัวตนวายร้ายจากฉันเนี่ยนะ
Spider-Man : นี่นายเห็นอะไรที่มันย้อนแย้งกันใช่มั้ย? แต่โอเค 20 นาทีก่อนฉันใช้...
และ Spider-Man ก็ยื่นมือของเขาออกไปให้ดู
Spider-Man : ...เจ้านี่ข่วนหมอนั่นเพื่อสอดเครื่องแกะรอย นาโน-สไปเดอร์ ลงไปในตัวเจ้า ฮ๊อบก็อบลิน
Spider-Man : เอ้าทีนี้ทายสิ ว่าสัญญาณมันโผล่ออกมาจากไหน
Phil : ฮ่า ฮ่า ตรงนี้ไง ไอ้แมงมุม...
Phil : เดี๋ยวฉัน ฮี่ ฮี่ ช่วยนายเอง!
แล้ว Phil ก็ดึงเอาดาบเพลิงที่ซ่อนไว้ออกมา และกระชากตัว Nora เข้ามา
Phil : เอาแบบให้แกเห็นภาพเลยล่ะ!
Phil : แล้วมันยังมีทางไหนที่จะแสดงให้แกเห็นได้ดีกว่าการสาธิตให้แกดูล่ะจริงมั้ย?
Phil : แล้วดูสิ... ไม่เคยมีใครบอกแกเหรอว่า “ก๊อบลิน” ชอบ ศพสาวผมบลอนน่ะ
ซึ่งเรื่องของเขาก็ออกข่าวไปทั่ว ว่าตอนนี้เขาแสดงตัวตนแล้ว พร้อมจับตัวประกันด้วย
ห้องแล็บลับของ Tiberius Stone
Stone : นั่นแหละ แกจบแล้ว เจ้าก็อบลิน
Stone : แล้วมาลองคิดดูซิ แค่ฉันกดปุ่มลงไป แกก็แทบจะไม่มีอะไรไว้ใช้ป้องกันตัวอีก!
Stone : แต่ไม่ล่ะ เก็บอาวุธของแกไว้เถอะ เพราะเรื่องนี้มันไม่มีทางที่จะจบลงโดยที่แกไม่โดนยิงจมกองเลือดแน่ๆ
Stone : เอาล่ะ จัดการก็อบลิน เรียบร้อย เช็ค
Stone : ใครจะเป็นรายต่อไปในรายชื่อของฉันล่ะเนี่ย...?
และข่าวของ Urich ก็มีถูกนำเสนอออกไปมากมาย ในสื่อหลายช่อง ซึ่งบางช่องก็ยังโยงออกเกี่ยวกับตัว Norman Osborn ที่เคยถูก Peter Parker อดีตนักข่าวของ Daily Bugle เปิดโปงด้วย
ZNN Reporter : และไม่นานมานี้ ศาลเตี้ยอีกคนหนึ่ง ที่รู้จักในชื่อ วาร์ธ ได้ใช้เทคนิคเดียวกันนี้ ...
ZNN Reporter : ประกาศต่อสาธารณะชนว่า ชายผู้ใจบุญอย่าง มาร์ตืน ลี นั้นก็คือ มิสเตอร์ เนกาทีฟ
ZNN Reporter : และนั่นทำให้ผมอยากรู้ว่า ทำไมเธอถึงคิดที่จะสวมหน้ากาก? และเธอเก็บซ่อนอะไรไว้กันแน่?
และตอนนี้ Wraith ก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมสอบสวนข้อมูลจากหนึ่งในลูกน้อง Spider-Man
ณ ซอยย่อยบนถนน Mid Town
Wraith : แกเป็นหนึ่งในคนที่ทำงานให้ สไปเดอร์แมน แกเป็นทหารของเขา!
Wraith : เขาใช้อะไรในการจ่ายให้กองกำลังพวกนั้น?
Wraith : เขาใช้เงินโสมมอะไรจ่ายให้พวกแก! บอกมา!
ลูกน้อง : “เงินโสมม?” นี่แกพูดอะไรเนี่ย?
ลูกน้อง : ฉันก็แค่ถูกจ้างมาทำงาน ทุกๆอย่างทำตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย อย่างถูกต้อง นั่นคือความจริง! ฉันสาบานได้!
“เขาพูดความจริงหรือเปล่า?”
Wraith : ก็จากเครื่องตรวจจับของฉัน ใช่เขาพูดความจริง
Wraith : และเลนส์ตรวจจับใบหน้าของฉันก็ตรวจเจอแล้ว ว่าชายคนนี้ๆไม่เคยก่อคดีอาชญากรรมขึ้นมาเลย ในชีวิต
“บางทีคุณน่าจะลองใช้ก๊าซความกลัวนะ”
และคนที่ติดต่อกับเธอก็คือ Carrie นั่นเอง
Wraith : แล้วนั่นมันจะช่วยอะไรได้นอกจากทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนเลวล่ะ?
Carrie : ก็ได้ งั้นเอาใหม่นะ เอาเป็นคุณส่งหมายเลยบัญชีธนาคารของเขามาให้ฉันละกัน
Carrie : โว้ว นั่นเร็วมาก แต่ก็โอเค... มาดูกันว่ามันจะนำเราไปหาอะไรได้บ้าง
ลูกน้อง : เฮ้ เดี๋ยวนะ ผีบ้าอะไรต้องมายุ่งกับบัญชีธนาคารของฉัน?
Wraith : หุบปาก
Wraith : แล้วไง? ตกลงนั่นได้เรื่องมั้ย? พอจะมีข้อมูลอะไรที่จะเปิดโปงได้มั้ย?
Carrie : เกือบแล้ว และเอาจริงๆมีเป็นหมอกควันซะมากกว่า ไม่มีอะไรเด็ดๆเท่าไร แต่เดี๋ยวก่อน
Carrie : สิ่งที่พวกเราทำ มันนำเราไปหาบัญชีธนาคารขนาดใหญ่นอกประเทศ
Wraith : นั่นมันพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก
Carrie : ผิดแล้ว มันทำได้ เพราะฉันรู้จักสไปดี้ตัวจริง
Carrie : สไปดี้ตัวจริงแทบจะใช้เงินเดือนชนเดือน นับประสาอะไรกับกองทุนลับ
Carrie : แล้วคุณคิดว่าไงถ้าพวกเราจะเดินทางไปยังเกาะเคย์แมน? เพราะพวกเราจะตามเรื่องเงินต่อไป
Carrie : และจากนั้นพวกเราก็จะสามารถเปิดโปงหน้ากาก “สไปเดอร์แมนผู้ยอดเยี่ยมที่สุด” คนนี้ได้ และให้ผู้คนได้เห็น...
“...ว่าใครกันแน่ที่พวกเขากำลังพบเจออยู่ตอนนี้”
ที่ Daily Bugle สถานการณ์พลิกผันอีกครั้งเมื่อ Nora ไม่ได้เคี้ยวง่ายอย่างที่เขาคิด
Norah : อูริช เจ้าคนบ้า
Norah : นายดื่มเบียร์กระป๋องสุดท้ายของฉัน บังคับให้ฉันดู โคตรคนทีมมหากาฬ 2 แล้วตอนนี้ยังนี่อีก?
Norah : พวกเราจบกันแล้ว!
Spider-Man : ยอดเยี่ยมมากคุณวินเทอร์ และคิดว่าฉันน่าจะจัดการ...
Spider-Man : เอ่อ... เฮ้ย หลีกทางไปหน่อยเซ่ เจ้าพวกโง่!
Spider-Man : นี่ฉันพยายามช่วยพวกนายอยู่นะ!
Phil : จริงเหรอ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า!
Phil : งั้นนั่นแหละคือหนทางชนะของฉัน!
Phil : นั่นหมายความว่าฉันเป็นที่หัวเราะเป็นคนสุดท้ายไงล่ะ!
Phil : แกอาจจะรอดจาก คลื่นเสียงโซนิคของฉัน เจ้าแมงมุมงี่เง่า...
Phil : แต่ไอ้พวก “โง่” พวกนี้กลายเป็นเนื้อตากซากแน่!
HA HA HA HA HA HA
แต่แล้วเขาลืมไปว่าลุงของเขาก็อยู่ในกลุ่มคนพวกนี้
Ben : อ๊ากกกกกกกก!
Phil : ลุงเบ็น...
Spider-Man : การแสดงจบแล้ว อูริช
Spider-Man : จริงๆฉันต้องบอกนายว่า “ระเบิด”
Spider-Man : เครื่องแกะรอยระดับนาโนภายในร่าง... จุดระเบิด!
Phil : อ๊ากกกกกก!
และเมื่อเขาสั่งมันก็เกิดระเบิดบนร่างของ Urich ทันที
Spider-Man : หยุดเล่นได้แล้ว เจ้าเด็กโข่ง
Spider-Man : ตัวจุดระเบิดนั่นมันก็แค่ทำให้แกช็อคมากกว่าจะทำอันตรายแก
Spider-Man : แต่ความเจ็บปวดของจริงมันยังรอแกอยู่...
Spider-Man : ด้านนอกนี่!
จนท. 1 : นั่นอูริช
จนท. 2 : พวกเราได้ตัวมันแล้ว
Phil : ไม่นะ...มันออกไป...ทุกๆที่เลย
Spider-Man : นั่นแหละคือรางวัลของแก มันจะทำให้แกกลายเป็นคนมีชื่อเสียง หรือไม่ก็ชื่อเสียนั่นแหละ
Spider-Man : แต่จากนี้ไป ทุกๆคนจะรู้ว่าแกเป็นใคร เป็นตัวอะไร
และจากเหตุในครั้งนี้ทำให้ Urich โดนสาวไส้ออกมาจนหมดเปลือก และรับรู้ว่าเขาเคยทำตัวเป็น Green Goblin เพื่อช่วยเหลือผู้คนมาก่อน แต่จากปัจจุบัน มันก็ทำให้หลายๆคนถึงกับหมดศรัทธาในสิ่งที่เขาเคยทำไว้
และที่ฐานทัพของ Green Goblin
Green Goblin : เจ้าแมงมุมงี่เง่า แกรู้ความลับของมันทั้งหมด...แต่แกก็เลือกที่จะหงายไพ่ออกมาอย่างน่าสมเพช
Green Goblin : เหมือนกับว่าแกลืมไปแล้วว่าเกมนี้มันเล่นยังไง
Green Goblin : แต่ตอนนี้ เจ้าหมอนั่น... ก็จะโกรธแค้นในตัวแกแล้วแน่ๆ? และนั่นหมายความว่าฉันสามารถที่จะใช้งานหมอนั่นได้
Green Goblin : เมเนนซ์ ไปพาตัวเจ้าอูริชมาให้ฉัน
Menace : ทำไมถึงเป็นข้าล่ะ ท่านเจ้า?
Green Goblin : ก็เพราะในวันที่เขาต้องพบเจอเรื่องพวกนี้...
Green Goblin : เขาจะกล้าตอบ “ปฏิเสธ” สาวสวยแบบเธอได้ยังไงกัน? ฮ่า ฮ่า ฮ่า!
และทางด้าน Spider-Man
Spider-Man : เอาล่ะ แกจะทำยังไงต่อไป, อูริช
Spider-Man : แกจะเลือกที่จะยอมแพ้กับตำรวจที่รายล้อมแกอยู่ อีกทั้งยังมีหน่วยหุ่นเกราะที่ประจำตำแหน่งอยู่ในแต่ละพื้นที่
Spider-Man : แถมตอนนี้สำนักข่าวทั้งในพื้นที่และนานาชาติ ก็กำลังดูการตัดสินใจของแกอยู่
Spider-Man : และนอกจากนี้พวกคนของฉัน... ก็ยังอยู่กับประชาชนรอบด้าน ดังนั้นแกไม่มีทางที่จะได้จับตัวประกันอีกแน่
Spider-Man : เอาล่ะ ขอดูหน่อยซิว่าแกจะทำยังไงต่อไป?
และ Urich ก็เลือกที่จะยอมแพ้
Spider-Man : ตัดสินใจได้ฉลาดมาก
Spider-Man : แต่แน่นอนว่ามันยังมีสิ่งที่ต้องห่วงอยู่... คลื่นเสียงโซนิคของแกไงล่ะ
Spider-Man : ลองคิดดูสิว่าถ้าแกคิดจะใช้มันอีกครั้ง?
Spider-Man : มันก็จะต้องมีคนที่ได้รับบาดเจ็บถูกมั้ย
Spider-Man : ดังนั้นมันเลยเหลือแค่ทางเดียวที่จะหยุดมันไว้ได้... คือการสะบั้นคอแกซะ
แต่ก่อนที่เขาจะได้พิพากษา Urich ก็มีคนติดต่อมาหาเขาซะก่อน
“มีการติดต่อเข้ามา ลำดับความสำคัญ : อเวนเจอร์ สายจาก กัปตัน อเมริกา”
Spider-Man : อะไรอีกล่ะเนี่ย?! นี่ฉันกำลังติดธุระอยู่นะ
Cap : พวกเราก็เหมือนกันนั่นแหละ สไปเดอร์แมน พวกเรากำลังสู้กับ มนุษย์ลาวา ที่เกาะบอนิโอ อยู่
Spider-Man : แล้วไง? ฉันก็กำลังรับมือกับ ฮ๊อบก๊อบลิน อยู่ที่ แมนฮัตตัน
Cap : พวกเราได้ยนเรื่องนั้นแล้ว แต่นายใช้กองกำลัง กับหุ่นยักษ์อีกแล้วใช่มั้ย?
Cap : ต้องให้ฉันเตือนนายมั้ย อเวนเจอร์, ว่านายน่ะยังอยู่ในช่วงการคุมความประพฤตินะ
Cap : และจากเรื่องทั้งหมดที่นายทำลงไปก่อนหน้านี้ พวกเราต้องคุยกันหน่อยแล้ว
Spider-Man : ใช่ แหงล่ะ
และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับ Avengers มากไปกว่านี้ เขาจึงต้องหยุดมือไว้แค่นี้
Spider-Man : ท่านสุภาพบุรุษทุกท่าน ผมคิดว่าพวกเราจบเรื่องแล้ว
และจากนั้นเขาก็ลากตัว Urich ไป โดยมีกลุ่มนักข่าวรอถามเขาเต็มไปหมด ทั้งเรื่องกองกำลังของเขา กับเรื่องของ Hobgoblin
Spider-Man : เหล่าผู้คนของนิวยอร์ก ผมมีเพียงแค่คำพูดเดียวเท่านั้นที่จะกล่าว... ขอบคุณมาก
Spider-Man : ขอบคุณสำหรับการเฝ้าระวังของพวกคุณ ทำให้พวกเราสามารถที่จะจับเจ้าคนชั่วคนนี้ได้
Spider-Man : และวันนี้ พวกคุณก็เป็นหนึ่งในกองกำลังแมงมุมของผม
Spider-Man : คุณทำให้ผมจบเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว... และไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียขึ้นมา
Spider-Man : มันทำให้เราเห็นแล้วว่า ถ้าพวกเราช่วยกัน พวกเราจะสามารถทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
Spider-Man : ดังนั้นต้องขอบคุณพวกเราทุกคน
Spider-Man : ...และตอนนี้ ชีวิตของเจ้าอาชญากรคนนี้ได้จบสิ้นลงแล้ว
ทางด้าน Daily Bugle พวกเขาต้องช่วยกันทำความสะอาด และข่าวก็บอกว่า Urich เป็น Hobgoblin คนที่สอง ซึ่ง Ben ก็คิดว่าพวกเขานับรวม Ned Leeds ไปด้วย จากนั้น Robertson ก็สั่งให้คนอื่นๆออกไปพักกลางวันกันก่อนเพื่อปรับอารมณ์ แล้วค่อยกลับมาทำงาน และเขาได้คุยกับ Ben ว่าจะให้เขาไปทำงานข่าวย่อยๆแทนสักพัก ส่วน Norah นั้น Robertson ต้องให้เธอออกไปทำงาน เพราะเธอกับ Phil นั้นทำงานเป็นทีม และขาดใครไปไม่ได้ ซึ่งเขาก็เสียใจ แต่มันจบลงแล้ว
และในขณะที่ตำรวจกำลังจะเอาตัว Urich ออกไปขังนอกเมือง (เพราะ The Ralf ถูกปิดไปแล้ว)
Roy : ...ก็แค่อยากจะบอกล่ะนะ ว่ามันง่ายกว่ากันเยอะเลยที่พวกเราจะส่งหมอนี่ไปยัง เดอะ ราล์ฟ
จนท 2 : แล้วนั่นแหละคืออีกประเด็น เพราะมันง่ายด้วยเหมือนกันสำหรับเจ้าพวกวายร้ายเวลามันแหกคุกออกมา
จนท 2 : แค่ว่ายน้ำเร็วๆมาหน่อยเดียว ตู๊ม พวกมันกลับมาในเมืองอีกแล้ว
Roy : ใช่แล้วตอนนี้พวกเราเลยต้องขับกันยาวๆ โดยมีเจ้าบ้านั่นอยู่ด้านหลัง
จนท 2 : หมอนั่นถูกใส่กุญแจมืออดาแมนเที่ยมนะ รอย ดังนั้นไม่มีทางที่...
บรึ๊ม
ไม่ขาดคำ รถก็โดนเล่นงาน
Phil : หือ พวก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
Menace : ก็เปิดหลังคาให้แสงส่องเข้ามาไง นายคิดว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ
Menace : ฉันมาที่นี่เพื่อมาเอาตัวนายไป ฟิล อูริช
Phil : โอ้ แม่เจ้า นี่เธอเป็นคนของ คิงสลีย์ เหรอ บอกเขาไปว่า “ฉันจะหาทางเอาเงินไปใช้ให้” ซักวิธีแล้ว...
Menace : คิงสลี่ย์?! ฮะ! เจ้าหนู นี่จะต้องเป็นวันที่นายโชคดีสุดๆเลยล่ะ เพราะนายกำลังจะได้เขาร่วมกับกองกำลังใหญ่แล้ว
และพวกเขาก็ลงมายังใต้ดิน
Phil : นี่เธอจะฉันไปหา ก็อบลินเหรอ? หมายถึง กรีน ก็อบลิน ตัวจริง? นอร์แมนออสบอร์นน่ะเหรอ?
Menace : รออยู่ตรงนี้
Menace : ฉันจะไปเข้าเฝ้า อย่าได้แตะต้องอะไรเด็ดขาด
และเขาก็เห็นภาพข่าวที่กำลังฉายอยู่
Reporter : ท่านนายก เจมสัน จริงหรือเปล่าครับที่ เบ็น อูริช เป็นเพื่อนสนิทของท่าน
Jameson : ผม...ผมไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนั้น
Reporter : แล้วเรื่องที่ ฟิล อูริช หลบหนีไปล่ะครับ
Jameson : ไม่มีความเห็นครับ
Reporter : แล้วคุณคิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรือเปล่าครับ ถ้าคุณยังเปิด เดอะ ราล์ฟ อยู่
Jameson : ผมก็บอกแล้วไงว่า “ไม่มีความเห็น” น่ะ ฟังกันบ้างซี่ว้อย!
และ Spider-Man เองก็ถูกสัมภาษณ์เหมือนกัน
Spider-Man : ช่างน่าเศร้า? เพราะผมเพิ่งจะมอบ ฮ็อบก็อบลิน เป็นของขวัญให้กับทางตำรวจแท้ๆ!
Spider-Man : แล้วยังต้องให้ผมทำอะไรให้อีกเหรอ?! และยังไงก็ผมก็บอกไว้เลยว่า ผมไม่กลัวอะไรหรอก เพราะตอนนี้ อูริช เป็นได้แค่ภัยคุกคามเล็กๆเท่านั้น
Spider-Man : มันคงจะใช้เวลาไม่นานนักหรอกที่ผมจะตามหาตัวเขาจนพบ แล้วนำตัวเขากลับมาสู่ที่ที่เขาควรจะอยู่อีกครั้ง
Goblin Minion 1 : ราชา ก็อบลิน ต้องการพบตัวแกเดี๋ยวนี้
Phil : ได้เลย พาตัวฉันไปเขา
Goblin Minion 2 : ไม่ๆ ไม่ใช่ในชุดแบบนั้น ใส่ชุดนี้ซะ
และเมื่อ Spider-Man ดูถูกและตัดหนทางเขาแบบนี้ Phil หรือจะมีทางเลือกอื่น
Green Goblin : พวกเราต้องการให้แกใส่ชุดพวกนี้
Green Goblin : ...ด้วยเสื้อผ้าเหล่านี้, ชุดเกราะชุดนี้ และหน้ากากนั่น
Green Golin : ...ต่อจากนี้ไปนี่จะเป็นโลกใบใหม่ของแก ชีวิตของ ฟิล อูริช มันจบไปแล้ว
Green Goblin : มันคือสถานะใหม่ที่พวกเรามอบให้แก…
Green Goblin : นั่นแหละคือทั้งหมดที่พวกเรามอบให้แก แล้วว่าไงล่ะ แกจะมอบอะไรตอบแทนให้พวกเราได้บ้าง?
Urich : เจ้าแมงมุม ข้าจะมอบเจ้าแมงมุมให้กับท่าน
Green Goblin : ตอบได้ดีมากเจ้าเด็กน้อย
Green Goblin : และตอนนี้ เจ้าจงผงาดขึ้นมาจากเงามืดของ คิงสลี่ย์ และเข้าร่วมกับพวกเรา
Green Goblin : ฮ็อบก็อบลินได้ตายไปแล้ว ตอนนี้ จงกำเนิดใหม่เป็น
Goblin Knight!
ศัตรูร้ายตัวหนึ่งถูกกำจัด แต่มันกลับกลายเป็นศัตรูร้ายตัวใหม่ที่อาจจะแกร่งกว่าเก่า อาณาจักรของ Green Goblin กำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!
โปรดติดตามตอนต่อไป
เล่มหน้า
การเดินทางจากอนาคตสู่ปัจจุบัน
Welcome Spider-Man 2099!
คุยกันท้ายเล่ม
เล่มนี้คิดไว้อยู่ว่า Hobgoblin จะตายจริงๆเหรอ ซึ่งตอนท้ายก็ผิดคาดไปหน่อยไม่คิดว่า Green Goblin จะเอาเข้าพวกแบบนี้ เพราะเล่มที่แล้วพี่แกปล่อยให้โดนไล่งาน เล่มนี้รับเข้ามาซะงั้น พร้อมฐานะใหม่ด้วย (มันจะเยอะไปแล้วนะพวก Goblin เนี่ย) จากตอนนี้ยิ่งทำให้ผมคิดว่าศึกกับ Green Goblin ต้องเป็นอีเวนต์ใหญ่อีเวนต์นึงในปีหน้าแน่ๆ และ Slott ก็มีทวิตว่า "ปีหน้าจะเป็นปีที่บ้าคลั่งสุดๆ"
รู้สึกเสียดายนิดๆแฮะที่ไม่ตาย ฮ่าๆ แล้ว 2099 นี่ใช่มิเกลรึเปล่าอ่ะครับ
ReplyDeleteใช่ครับ
Delete2099 นี่ข้ามมาพร้อม x-men รึเปล่า 555
ReplyDeleteก๊อบบลิ๊นจงเจริญ
ReplyDeleteขอบคุณสำหรับ สปอยครับ
ReplyDeleteมีบางส่วนที่แปลผิดนิงนึงครับ
Carrie : เขาแทบจะเช็คยอดเงินไม่ได้เลย ดังนั้นจะนับประสาอะไรกับเรื่องความไว้วางใจคนอื่นให้รู้ความลับของเขาล่ะ
Trust นี่เป็นศัพท์ทางการเงินครับแปลคร่าวว่ากองทุน ที่ carrie พูดคือ "สไปดี้ตัวจริงแทบจะใช้เงินเดือนชนเดือน นับประสาอะไรกับกองทุนลับ"
Menace : ฉันจะเข้าไปหาผู้รับฟัง อย่าได้แตะต้องอะไรเด็ดขาด
ตรงนี้ Seek an audience แปลว่า เข้าเฝ้า ครับ
ดูแล้วพี่กรีนก็อบลินจะตั้งตัวเป็นราชาเต็มที่ถึงได้สร้างชุดกับชื่อแล้วให้ลูกน้องทำตัวแบบนี้
ขอบคุณมากๆเลยครับ เพราะศัพท์เฉพาะบางส่วนผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย
Deleteมีสืบเริ่มรู้แระ ว่าไม่ใช่ตัวจริง คงใช้เวลาอีกประมาณ 3 ปี -*-
ReplyDeleteสนุกมากครับ แปลได้มันดีครับ เป็นกำลังใจให้แอดมินทำสปอยในเรื่องนี้ต่อยะครับ :)
ReplyDelete