Secret Empire #0

Secret Empire #0

หลังจากที่วางแผนมาอย่างยาวนาน 

บัดนี้แผนการยึดครองโลกของ Hydra ที่นำโดย Steve Roger ถึงเวลาเคลื่อนไหวแล้ว!

ปี 1945 ญี่ปุ่น

Steve Roger ได้รับแจ้งจาก Madame Hydra ว่าฝ่ายสัมพันธมิตรนั้นมี Cosmic Cube ในครอบครอง และเขาได้รับภารกิจให้เดินทางมาถึงสถานที่ลับแห่งหนึ่ง ซึ่ง Kraken ได้รอเขาอยู่

Kraken ได้กล่าวชื่นชม Steve ที่ทำหน้าที่เป็นสปายได้เป็นอย่างดี รวมถึงการกลายเป็น Captain America ที่ทำให้ฝั่ง Hydra ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย และได้ชม Madame Hydra ว่าเลือกคนไม่ผิด แต่ Steve ก็บอกว่าเขากับคนอื่นๆไม่เห็น Kraken มานานจนคิดว่าตายไปแล้ว ทาง Kraken จึงบอกว่าตั้งแต่สงครามเริ่มต้น ตกก็ถูกเรียกมายังสถานที่สำคัญยิ่งแห่งนี้ ต้นกำเนิดของพลังของไฮดร้าทั้งมวล

ที่ด้านใน Steve ได้พบกับ Isaac Newton ที่อธิบายว่าสถานทีแห่งนี้คือเมืองลับแลที่สูญหายไปจากประวัติศาสตร์ Ashomia สถานที่ซึ่งเต็มไปศาสตร์ลับ และเขาคือชายที่ยึดครองมันมาได้ Kraken ได้อธิบายเพิ่มว่า Newton คือผู้ที่ให้กำเนิดองค์กร Hydra

ก่อนที่จะอธิบายเพิ่มพวกเขาก็คิดว่าเวลาไม่คอยท่า Newton และ Kraken จึงได้อธิบายสาเหตุที่พวกเขาเรียก Steve มาที่นี่ เบื้องหน้าของทั้ง 3 คนปรากฎอ่างน้ำสีทองกับ Nostradamus ผู้มีพลังทำนายอนาคต ซึ่งอ่างน้ำได้แสดงให้เห็นอนาคต การใช้ Cosmic Cube ของฝ่ายสัมพันธมิตรเพื่อบิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ตนเองเป็นฝ่ายชนะและ Hydra กลายเป็นผู้แพ้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเรื่องอื่นๆด้วย แต่ทว่าพวกนั้นไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง Cosmic Cube จะกลายเป็น Kobik ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Red Skull และทำให้ทุกสิ่งกลับเป็นเหมือนเดิม ซึ่งคนที่เธอจะทำให้กลับเป็นอย่างเดิมนั้นก็คือ Steve ที่จะถูกเปลี่ยนแปลงให้กลับเป็นคนเดิมก่อนที่จะถูกฝ่ายสัมพันธมิตรเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง และหลังจากนั้น Steve จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องโกหกเหล่านั้นให้กลับสู่สิ่งที่ควรจะเป็น

แต่ก่อนที่จะอธิบายจบก็เกิดปฏิกิริยาบางอย่างขึ้น Cosmic Cube ได้ถูกใช้แล้ว มันกำลังจะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริง Kraken ได้ให้ Steve ลงไปในอ่างน้ำเพื่อที่มันจะได้ปกป้อง Steve ไว้ และเมื่อตื่นขึ้นมา Steve จะจดจำสิ่งต่างๆไม่ได้และรับรู้เพียงแต่เรื่องโกหกที่ถูกแต่งขึ้น แต่เขาอยากให้ Steve เข็มแข็งไว้ และจดจำให้มั่นว่าตัวเองคือผู้ปกป้ององค์กรไฮดร้า ชายคนเดียวที่จะปลดปล่อยโลกจากคำโกหกได้

ตัวละครในเล่ม

*Army of Evil คือเหล่าวายร้ายที่ Zemo รวบรวมมาเพื่อล้างแค้นจากช่วง Pleasant Hill

ปัจจุบัน

Steve กับ Sharon กำลังเผชิญกับ 3 ปัญหาใหญ่พร้อมๆกัน ทำให้ Sharon เริ่มรู้สึกสิ้นหวัง แต่ Steve ไม่คิดแบบนั้น เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นวันสิ้นโลก และคิดว่าควรจะมองดูรวมถึงแก้ไขปัญหาทีละเรื่องไป

ปัญหาแรก การบุกรุกของกองทัพ Chitauri จำนวนมหาศาล สำหรับเรื่องนี้ Captain Marvel กับทีมบนอวกาศได้มุ่งหน้าออกไปรับมือเป็นด่านหน้าแล้ว ด้วยพลังของ Quasar เธอคิดว่าพวกเธอน่าจะต้านได้ในระดับนึง แต่คงจะไม่ได้นานนัก มันคงจะถึงเวลาที่ต้องใช้แผน The Shield แล้ว ซึ่ง Steve ก็เห็นด้วยและจะบอกข่าวดีเธอทีหลัง

สำหรับการเปิด The Shield นั้น Steve ได้สั่งการให้อัจฉริยะ 2 คนไปดูแลแล้ว นั่นคือ Tony ที่ย้ายจิตใจมาอยู่ในเกราะกับ Lili Williams แต่ทั้งคู่ก็กำลังประสบปัญหาอยู่ระดับนึง อย่างไรก็ตาม Steve เชื่อว่าทั้งคู่จะทำสำเร็จ

ปัญหาที่ 2 คือกลุ่มวายร้ายที่โมโหจากเรื่องที่ Pleasant Hill ได้ออกอาละวาดที่ New York พวกนั้นได้เข้าทำลายเมืองและเล่นงานผู้คน สำหรับส่วนนี้พวก Steve มีการจัดเตรียมฮีโร่ให้เข้ารับมือเป็นชุดๆ ชุดแรกคือฮีโร่ที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นที่สุด เหล่า Defender และฮีโร่บนท้องถนน

ปัญหาสุดท้าย กองกำลัง Hydra ทยอยลุกฮือขึ้นหลายแห่งทั่วโลก Hydra กลุ่มนึงได้บุกยึดโซโคเวียได้สำเร็จ และบางส่วนก็ถือครองรหัสสำหรับยิงนิวเคลียร์ 7 ลูกที่หายไปของโซเวียต ด้วยคำขู่ว่าจะยิงออกไปยังประเทศมหาอำนาจในยุโรปถ้าพวกเขาไม่ยอมรับแนวทางของ Hydra

และที่แย่ตามมาคือหนึ่งในยานบัญชาการ Helicarrier Crecent ได้หายสาบสูญไปอย่างไรร่องรอยประมาณ 2 ชั่วโมงแล้ว  แผนของ Sharon ในตอนนี้คือทำการสั่งเคลื่อน Helicarrier แต่ละลำออกไปรับมือกับหัวรบนิวเคลียร์ในที่ต่างๆ

เหล่าฮีโร่ในตอนนั้นต่างไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คือการวางแผนอันสมบูรณ์แบบของ Steve Roger ซึ่งไร้ซึ่งความปราณีต่อทุกคนที่ขวางทางเขา เหล่าฮีโร่ได้ถูกแยกออกจากกันด้วยการโจมตีที่ประดังเข้ามามากมาย และนี่คือจุดเริ่มต้นของการทรยศหักหลัง

บนอวกาศสถานการณ์คับขันมากขึ้นเพราะกองทัพ Chitauri นั้นแทบไม่ลดลงเลย แต่เหล่าฮีโร่กลับโดนเล่นงานไปทีละคน ไม่ว่าจะ Hyperion หรือผู้ปกป้องจักรวาลอย่าง Quasar ฝั่งพวก Tony เองก็ยังไม่สามารถที่จะเดินระบบ The Shield ให้ทำงานได้และต้องการเวลาอีกหน่อย

บนโลกเองก็แย่ไม่แพ้กัน เพราะฮีโร่กลุ่มแรกนั่นไม่มากพอที่จะต้านเหล่าวายร้ายที่มีจำนวนมากกว่า และเมืองยังโดนถล่มด้วยพลังของ Nitro จนได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

ในขณะที่ Steve กำลังหาทางออกสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็ได้รับสายจากเลขาธิการฝ่ายความมั่งคง เรื่องแรกที่แจ้งคือประธานาธิบดีและคนสำคัญส่วนใหญ่ได้หลบอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแล้ว แต่พวกเขาก็รับรูู้สถานการณ์ที่เลวร้ายในตอนนี้ ทำให้พวกเขาได้ตัดสินใจที่จะมอบอำนาจการสั่งการกองทัพสหรัฐให้อยู่ในการดูแลของ Shield หรือขึ้นตรงกับ Steve ที่เป็นผู้บัญชาการในตอนนี้ มันคือการฝากความหวังประเทศให้กับ Steve Roger เพราะพวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครที่เหมาะสมไปกว่านี้อีก

Steve ได้ทำการติดต่อไปหาเหล่า Avengers อีกครั้ง เพื่อพูดปลุกใจพวกเขาอีกครั้ง ว่าสถานการณ์ปัจจุบันอาจจะดูเลวร้าย แต่มันคือช่วงเวลาที่ต้องการพวกเขามากที่สุด มันคือช่วงเวลาที่เหล่าฮีโร่จะสู้จนลมหายใจสุดท้ายและทิ้งบางสิ่งให้โลกรู้ว่าพวกเขาทุ่มเทไปเพื่อปกป้องมันมากแค่ไหน พวกเขาไม่เคยยอมแพ้ไม่ว่าจะตกที่นั่งลำบากแค่ไหน แม้นี่จะเป็นศึกสุดท้ายเขาก็อยากให้ทุกคนรวมพลกันสู้ต่อไป

ทาง Lili เองก็พบว่าอยู่ๆหน้าจอระบบปฏิบัติงานของ The Shield ก็ทำงานขึ้นมา ทำให้ Tony ถึงกับงงว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่สถานการณ์กำลังคับขันเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดระบบมันขึ้นมา

Tony : โอ้ เฮ้ สตีฟ ฉันมีข่าวดีจะบอกนาย เพื่อนรัก

Tony : เอาเป็นว่าเริ่มจากคำว่า ยกโล่ขึ้นมา

ม่านบาเรียสมบูรณ์แบบได้ถูกกางออกมาคลุมโลกไว้ เพื่อป้องกันการรุกรานจากภายนอกอย่างสมบูรณ์แบบ เหล่าเจ้าหน้าที่ชิลด์ต่างโห่ร้องให้กับความสำเร็จในครั้งนี้

บนโลก กำลังเสริมได้มาถึงกลุ่ม Unity Squad ของ Rogue ได้เดินทางมาช่วยรับมือกับเหล่าวายร้าย และหลังจากปะทะกันอยู่พักนึงพวกนั้นก็ถอนตัวกันออกไป นับเป็นอีกหนึ่งชัยชนะของพวกเขา

บน Helicarrier เจ้าหน้าที่ชิลด์ต่างยินดีกับชัยชนะทั้ง 2 อย่าง แต่พวกเขาก็พบว่ายาน Crescent ได้ปรากฎขึ้นมาในเรดาห์แล้ว และพุ่งตรงมาทางยาน Helicarrier ที่พวก Steve อยู่อย่างรวดเร็ว Sharon จึงได้สั่งให้เตรียมพร้อมรับการปะทะ และจากนั้น Crescent ก็พุ่งเข้าชนอย่างเต็มแรง

กลุ่ม Hydra ที่อยู่บน Crescent ได้ทยอยบุกขึ้นยาน Helicarrier ของพวก Steve ภายใต้การนำของ Dr.Faustus ที่ทำการล้างสมองเจ้าหน้าที่ตามทางเรื่อยๆ

พวกนั้นสามารถบุกเข้ามาถึงห้องบัญชาการได้ในที่สุด Sharon ได้ตั้งป้อมเตรียมรับการโจมตี แต่เมื่อ Hydra บุกเข้ามา Steve ก็เปลี่ยนไปในทันที เขาได้บอกให้ Sharon เชื่อเขาว่าตนยังรักอีกฝ่ายอย่างแท้จริง จากนั้น Steve ก็ออกไปยืนสั่งให้ Hydra หยุดยิง และเมื่อพวกนั้นหยุดจริงๆ Sharon ก็เป็นฝ่ายที่ตกใจว่าทำไม Hydra ถึงหยุดตามที่ Steve บอก แต่เธอก็เข้าใจในไม่นาน และคิดว่า Steve อาจจะโดน Dr.Faustus ล้างสมอง แต่ทว่า Steve ก็ตอบปฏิเสธไปตรงๆว่ามันไม่ใช่แบบนั้น

Steve ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ Hydra พา Sharon ไปขังและอย่าทำอันตรายต่อเธอเป็นอันขาด แล้วเขาจะไปอธิบายทั้งหมดในเธอฟังทีหลัง

Steve ได้ต่อสายไปหา Carol ที่ต้องการให้เขาเปิดช่องว่างของ The Shield เพื่อพาคนเจ็บลงไปรักษา แต่ Steve ก็ปฏิเสธว่าเขาทำไม่ได้ และอธิบายความจริงว่าแท้จริงแล้ว Chitauri นั้นเดินทางมาตามหาราชินีของมัน ซึ่งเรื่องนี้ถูกคาดการณ์โดยนักวิทยาศาสตร์ของโซเวียต Ivan Kragoff และเพื่อปกป้องโลกจากภัยนี้เขาจึงได้ทุ่มเทสร้าง The Shield ขึ้นมา จนกระทั่งมันถูกนำเสนอโดย Maria Hill กับ Carol เอง

Steve ได้บอกต่อว่า Carol ควรจะภูมิใจในผลงานของเธอ ที่เปิดม่านป้องกันโลกจากภัยร้ายภายนอกและตอนนี้เธออยู่อีกด้านของกำแพงแล้ว นั่นเท่ากับว่าพวกเธอคือภัยที่ว่าเช่นกัน เมื่อพูดจบ Steve ก็ตัดสายไป ปล่อยให้ Carol กับเหล่าฮีโร่นอกโลกต้องเปล่าเปลี่ยวและรับมือการรุกรานของ Chitauri ที่กำลังตามมาอีกมากมาย

ขั้นที่ 1 - Alpha Fight, สถานีอวกาศ
เป้าหมาย : เนรเทศออกไปด้วยม่าบาเรียปกป้องดวงดาว
รายงานภารกิจ : สำเร็จลุล่วง

ฝั่ง Tony กับ Lili นั้นทำการตรวจสอบระบบปฏิบัติการของบาเรีย และพบว่ามันแปลกๆเพราะพวกเขาไม่สามารถสั่งการอะไรมันได้เลย จนพวกเขาคิดว่าอาจจะมีบางคนจัดฉากให้เกิดระเบิดขึ้นที่นี่แล้วทำการสั่งงานระบบผ่านเน็ตเวิร์ก และอีกข้อสงสัยคือการที่อยู่ๆบาเรียก็กลับมาใช้ได้ทันเวลา มันเกิดเป็นคำถามว่าทำไมถึงต้องปลดบาเรียออกเพื่อให้มันกลับมาใช้งานได้ แต่ก่อนที่จะได้คำตอบพวกเขาก็ถูกบุกรุกโดย Hydra จนต้องหลบหนีออกมา

ทั้งคู่ได้สันนิษฐานว่า การรุกรานของ Chitauri คือเหยื่อล่อให้ฮีโร่บางส่วนออกไปรับมือ และเปิดบาเรียเพื่อกันพวกนั้นออกไป และเมื่อกันฮีโร่ที่ทรงพลังออกไปได้พวกเขาก็สามารถลงมือจัดการโลกได้ตามใจชอบ เมื่อคิดได้ Tony จึงรีบติดต่อไปหาเหล่าฮีโร่ที่อยู่ New York

แต่มันสายเกินไป เพราะนอกเมือง New York นั้น Zemo ได้พาวายร้าย Blackout มาที่นั่น และใช้พลังของมันกักบริเวณเมือง New York ให้อยู่ใน Dark Force Dimension

ขั้นที่ 2 - เมืองนิวยอร์ก
เป้าหมาย : แยกออกมาด้วยพลังของมิติมืด
รายงานภารกิจ : สำเร็จลุล่วง

Tony ได้เห็นรายงานข่าวก็พบว่ามันสายไปแล้ว แต่เขาก็พอจะเดาได้ว่าหลังจากนี้เป้าหมายจะไปที่ไหน เขาได้ติดต่อไปหาฮีโร่ทุกคนที่ยังสามารถติดต่อได้ และบอกว่านี่คืออันตรายร้ายแรงระดับสีแดง เขาต้องการให้ทุกคนมุ่งหน้าไปที่ วอชิงตัน ดีซี

แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้ว เพราะ Hydra ที่ยึดครอง Helicarrier ได้เดินทางไปถึงแล้ว

ขั้นที่ 3 - วอชิงตัน ดีซี
เป้าหมาย : การยีดครองของไฮดร้า
รายงานภารกิจ : อยู่ในระหว่างดำเนินการ

โปรดติดตามตอนต่อไป

เล่มหน้า

แผนการของ Steve Roger เริ่มต้นแล้วนี่คือยุคสมัยของ Hydra!!

เกล็ดเสริม

- Isaac Newton และ Nostradamus คือหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Shield ทั้งคู่ปรากฎตัวในหัวเล่ม S.H.E.L.D (มีแปลที่ comics66 ปัจจุบันยังไม่จบเพราะโดน Marvel ดอง) แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะโดนจับเปลี่ยนให้กลายเป็น Hydra ไปเสียแล้ว

- เกี่ยวกับกลุ่มวายร้าย Army of Evil นั้นทั้งหมดเคยโดน Maria Hill จับขังในช่วงจากอีเวนต์ Avengers : Standoff ซึ่งใช้พลังของ Cosmic Cube เปลี่ยนแปลงตัวตนของพวกเขา ทำให้ตอนนี้พวกเขาต้องการเอาคืน

- The Shield คือโครงการที่เปิดบาเรียคลุมโลกป้องกันการรุกรานจากภายนอก คนที่คิดค้นคือ Maria Hill และถูกส่งต่อมาให้ Carol ในภายหลัง

- Cap ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการของ Shield หลังจากอีเวนต์ Civil War II

- Madame Hydra คือคนที่ช่วยแม่ของ Steve ไว้ และรับ Steve เข้าองค์กร Hydra

- Tony ในเกราะเก่านั้นมีการเปิดเผยในอีเวนต์นี้เป็นครั้งแรก ความเป็นมาต้องตามจาก Invincible Iron Man ของ Bendis แต่เหมือนเนื้อเรื่องจะยังมาไม่ถึงช่วงนี้ ถ้าดูจากเกราะมันมีตามีปากจนผมคิดว่า Tony มันอยู่ในเกราะจริงๆหรือเปล่า? แต่ก็ไม่แน่อาจจะเป็นแค่การย้ายจิตมา เพราะตอนนี้ Tony ก็โปรแกรมตัวเองเป็นระบบช่วยเหลือให้ Lili อยู่แล้ว


คุยกันท้ายเล่ม

เป็นเล่มเปิดอีเวนต์ที่ผมค่อนข้างชอบนะ อ่านแล้วผมรู้สึกตื่นเต้นกับการดำเนินเรื่องรวมถึงแผนการของ Steve จริงๆ บทพูดในเรื่องที่ผมคิดว่านักเขียนสื่อได้ดีมาก ซึ่งบางส่วนผมไม่สามารถสื่อออกมาได้ทั้งหมดในการสรุปเพราะมันจะเยอะเกินไป แค่นี้ผมก็ชอบอีเวนต์นี้มากกว่า Civil War II มันดูเป็นอะไรที่ชัดเจนและมีเหตุผลรองรับการกระทำ ยิ่งอ่านเราจะยิ่งพบว่า Nick Spencer นั้นเตรียมการมาดีมาก เขาค่อยๆหย่อนเนื้อหามาเรื่อยๆนับตั้งแต่ Standoff จนมา Captain America : Steve Roger ค่อยๆอธิบายปมผูกเรื่องราวจนมันรู้สึกถึงความพีคขึ้นตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงอีเวนต์ใหญ่ ถ้าอ่านตามมาเราจะได้อารมณ์ร่วมกับแผนการนี้อย่างมาก และอยากติดตามต่อว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน และฮีโร่คนอื่นๆจะพลิกอย่างไร แตกต่างกับตอน Civil War II ที่มันคืออีเวนต์ที่อยู่ๆก็มา สำหรับอีเวนต์นี้ผมให้เปิดได้ดี ที่เหลือคือการดำเนินเรื่องไปจนจบนี่แหละ

อีกส่วนที่ผมชอบคือ Tony Stark ในอีเวนต์ที่เป็นคนละคนกับ Civil War II อย่างชัดเจน เพราะเล่มนี้ถึงเขายังเป็นคนติดตลก แต่เขาก็มีความสุขุมรอบคอบ คาดการณ์เรื่องต่างๆได้อย่างดี ไม่ใช่เอาแต่โวยวายไปวันแบบอีกอีเวนต์นึง แล้วทำอะไรสุดโต่งไม่สนใคร

ช่วงต้นเล่มนั้นมีการอธิบายถึงความจริงในปัจจุบัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของ Steve Roger อีกครั้ง จากก่อนนี้ที่เราเคยเข้าใจว่า Kobik เปลี่ยนแปลงตัว Steve Roger และความเป็นมาของเขาไป ให้กลายเป็น Hydra ตั้งแต่เด็ก กลายเป็นว่าอดีตที่เราเห็นทั้งหมดคือความจริงในจักรวาลมาเวล Hydra คือผู้ชนะ WW II ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งที่เรารู้จักเพราะพลังของ Cosmic Cube ในมือของฝ่ายสัมพันธมิตร และปัจจุบัน Kobik ได้เปลี่ยน Steve ให้กลับเป็นคนเดิมอย่างที่เขาควรจะเป็น ถ้าไม่นับเรื่องประเด็นการเปลี่ยนที่หลายๆคนน่าจะทำใจได้แล้ว ผมก็คิดว่านักเขียนเขาเตรียมตัวมาดีเหมือนกัน เตรียมการรองรับหลายๆอย่างไม่ให้มันบิดเบือนจนเกินไปไว้เรียบร้อยด้วยการใช้ Comic Cube

อีกจุดที่น่าสนใจคือเล่มนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากนักอ่านหลายๆคน ถ้าไม่นับเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์ในจักรวาลมาเวลแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าอีเวนต์เนื้อหาแน่นมาก แทบไม่มีน้ำเลย นักอ่านตั้งความหวังว่ามันจะเป็นอีเวนต์ที่ดีนับจากความล้มเหลวของหลายๆอีเวนต์ที่ผ่านมา และน่าจะเป็นแบบอย่างให้อีเวนต์อื่นๆนับจากนี้ ว่าควรจะมีการเตรียมตัวให้ดีมากกว่าลงระเบิดที่เรียกว่าอีเวนต์มาตรงๆไปเลย

สุดท้ายแล้ว พิมพ์มาเยอะ ช่วงนี้ต้องยอมรับว่าผมทำสปอยน้อยลงจริงๆ เพราะงานที่เยอะขึ้นส่วนนึงทำให้พอกลับบ้านมาเวลาทำอะไรก็น้อยลง และการติดเกมมือถือ ทำให้เล่นเสร็จก็ไม่ค่อยจะได้ทำต่อก็นอนแล้ว ดังนั้นผมคงจะไม่ได้ทำสปอยหลายเรื่องเหมือนก่อนแล้ว แต่สำหรับอีเวนต์หรือหัวเล่มที่น่าสนใจถ้ามีเวลาจะหยิบมาทำให้อ่านกันนะครับ แต่เนื้อหาอื่นๆผมยังลงที่เพจตามปกติ ใครที่สนใจก็ไปตามอ่านที่นั่นได้