Wednesday, July 15, 2015

Civil War #1

Civil War #1

Secret Wars Tie-In

เรื่องโดย : Charles Soule | ภาพโดย : Leneil Francis Yu

วางจำหน่าย : 8 กรกฎาคม 2015

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

Spoil By Tei Jsa


ถ้าคุณชอบ กฎระเบียบที่เคร่งครัด จงไปอยู่ฝั่งตะวันออก หรือ ดิไอเอิน ของ โทนี่ สตาร์ค

ถ้าคุณชอบ อิสระที่จะทำอะไรก็ได้ที่ไม่เดือดร้อนผู้อื่น จงไปอยู่ฝั่งตะวันตก หรือ เดอะ บลู ของ สตีฟ โรเจอร์

สงครามกลางเมืองของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ได้มาถึงจุดที่ทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเจรจาสงบศึกและรวมประเทศเป็นหนึ่งแต่มันจะง่ายดายขนาดนั้นหรือ


พหุจักรวาลถูกทำลาย เหล่าวีรบุรุษทั้งโลก 616 และ โลก 1610 ไร้ซึ่งหนทางที่จะปกป้องมัน

ณตอนนี้ ส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่คือ แบทเทิลเวิลด์ จักรวาลขนาดใหญ่ที่ประติดประต่อรวมกันด้วยส่วนเสี้ยวของโลกที่ยังคงหลงเหลือ

โดยมีเจตนาอันแข็งแกร่งของ วิคเตอร์ วอน ดูม พระเจ้าและนายเหนือหัว คอยดูแลอยู่

ในแต่ละโลกที่ซึ่งไปมาหาสู่ได้แค่โลกของตัวเองเท่านั้น

ซีวึล วอร์ (สงครามกลางเมือง)


6 ปีก่อน, โปรเจคท์ 42

???: ฉันคิดว่าในความคิดของทั้งสองฝ่ายคิดว่ามันจะจบลงที่นั่น ศึกสุดท้ายในคุกลับของไอเอิน แมน

กัปตัน อเมริกาสั่งเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ฝ่ายของเขาเข้าปะทะกับซุปเปอร์ฮีโร่ฝ่าย ไอเอิน แมน

???: กัปตัน อเมริกาพาทีมฝั่งเขา โผล่พรวดไปที่ห้องขัง โดยที่สตาร์คไม่ทันตั้งตัว หรือไม่ก็แผนสกัดการเคลื่อนไหวของไอเอิน แมนอาจจะสำเร็จและฝั่งของไอเอิน แมนจะต้านทานไว้ได้ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งล่ะ ทุกๆสงครามมีเกิดขึ้นก็ต้องมีสิ้นสุด


???: เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะสิ่งที่เรียกว่า กฎหมายลงทะเบียนผู้มีพลังเหนือมนุษย์ สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องของหน้ากาก ใครที่ใส่มันได้ ไม่ได้ ใครที่เชื่อถือได้ เชื่อถือไม่ได้ มีประชาชนเสียชีวิตหกร้อยคนตอนที่เหล่าฮีโร่ฟันน้ำนมไปจัดการแก๊งวายร้ายนอกคอก

???: หกสิบคนเป็นเด็ก ใครที่ต้องรับผิดชอบ? มันเป็นความผิดของใครกัน? นั่นล่ะสาเหตุ ตอนนั้นมันเหมือนมีอะไรไม่ชอบพากล แม่แต่ฉันก็คิดแบบนั้นด้วย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับสตาร์ค สตีฟ โรเจอร์ล่ะคนนึง

???: เขามองว่ากฎหมายนี้เป็นสิ่งที่ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานอันชอบธรรมนับตั้งแต่ประเทศนี้ได้ถูกสถาปนาขึ้นมา คนฝั่งไอเอินแมนเรียกว่ากฎการลงทะเบียน กัปตันเรียกมันว่าขึ้นบัญชีทหาร ไม่สิเรียกว่าการเกณฑ์ทหารเลยจะดีกว่า

???: เขามองว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด หลังจากนั้นการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น กฎใหม่ ก.ล.ผ. เหมือนหลับหูหลับตาเขียน คุณอยากออกลุยในฐานะยอดมนุษย์ไหมล่ะ? ก็ลงทะเบียน ถอดหน้ากากออกสิ แล้วเข้าแคมป์ฝึก หลังจากนั้น แค่หลังจากนั้น คุณก็ออกไปลุยกับเหล่าร้ายได้แล้ว

???: โทนี่ สตาร์คเป็นหัวหอกเรื่องกฎหมายนี้ และฉันก็รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ล่อใจของเขา คำสั่ง ความปลอดภัย พวกเขาทำทุกวิธีทางเพื่อชัยชนะ สตาร์คจ้างทหารรับจ้าง คนที่คุณเรียกพวกเขาว่าวายร้าย กัปตันทำงานกับพันนิชเชอร์ ทั้งสองฝ่ายมีพรรคพวกที่แปลกๆกันทั้งนั้น

???: แผนซ้อนแผน เล่ห์กล ทรยศหักหลัง การเสียสละ และการตายของบิลล์ ฟอสเตอร์ ผู้น่าสงสาร (ฮีโร่ที่ชื่อโกไลแอธผู้โดนธอร์ร่างโคลนฆ่าตาย)

???: ในเรือนจำนั่น มันควรเป็นศึกสุดท้าย

???: หลังจากนั้นพวกเขาจะพบหนทางข้างหน้า ทางที่จะไปเผชิญกับวายร้ายตัวจริงข้างหน้า นั่นเป็นวิธีที่ได้ผลมาก่อนซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ยักษ์อะไรที่ต้องมานั่งปวดหัวของเหล่าซูปเปอร์ฮีโร่


แต่พวกเขาคิดผิดมหันต์

แด็กเกอร์กับแบล็ค แนเธอร์ลอบเข้ามาเจาะระบบความปลอดภัยเรือนจำ ซึ่งเขาจะใช้ประติมิติเปิดออกเพื่อรับเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ฝ่ายของเขาออกจากที่นี่ แต่แบล็ค แพนเธอร์ดันไปเจอกับระบบทำลายตัวเองเข้า เลยให้แดกเกอร์ไปบอกโคล้กคู่หูของเธอให้เทเลพอร์ตทุกคนทุกฝ่ายออกจากที่นี่ ส่วนตัวเขาเองจะขออยู่ที่นี่ เพื่อถ่วงเวลา


มาเรีย ฮิลล์ติดต่อไปที่ไอเอิน แมนเรื่องที่ระบบความปลอดภภัยโดนแฮ็คโดยแบล็ค แพนเธอร์แล้วและยังเปิดระบบทำลายตัวเองของเรือนจำแถมอีกด้วย สตาร์คไม่เข้าใจสิ่งที่แบล็ค แพนเธอร์ ทำ มาเรียเธอเลยบอกกับสตาร์คด้วยว่า

มาเรีย ฮิลล์: เขาบอกว่า เขาทำตามคำสั่งของกัปตัน อเมริกา

ไอเอิน แมน: บ้าเอ้ย ทุกคนไปที่โคล้ก เร็วเข้า เร็ว สตีฟ ไอ้บัดซบ นี่นาย


???: โคล้กพาทุกคนหนีออกมาได้ ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะมาฝั่งไหนมาด้วย เขาพยายามช่วยทุกคน ไม่ว่ายังไงนี่ล่ะคือสิ่งที่ฮีโร่ต้องทำ

กัปตันให้ฮีโร่ที่บินได้ช่วยรับฮีโร่คนอื่นๆ

???: เขาพยามปิดประตูมิติฝั่งเรือนจำอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ก็ยังเร็วไม่พอ

???: โคล้ก, แม็ค การ์แกน, ทีกร้า, แม็ตต์ เมอร์ด็อค, ด็อค แซมสัน, เจเน็ต แวน ดีน, และคนทั่วๆไปอีกสิบห้าล้านคน


???: หลังจากนั้นเรื่องราวกลับตาลปัตรไปหมด ดูเหมือนว่าคนที่คุมสถานการณ์ได้ไม่ใช้ทั้งไอเอิน แมนกับกัปตัน อเมริกา ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็น ความผิดหรือความคลั่ง หรือเป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆในการพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหาที่ไร้ทางแก้ แต่การต่อสู้ก็ยังไม่จบ

???: ศัตรูเก่าแก่ทั้งหลายฉวยโอกาสความชุลมุนของการต่อสู้หว่านเมล็ดความลวงฝังลึกลงในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้เรียบร้อย

กรีน ก็อบบลินยึดทำเนียบขาวได้ แต่ก็ไม่รอด

???: และเรื่องราวก็ผ่านไป ทั้งสองฝ่ายต่างก็อ้างว่าจะพยายามนำพาผู้ที่ก่อการร้ายแก่ประเทศชาติเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่มันจะใช่เรื่องจริงเหรอ? ต้องมีบางคนเป็นคนดี บางคนเป็นเลว เป็นทางเดียวที่เราเข้าใจ ทางที่เหลือถือเป็นเรื่องร้ายแรงแม้แต่จะคิด

???: ไม่มีใครรู้ว่าใครกันที่นำภัยร้ายมาสู่ใจกลางของประเทศ ต่างฝ่ายต่างก็โทษกันไปมา เพราะเหตุนี้เราต่างตัดสินใจเพื่อตัวเอง ทุกๆคนมีคำถามคำถามเดียวที่ต้องถามพวกเดียวกัน
คุณจะอยู่ข้างใคร?


ฉันคิดว่าไม่มีใครหรอกที่อยากเป็นราชา แต่ในที่สุด ใครๆก็ต้องเลือกผู้นำ คนที่ใครๆส่วนใหญ่เลือก หรือคนที่ใครๆส่วนใหญ่คิดว่าปกป้องพวกเขาได้

ไอเอิน แมน ได้ฝั่งตะวันออกไป

สาวน้อยคนนึงกำลังเห่อพลังในการบินได้ของตัวเอง แต่ก็ถูกมิส มาร์เวลหรือแครอล เดนเวอร์และคนของเธอสั่งให้หยุดบิน เห็นแบบนั้นก็รู้เลยว่าเพิ่งหัดบินแน่ๆ เพราะสาวน้อยบอกว่าเธอเดินอยู่ดีๆ ก็บินซะงั้น และคนของมิส มาร์เวลบอกกับสาวน้อยว่าเธอจะไม่มีวันลืมวันนี้แน่


หลังจากนั้น แครอลก็รู้ว่าเธอชื่อเฮเทอร์ และแครอลได้บอกเฮเธอร์ว่าเธออยากจะบินก็บินได้ขอแค่อย่าให้ใครเดือดร้อน และที่ต้องเลือกให้เฮเธอร์หยุดเพราะเธอบินอยู่บนเส้นทางการบินของเครื่องบินโดยสาร สุดท้ายแครอลบอกให้เฮเธอร์ไปลงทะเบียนผู้มีพลังเหนือมนุษย์และเข้าโรงเรียนฝึกซะ เฮเธอร์ก็ถามกลับว่าเธอต้องทิ้งครอบครัวเธอไปหรือไม่

???: สตาร์คยึดถือกฎระเบียบ เขาสร้างกฎขึ้นมา เขาทำทุกอย่างเพื่อความปลอดภัย เขาสร้างดินแดนขึ้นมา ดินแดนที่ถูกเรียกว่า ดิ ไอเอิน


กัปตัน อเมริกาได้ฝั่งตะวันตกไป

หนุ่มแว่นโชว์พลังระเบิดภูเขาแต่มีคนร่างยักษ์ทักทายเขา


สาวร่างยักษ์คนนี้เดินผ่านมาแถวนี้แต่ได้ยินเสียงระเบิดเลยมาดู เธอแนะนำตัวกับเจ้าหนุ่มแว่นว่าชื่อ เคสซีย์ แลงค์ หรือ สเตชูว์ ลูกสาวของสก็อตต์ แลงค์ ส่วนหนุ่มแว่นชื่อจอห์น จอห์นกลัวว่าเคสซีย์จะมาจับเขาแต่เคสซีย์ก็บอกว่านี่คือเดอะ บลูนะอยากระเบิดภูเขากี่ลูกก็ตามสบายแต่ขออย่าทำร้ายใคร ไม่งั้นเจอกับพันนิชเชอร์แน่นอน

???: กัปตัน อเมริกาก่อตั้งดินแดนนี้ขึ้นมาด้วยกฎสองข้อ อย่าทำร้ายใคร กับ ช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่ทำได้ หากฝ่าฝืนจะเจอกับอำนาจรัฐ ผู้คนส่วนใหญ่อยู่กันอย่างสันติและมีความสุข

???: แต่ถ้าให้ลองแหกกฎของสตีฟ โรเจอร์ก็จะต้องเจอกับอเวนเจอร์ของเขา

???: หรือถ้าแหกกฎสำเร็จ จะเจอของหนักกว่านี้ นั่นคือ พันนิชเชอร์หรือผู้ลงทัณฑ์ ของเขา

???: นี่คือเดอะ บลู


ปัจจุบัน, เดอะ ดีไวด์ (จุดแยก)

???: เดอะ บลูและ ดิ ไอเอิน ต่างก็พัฒนาขึ้นปีแล้วปีเล่า คนที่พบหนทางของตัวเองทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกต่างก็เลือกสังคมที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสมที่สุด แนวชายแดนรวมกันเป็นหนึ่ง อุดมการณ์กลายเป็นความจริง

???: ฉัน ฉันน่ะเหรอ ฉันเสียใจจริงๆที่เสียลูกไปตอนเกิดเรื่องขึ้น ฉันมีความสุขที่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ฉันรู้เพราะอะไร ในมุมมองของฉันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป้นสิ่งที่มีความหมาย โดยเฉพาะวันนี้


???:มั่นไม่ใช่เพียงแค่ประวัติศาสตร์ แต่มันคือชีวิตของฉันเลย

เสียงบรรยายทั้งหมดนี้เป็นของหญิงสาวที่ชื่อมีเรียม เสียงบรรยายข้างต้นเป็นเรื่องที่เธอเล่าให้ชายแก่คนในบ้านฟัง ตัวมีเรียมนั้นเป็นคนผลักดันให้เกิดสันติภาพแก่ทั้งสองฝ่าย แล้วชายแก่ในห้องก็ถามมีเรียมไปว่า

ชายแก่: เธอคิดจริงๆเหรอว่าสองคนนั้นจะยุติสงครามครั้งนี้น่ะ?

นิ่งไปสักพักก่อนตอบว่า

มีเรียม: ฉันคิดอย่างนั้นค่ะ


มีเรียมเล่าถึงสาเหตุที่บ้านของเธอสร้างอยู่ตรงกลางระหว่าง ดิ ไอเอินกับเดอะ บลู ก็เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง ทุกครั้งที่คนทั้งสองฝั่งมองมาทางเดอะ ดิไวด์นั่นคือความหวังที่จะรวมชาติเป็นหนึ่ง และวันนี้มีเรียมเชิญทั้งสตีฟและโทนี่เพื่อที่จะพูดคุยปรับความเข้าใจและทั้งคู่ก็ตอบตกลงด้วย แต่ชายคนนี้ก็แย้งว่าโพลส่วนใหญ่จากคนทั้งสองฝั่งนั้นไม่อยากรวมประเทศเป็นแถมใครๆก็มองมีเรียมว่าเป็นพวกบลูส์อาย บอย (ขบวนการก่อการร้ายนำโดยบูลส์อายที่อยู่ฝั่งดิ ไอเอิน) หรือไม่ก็พวกผู้ก่อการร้ายด้วยซ้ำ

ชายแก่: เธอโดนขู่เอาชีวิตเพราะการเจรจาสงบศึกครั้งนี้นะ เธอกลัวไหมล่ะ?

มีเรียม: ทำไมฉันต้องกลัวล่ะ?


สองผู้นำทั้งสองฟาก มาถึงบ้านของมีเรียมเรียบร้อย

มีเรียม: ก็ในเมื่อฉันจะได้อยู่กับสองวีรบุรุษในตำนานทั้งคนนี่


ฝั่งของสตีฟ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ถามสตีฟเรื่องความแน่ใจกับการเจรจาครั้งนี้ สตีฟบอกได้แค่ว่า “ต้องลองดู” ปีเตอร์ก็ได้ขอให้กัปตันเตรียมสำรองเผื่อไว้ด้วย ซึ่งสตีฟก็ยืนยันว่า ถ้าเจรจากันไม่สำเร็จได้ใช้แผนสำรองแน่ๆ สตีฟยืนยันหนักแน่นว่าการเจรจาครั้งไม่ใช่เพื่อตัวเขาเองแต่เพื่อทุกคน

ฝั่งของโทนี่ สาวที่มากับโทนี่ไม่คิดว่ากัปสตีฟจะฝั่งข้อเสนอของกัปตัน ซึ่งโทนี่ก็กระตุ้นความมั่นใจหน่อย ด้วยการจูบกับเธอ ในที่สุดโทนี่ก็เรียกความมั่นใจขึ้นมาได้แล้ว


และเธอก็คือ เจนนิเฟอร์ วอลเตอร์หรือชี ฮัลค์นั่นเอง จากนั้นเธอก็ชมเปราะโทนี่ว่าแต่งตัวหล่อดี และถามโทนี่ว่าพร้อมหรือยังสำหรับการเจรจาซึ่งคำตอบของโทนี่ก็คือพร้อม ระหว่างเดินไปบ้านมีเรียมโทนี่ก็บอกว่าหากการเจรจาล้มเหลว เอาหัวเป็นประกันเลยว่าไม่ใช่ความผิดของเขาอย่างแน่นอน


ทั้งสองฝ่ายมาพบกันโดยที่ปีเตอร์มากับสตีฟและเจนนิเฟอร์มากับสตาร์ค

โทนี่: สวัสดี สตีฟ

สตีฟ: โทนี่

มีเรียม: ขอบคุณทั้งสองที่มาที่นี่ มันเป็นอะไรที่วิเศษมาก

มีเรียมเข้าไปกอดเจนนิเฟอร์ ต่างฝ่ายต่างก็คิดถึงอีกฝ่ายเพราะไม่ได้เจอเลยกันหลังสงคราม เจนนิเฟอร์ขอให้มีเรียมให้อภัยกับเรื่องเมื่อครั้งก่อน แต่มีเรียมก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะการอภัยในวันนี้ถือเป็นเรื่องจำเป็นมาก

โทนี่ขอเวลาก่อนการเจรจาประเดี๋ยวหนึ่งเพื่อคุยกับปีเตอร์

ปีเตอร์: เขาไปข้างในซะ สตาร์ค นี่น่ะควรจะเป็นการเจรจาสันติภาพนะ การที่ฉันซัดหน้านายจนหน้าหงาย คงให้ผลตรงกันข้ามกันเกินไป

สตีฟ: ใจเย็นๆ ปาร์คเกอร์

โทนี่: ก็เอาสิ มาเลย นายก็รู้ว่าฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้ แล้วก็ดูนั่นซะก่อน

ปาร์คเกอร์: คุณ พระ


หญิงสาวและลูกสาวของเธอ ทำให้ปีเตอร์ถึงกับอึ้ง

ปีเตอร์: เอ็ม เจ

โทนี่: ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาของการเจรจาหรอก ไปอยู่ด้วยกันกับเธอเถอะ

ปีเตอร์: นี่นายไม่ได้ตุกติกอะไรใช่ไหม คนของนายคงไม่จับกุมฉันตอนที่

โทนี่: ปีเตอร์ ไม่เอาน่า ฉันไม่จับนายหรอก

ปีเตอร์: สตีฟ ถ้าคุณต้องการให้ผมอยู่ ผมก็

สตีฟ: นายไปเถอะ


สตีฟ: ใจดีเหมือนกันนี่

โทนี่: ฉันไม่ใช่คนใจยักษ์ใจมารขนาดนั้น สตีฟ ไม่ใช่อย่างเดียวกับโฆษณาชวนเชื่อของนายหรอก

มีเรียมเชิญทั้งสองคนเข้าบ้านแต่ขอให้เจนนิเฟอร์รออยู่ข้างนอกก่อน

เข้าบ้านไปแล้ว ทั้งสามยังนึ่งอึ้งไม่พูดอะไร

โทนี่: จำได้ไหม ตอนที่ซัดกับ แคง? ตอนที่อเวนเจอร์ร่วมมือกันน่ะ?

สตีฟ: ตอนนี้ฉันมีคนที่อยากจะแก้แค้นมากกว่าแต่ก่อนอีกนะ สตาร์ค

โทนี่: อ๋อเหรอ ใครบ้างล่ะไม่อยาก?


มีเรียมตัดบทเพราะเห็นว่าบรรยากาศมาคุ มาเรียเลยตัดเข้าเรื่องการรวมประเทศ โดยขอให้สตาร์คและโทนี่พูดมนสิ่งที่ตัวเองต้องการเริ่มจากโทนี่

โทนี่: ผมก่อนเหรอ? ได้ ง่ายๆเลยนะเราต้องการพื้นที่ ประชากรฝั่งไอเอินกำลังเพิ่มขึ้นและนายก็รู้ความต้องการของโลกนี้ ไม่มีที่ไหนที่เราไปไม่ได้ ที่จริง คือคนของฉันไม่อยากจะไปที่ไหนเลยมากกว่า

สตีฟ: ในขณะที่เดอะ บลู มีพื้นที่สองเท่าและประชากรครึ่งนึง นายก็ยังต้องการพื้นที่ของเรา นายพยายามเอามันมาโดยทำให้เราอดตาย ตัดเส้นทางทรัพยากรของพวกเรา

สตีฟ: เอาอย่างนี้ฉันจะตกลงกับทุกคนด้วยเงื่อนไขที่ไม่ทำให้คนของฉันอดตาย ไม่งั้นก็ตามวาทะกรรมของ นายพล แอนโธนี่ แม็คลิฟฟี่ล่ะนะ ไม่เอาโว้ยข้อเสนอนั้นอะ

โทนี่: นายเห็นนี่ไหม สตีฟ ดิ ไอเอินน่ะเป็นที่จดจำแล้วเว้ย เรามีทรัพยากรเป็นหุ้นส่วนอย่างถูกกฎหมายกับหลากหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่ เดอะ บลู ของนายน่ะมันไม่มีอะไรเลย เป็นแค่บ้านนอกแดนเถื่อน

สตีฟ: ผิดแล้วโว้ย เราเป็นรัฐอิสระ


โทนี่: อิสระงั้นเหรอ? อิสระแบบที่ไม่ต้องกังวลว่าจะมีวายร้ายมาระเบิดยันห้องนอนกลางดึกงั้นเหรอ? อิสระที่ไม่ต้องกังวลเรื่องไอ้บ้าถือปืนยืนหน้าสลอนอยู่ตรงชายแดนของฝั่งนายงั้นสิ? นั่นเหรอคือสิ่งที่คนฝั่งของฉันต้องการน่ะ

สตีฟ: แล้วตอนนี้ใครกันแน่วะที่ฟังแต่โฆษณาชวนเชื่อของตัวเองห๊ะ? ฝั่งเดอะ บลูน่ะปลอดภัยที่สุด

โทนี่: เออ ตามใจ นายมีพื้นที่ คนฝั่งฉันก็ต้องการมัน ฉันเสนอให้นายยกส่วนนึงของเดอะบลูให้เราแลกกับการที่คนฝั่งนายจะเข้าถึงแหล่งทรัพยากรที่ได้จากหุ้นส่วนทางการค้าของเรา

สตีฟ: คนของนายในดินแดนฝั่งฉันงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ เราเสียเลือดเนื้อเพื่อเดอะ บลู โทนี่ แล้วนี่นายจะให้คนในครอบครัวของฉันหาที่อยู่ใหม่ให้กับคนฝั่งดิ ไอเอิน ฉันไม่เห็นว่าจะน่าเชื่อถือตรงไหนเลย

โทนี่: นายอยากให้สงครามนี้จบไหมล่ะ สตีฟ? ฉันว่านายคงไม่หรอก แล้วก็อีกอย่างนึง รู้มั้ยว่ามันเกิดอะไรกับทหารหลังสงครามบ้างห๊ะ?

สตีฟ: เขาขอบคุณพระเจ้า โทนี่ และใช้ชีวิตที่เหลือสวดมนต์ภาวนา เขาไม่เคยเห็นใครโผล่มาเลยสักคน นายไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นเหตุผลให้ฉันต้องทำแบบนี้ ไอ้ผู้ดีตีนแดง

โทนี่: อ๋อ ใช่สิ นายไม่ใช่ทหารธรรมดาแล้วนี่ สตีฟ นายเป็นถึงนายพลแล้ว นายเอาสงครามมาใช้กับเหตุผลของตัวเอง

สตีฟ: ฉันไม่ใช่คนที่เอาชื่อตัวเองมาตั้งเป็นประเทศนี่ ไอเอิน แมน

กลายเป็นการทะเลาะเสียแล้ว มีเรียมเลยคิดจะสงบศึกแต่แล้ว


มีเรียมถูกยิง

โทนี่: กระสุนมาจากฝั่งตะวันตกของเดอะ ดีไวด์ สตีฟ มันมาจากฝั่งแก

สตีฟ: รู้แล้ว สตาร์ค ช่วยมีเรียมซะ ฉันจะจัดการมือปืนเอง อยู่ห่างหน้าต่างไว้นะ

สตีฟ: ปีเตอร์ ฉันอยากให้นายช่วยอะไรหน่อย


ปีเตอร์ได้ยินเรื่องที่มีเรียมโดนยิง โดยที่สตีฟหนักใจมากเพราะอยากให้ปีเตอร์อยู่กับครอบครัวก่อน แต่กระสุนมาจากฝั่งทั้งคู่สตีฟเลยอยากรู้ว่าใคร

สตีฟ: นายน่ะเป็นคนที่เร็วที่สุดที่ฉันมี และมีสัมผัสแมงมุมด้วย ไปที่นั่นซะแล้วจับมันมาให้ได้

แมรี่ เจนเหนี่ยวรั้งปีเตอร์ไว้เพราะเป็นเวลาหกปีแล้วที่ทั้งคู่ไม่ได้เจอกัน โดยที่เมย์เบลล์ลูกสาวของทั้งคู่ก็ไม่อยากให้พ่อของเธอต้องไป ปีเตอร์ก็ได้แต่พูดว่าเขาต้องไปและให้แมรี่ เจนพาเมย์เบลล์ยังที่ที่ปลอดภัยด้วย จากนั้นปีเตอร์ก็สยายปีกออก


ปีเตอร์บินสำรวจไปสักพักก็พบกับปืนที่ใช้สังหารแต่ไม่พบคนยิง โดยที่ปืนชนิดนี้อยู่ไกลพื้นที่สังหารมากๆ สตีฟบอกให้ปีเตอร์ค้นหาต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเจออะไรผิดปกติให้แจ้งกลับมาทันที ก่อนจะพบข่าวร้ายว่ามีเรียม ชาร์ปตัวแทนเจรจาสันติภาพเสียชีวิตแล้ว


สตีฟ: ปีเตอร์บอกว่ากระสุนถูกยิงมาจากระยะประมาณสองไมล์ครึ่ง ปืนขนาดลำกล้องใหญ่ จากระยะขนาดนั้นคงใช้เวลาประมาณหกถึงเจ็ดวินาทีจึงจะถึงเป้าหมาย

โทนี่: แล้วไง? นายจะพูดบ้าอะไรกันแน่ สตีฟ?

สตีฟ: อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย เราทั้งคู่ก็รู้ความจริงอยู่แล้ว ว่ามันมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยิงไกลระยะนี้ได้ และมันก็ทำงานให้นาย

โทนี่: บลูส์อาย ไม่ได้ทำงานให้…

สตีฟ: เลิกพูดได้แล้ว มีเรียมไม่ได้กำลังยืนตอนที่มันยิง กระสุนมันโดนเธอ สตาร์ค แต่ปืนมันเล็งมาที่ฉัน

สตีฟ: ลาก่อนโทนี่ ครั้งต่อไปที่ฉันจะพูดกับนายคือตอนที่นายตกลงที่จะยอมจำนนกับฉัน

โทนี่: สตีฟ เรื่องนี้ฉันไม่รู้เรื่องนะโว้ย

สตีฟ: แล้วมันสำคัญด้วยเหรอ?


ปีเตอร์บินมาหาสตีฟพร้อมกับรู้เรื่องการตายของมีเรียม ซึ่งปีเตอร์ก็ถามสตีฟว่าจะให้ลงมืออย่างลับๆไหม

สตีฟ: ไม่ต้องหรอก พวกนั้นได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว

สตีฟ: สตาร์คจะไม่ปล่อยให้สงครามนี้จบลงง่ายๆหรอก เพราะอย่างนั้นเราเลยต้องจบสงครามนี้เพื่อมัน


โปรดติดตามตอนต่อไป

คุณจะเลือกฝั่งไหน


เป็น Tie In ของซีเคร็ต วอร์ที่ผมอ่านรู้เรื่องที่สุดเลยทำหัวนี้ อีกส่วนนึงเพราะเป็นแฟนผลงานชาร์ล โซลแห่ง DEATH OF WOLVERINE และนักวาดชาวฟิลิปปินส์ ฟรานซิส เรเนี่ยล ยู จากสงครามเรื่องทะเบียนกลายมาเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อน วุ่นวายไปหมด ส่วนที่ชอบมากในเล่มนี้ของเป็นปีเตอร์จากไอ้แมงมุม กลายเป็นมนุษย์ติดปีกแบบฟัลคอนซะงั้น หวังว่าเล่มต่อๆไปจะมีบอกถึงสาเหตุที่ต้องมาติดปีกนะ

ขอบคุณครับ

THANAKORN NARKPRASERT (TEI JSA)

ดัดแปลงประโยคและข้อความบางส่วนโดย Bank-Genesis

19 comments:

  1. ใครสอนการ pronounce คำว่า Iron man เป็น ไอเอินแมน ฟร่ะ ควรใช้คำว่า ไอออนแมน ดีกว่านะครับ หรือไม่ก็ใช้ทับศัพท์ไปเลย
    การเรียบเรียงประโยค ดูขัดๆกันมากนะครับ คำที่สะกดผิดก็เยอะ
    คุณต้องฝึกแปล + เรียบเรียงประโยคอีกเยอะ
    ยังไงก็ขอบคุณที่แปลมานะครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ... เขาก็ถูกแล้วนิครับ .. ส่วนเรียบเรียงผมไม่สนใจเท่าไหร่นะคำพูดมันเยอะ

      ว่าแต่สนใจทำผลงานซักสองสามชิ้นไหม? ผมรออ่าน?

      Delete
    2. ออกไอเอินแมนถูกแล้วครับ ดีแล้วที่ไม่ออกเสียงแบบ ไท๊ ไทย อย่างไอร่อนแมน เห็นแล้วเพลีย เหอๆ

      Delete
    3. ขอบคุณครับ
      สำหรับคำติชม
      ผมจะเก็บไว้ปรับปรุง
      ในเล่มต่อๆไปๆนะครับ
      จะได้ไม่ลำบาก
      WEBMASTER
      สาเหตุที่การเรียบ
      เรียงประโยค
      ดูแปลกๆเพราะ
      ผมยุ่งมากจน
      ลืมเช็ค
      ลืมเรียบเรียง
      ไว้เล่มหย้
      เล่มหน้าจะ
      ปรับปรุงใหม่
      ให้อ่านง่ายขึ้นนะครับ

      Delete
    4. ที่ตอบเรียงยาวแบบนี้ไม่ใช่ว่าติสท์แตกนะครับ โทรศัพท์ผมบางครั้งมันก็ลบคำที่จะแก้ไม่ได้ พอลบไม่ได้ผมก็เว้
      ขึ้นบรรทัดใหม่เลย

      Delete
    5. /aɪən/(ไอเอิน) คือการออกเสียงแบบ UK
      /aɪrn/ (ไอร์เอิน) คือการออกเสียงแบบ US

      แต่ไม่ว่าจะสำเนียงไหน หรือลากไปกระทั้งที่มากของคำว่า iron จากภาษาไหนหรือสำเนียงที่เก่าแค่ไหนก็ไม่มีแบไหนอ่านว่า "ไอออน" หรือ "ไอรอน" แม้แต่การสะกดในอังกฤษตอนที่มีคำนี้แรกๆเมื่อปี ค.ศ.700ยังสะกดคำนี้ว่า "Isern" หรือแม้กระทั้ง(isen, ysen, iren, irin, yrin, yron, and so on) เลยด้วยซ้ำ
      ภาษาอังกฤษ มีคำที่ออกเสียงว่า /ˈaɪ.ən/(ไอออน) เพียงคำเดียว คือ ion
      แล้วถ้าเป็นคนทำงานเกี่ยวกับวิทย์ต้องใช้ศัพท์วิทย์เยอะๆ แต่ดันออกเสียง เหมือนกันคงสับสนแย่เลยครับ
      ถ้าจะวิจารณ์อะไรที่เป็นความรู้ก็ให้มันรู้จริงก่อนครับค่อยพูดค่อยวิจารณ์รู้งูๆปลาๆแล้วเอามาวิจารณ์ผลงานที่คนอื่นเค้าตั้งใจทำ

      Delete
    6. เข้าใจว่า Iron เนี่ย อ่านว่า /aɪən/(ไอเอิน) หรือ /aɪrn/ (ไอร์เอิน)
      แต่ภาษาไทยก็มี หลักการเขียนคำทับศัพท์เหมือนกัน http://www.royin.go.th/wp-content/uploads/2015/03/2371_6847.pdf
      ไม่ใช่อ่านยังไงก็เขียนอย่างนั้น เช่น คอมพิวเตอร์ ก็ไม่ได้เขียนว่า "คอมพิ้วเต้อ" ถูกไหม
      ดังนั้น ผมคิดว่า Iron เนี่ย ถ้าเขียนทับศัพท์ ก็จะเป็น "ไอร์ออน" ไม่ก็ "ไอออน" ตามตัวสะกดในหลักการเขียนคำทับศัพท์ครับ (แต่อ่านยังไงก็ว่ากันไป)

      Delete
    7. ขอบคุณสำหรับเรื่อง English Sound System นะครับ เพราะความขี้เกียจเปลี่ยนภาษาของผมระหว่างพิมพ์ ผมเลยเลือกออกเสียง Iron ตามความคิดของตัวเอง
      มาเจอ Eng Sound System แบบนี้ ไม่มีอะไรให้เถียงเลยครับ

      Delete
    8. เขียนว่า ไอเอิ้นน่ะ ใกล้สุดนะครับ
      เพราะพวกเราคงต้องเลี่ยง ไอร่อน
      ถ้าคิดว่าIron ต้องเขียนว่า ไออ้อ ก็ผิดอีกครับ
      เพราะนั่นคือ Ion (ไออ้อน) ตรงตัวเลย

      ซึ่งในจักรวาลมาเวลก็มีตัวละครชื่อIon manจริงๆซะด้วย

      ปล.On มันไม่ได้ออกว่าออนเสมอไปนิ่ครับ
      เพราะOdinson มันก็ไม่ได้อ่านว่า โอดินสอน โอดินซ่อน อะไรเลย
      ขอบคุณครับ

      Delete
  2. ที่จริงถ้าอ่านตามการออกสำเนียงมันจะเป็น " ไอเอินแมน" นะครับ - -''

    ReplyDelete
  3. คุณแปลถูกเเล้วครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  4. คำอ่าน กับ หลักการเขียนคำยืม มันต่างกันนะ เหมือนคำว่า คอมพิวเตอร์ ที่เขาไม่ใส่ไม้โทกันนั่นแหละ (ถึงแม่ล่าสุดมีคนพยายามแก้หลักการเขียนนี้ก็เถอะ)

    ReplyDelete
  5. ทีนี้รู้กันแล้วนะครับว่าระหว่างบูลส์อายกับฮอว์คอายใครแม่นกว่ากัน

    ReplyDelete
  6. พิมพ์ตอบใน reply แล้วโดนลบตลอดเลย
    การเขียนคำทับศัพท์ มีหลักการตามนี้ครับ http://www.royin.go.th/wp-content/uploads/2015/03/2371_6847.pdf
    ไม่ใช่เอาคำอ่านมาเขียนตรง ๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอโทษ คุณ Beekini ด้วยนะครับ พอดีระบบของบล็อกเวลาพิมพ์ยาวๆมันจะรวมไปไว้ในสแปม แล้วนานๆผมจะเข้าไปดูที

      พอดีเพิ่งเห็นจากอันล่าสุด เมื่อกี๊ผมเลยเข้าไปปรับออกมาให้แล้วครับ

      Delete
  7. ครั้งหน้าเขียนพวกชื่อ เป็นภาษาอังกฤษเลยก็ได้มั้งครับ จะได้ไม่มีการเถียงกันเรื่องคำ

    ReplyDelete
  8. อย่าเถียงกันเลย เรียกมันว่าไอ้เตารีดสีแดงก็จบแล้ว

    ReplyDelete
  9. ตอน2 มาเมื่อไหร่จ้ะ รออยู่

    ReplyDelete
    Replies
    1. ยังไม่ออกเลยครับ

      Delete