Thursday, April 17, 2014

Superior Spider-Man #31 Part 1

Superior Spider-Man #31 : Goblin Nation Conclusion Part 1

เรื่องโดย : Dan Slott | ภาพโดย : Giuseppe Camuncoli

วางจำหน่าย : 16 เมษายน 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics


นี่คือบทสรุปของ Goblin Nation และ Superior Spider-Man!

Peter Parker - Amazing Spider-Man ได้กลับมาแล้ว และเขาคือความหวังสุดท้ายที่จะหยุดยั้งความทะเยอทะยานของ Goblin King!!


Green Goblin : ลืมตาได้แล้ว คุณ มาร์โคนี่

Green Goblin : เพราะฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเธอจะรู้สึกยังไงกับทิวทัศน์นี้

Green Goblin : เห็นมั้ย? ว่าเธอไม่ได้อยู่ฐานใต้ดินแล้ว องค์หญิง ตอนนี้เธออยู่บนหอคอย

Anna : พระเจ้าช่วย ได้โปรดฉันยังไม่อยากจะ...

Green Goblin : หมดลมหายใจงั้นสิ? ฐานใต้ดินของฉันมันเก่าไปแล้ว มาดูอาณาจักรใหม่ของฉันดีกว่า

Green Goblin : นิวยอร์ก ได้พ่ายแพ้แล้ว...

Green Goblin : ตอนนี้มันคือ... อาณาจักร ก็อบลิน ของฉัน!

HA HA HA HA


Parker Industries

"เพิ่งจะกลับเข้าร่างเดิมได้แค่ 30 วิ ก็รู้สึกได้เลยว่ามีคนกำลังโกรธฉันอยู่"

Sajani : อะไรกัน? นายมาที่นี่เพื่อเปลี่ยนชุดเนี่ยนะ?

Spider-Man : ก็ประมาณนั้น และขอโทษด้วยที่ฉันหยาบคายก่อนหน้านี้

"รู้สึกเหมือนต้องพูดแบบนี้หลายหนเลยแฮะ"

Sajani : ยังไงก็เถอะ ออกไปซะ เพราะตอนนี้ในเมืองเต็มไปพวกก็อบลิน นายจะทำให้เราตกเป็นเป้าเสียเปล่าๆ

Spider-Man : แต่ฉันต้อง...

Carlie : ซาจานี... ยามันได้ผล ฉันคงจะเป็นเหมือนเดิมในเร็วๆนี้

Spider-Man : คาร์ลี่? มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ที่ว่า "เหมือนเดิม" มันหมายความว่าไงกัน?


Sajani : เธอได้รับสาร ก็อบลิน ฟอร์มูล่า เข้าไปน่ะ

Carlie : และเพื่อนของนาย "ปีเตอร์" ก็ใช้เลือดของฉันในการสร้างยารักษาขึ้นมา

"ห๊ะ อ๊อตโต้ทำอะไรนะ?"

Spider-Man : คุณสามารถที่จะลบล้างก็อบลินเซรุ่มได้? ทำมันเพิ่มได้มั้ย? ขอเร็วๆเลยด้วย

Sajani : ถ้าสัก สองหรือสามอันก็พอได้ แต่ "การรักษา" มันดูไม่เหมือนนายเลยนะ ปกตินายน่าจะยิงมันที่หัว หรือไม่ก็อัดมันจนเกือบตายหนิ

Spider-Man : เอ่อไงดีล่ะ? พอดีผมงีบไปแป๊บนึง แล้วพอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่เลยล่ะ


Spider-Man : เอาล่ะ ให้คุณเจฟฟรี่ย์ได้ทำงานของเธอ ส่วนเธอ (Carlie) กับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน

Carlie : ไม่รู้นะว่าคุณต้องการจะคุยอะไร...

Carlie : ดร.อ็อคตาเวียส ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่คุณช่วยฉันไว้...

Carlie : ...แต่คุณยังขโมยร่างกายของคนที่ดีคนหนึ่งไป อย่าให้เขาตายแทนที่คุณเลย และฉันจะไม่ยอมให้...

Peter : ไม่แล้วล่ะ คาร์ลี่ นี่ผมเอง ปีเตอร์ ผมกลับมาแล้ว และผมพิสูจน์ได้! ในตอนที่ผมโดนอ็อคสลับจิตใจ ตอนนั้นผมอยู่ในร่างของเขา...

Peter : ... ตอนนั้นผมบอกคุณ แต่คุณไม่เชื่อผม แล้วยังยิงผมซ้ำอีก ลองคิดดูสิ ทางเดียวที่ผมจะจำเรื่องนี้ได้ ก็คือผมกลับมาแล้ว

Carlie : ...ปีเตอร์?


Carlie : เป็นเธอจริงๆ โอ้พระเจ้า...

Peter : ฉันรู้ แต่ฉันต้องขอโทษด้วยนะ ฉันต้องไปแล้ว มันมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอยู่ในอันตราย เธอคือ แอนนา มาเรีย มาร์โคนี่ เธอคือแฟนของปีเตอร์... เอ่อ ที่ฉันพูดถึง อ๊อตโต้... ตอนที่เขาเป็นฉันน่ะ

Carlie : ฟังแล้วดูชีวิตของเธอจะยุ่งยากขึ้นนะ

Peter : บอกฉันมาเถอะ... ขอจริงนะ บอกฉันมาให้หมดเลย... แต่ตอนนี้ขอเรื่องของเจ้าก็อบลินก่อน... และขอแบบเร็วๆหน่อยนะ

Peter : ทำไมเขาถึงขยายอำนาจได้อย่างรวดเร็วแบบนี้

Carlie : เธอ...อ๊อตโต้ ปกป้องเมืองนี้ด้วย สไปเดอร์บอท และหุ่นขนาดเล็ก เพื่อทำการตรวจสอบอาชญากรรม

Carlie : แต่เจ้าก็อบลินแฮ้คการทำงานของมัน เขาหลบซ่อนคนที่สวมหน้ากากก็อบลิน หรือมีสัญลักษณ์นั้นจากมัน....


"โอเค เรื่องมันแย่จริงๆ แต่ฉันจัดการได้ หลังจากที่ฉันกลับมาหนนี้ ฉันสามารถรับมือกับอะไรก็ได้ทั้งนั้น"

"แต่ตอนนี้มันมีบางอย่างที่ฉันต้องทำก่อน สิ่งที่อ๊อตโต้อาจจะคิดว่ามันไม่สำคัญ..."

"... แต่สำหรับฉันนอกจากเรื่องนี้แล้วไม่มีอะไรที่สำคัญอีกแล้ว ไม่ว่าอะไรในโลกใบนี้ก็ตาม ฉันต้องได้ยินเสียงของเธอ ฉันต้องรู้ว่าเธอปลอดภัย"

และคนนั้นก็คือ ป้าเมย์ นั่นเอง

Aunt May : ปีเตอร์? ใช่จ๊ะ... ป้าปลอดภัย... ใช่ เจย์อยู่กับป้า แมรี่เจนด้วย แต่หลานน่าจะรู้แล้วนี่ ทำไมหลานถึงโทรกลับมาอีกล่ะ? หลานปลอดภัยหรือเปล่า?

Spider-Man : ผมแค่อยากให้แน่ใจน่ะครับ และผมปลอดภัยครับ ไม่ต้องห่วง และที่จริงแล้ว...

Spider-Man : ...ผมไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อนในชีวิต!

Spider-Man : และผมรู้สึกดีมากจริงๆที่ป้าปลอดภัย แล้วผมจะติดต่อกลับไปให้เร็วที่สุด ผมรักป้านะครับ

และสิ่งนั้นก็ทำให้หลายๆคนรู้สึกสับสน แต่สำหรับ Mary Jane นั้นเธอรู้ดีว่านั่นแหละ Peter มันไม่มีใครรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ทางด้าน Jay ก็คิดที่จะติดต่อไปหา J.J. บ้าง


ที่ห้องทำงานของนายกฯ Jameson

Mayor.Jameson : พังป่นปี้หมดแล้ว สไปเดอร์สเลเยอร์....ของฉัน...เข้าโจมตีตำรวจ... โดยที่มีใบหน้าของฉันอยู่... มันไม่มีอะไรให้แก้ตัวอีกแล้ว

Mayor.Jameson : และฉันไม่มีทางที่จะโทษใครได้ นอกจากตัวฉันเองนี่แหละ

Mayor.Jameson : ไม่สิ ยกเว้นเจ้าพวกปลิ้นปล้อน อัลเคแม็กซ์นั่น เพราะพวกมันเป็นคนออกแบบหุ่นพวกนั้น พวกมันต้องย่อยยับไปกับฉัน ไม่มีบริษัทไหนที่จะได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์นี้หรอก


Alchemax

Tiberius : ดูเองเถอะสหาย ภาพสดจากหุ่นของอัลเคแม็กซ์ที่กำลังต่อสู้อยู่กับอเวนเจอร์... ลองจินตนาการสิ ว่าพวกมันจะทำอะไรได้ในประเทศที่เต็มไปด้วยปัญหาของพวกคุณ

Tiberius : ผมขอเริ่มที่ราคา 12 ล้านดอลลาร์ต่อตัว

“ผมให้ 15 เลย!”

“ผมขอพวกมันทุกตัว คุณ สโตน”


Empire State University

Spider-Man 2099 ยังรอดอยู่ และเหลือหุ่นอีกแค่ตัวเดียวเท่านั้น แต่เขาก็แทบจะหมดแรงแล้ว

Spider-Man 2099 : แฮ่ก...แฮ่ก... นั่นทั้งหมดแล้ว...ใช่มั้ย...

Spider-Man : ยังหรอก!

และ Spider-Man ก็มาช่วยเขาไว้ได้ทันเวลาพอดี

Spider-Man : หือ มิเกล โอฮาร่า? นายมาทำอะไรในช่วงเวลานี้...

Spider-Man 2099 : นี่แกปล่อยให้ฉันจัดการเจ้าหุ่นบ้าพวกนี้คนเดียว เพื่อที่แกจะได้กลับไปเปลี่ยนชุดเนี่ยนะ?

Spider-Man 2099 : นี่แกพยายามจะช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นจริงๆหรือเปล่าเนี่ย?!

Spider-Man : เดี๋ยวสิ! ฉันถูกสลับคลื่นสมองกับ ด็อค อ็อค ดังนั้นฉันเลยไม่รู้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้น... แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะออกไปลุยกับเจ้ากรีน ก็อบลิน และฉันคิดว่าฉันอาจจะต้องขอความช่วยเหลือหน่อย...นะเพื่อนเก่า...นะ?

Spider-Man 2099 : … อืม นั่นมันก็ฟังดูงี่เง่าพอที่จะเป็นจริงได้อยู่ งั้นไปกันเลย


Midtown

Avengers ต่อสู้กับเหล่าหุ่นยนต์ที่มากันอย่างไม่หยุดยั้งจน Iron Man กับ Thor เริ่มจะเหนื่อยกันแล้ว และต้องการกำลังเสริม แต่พวกที่เหลือนั้นก็ตึงมือกับคลื่นเสียงของ Goblin Knight อยู่จนไม่สามารถไปช่วยได้ (ทำไม Avengers มันเหลือแค่นี้ฟร่ะ = =”) แต่ความช่วยเหลือที่ต้องการก็มาถึง

Spider-Man : นี่แก... ฮ็อบก็อบลินใช่มั้ย? ใส่ชุดใหม่...แต่ก็ยังใช้เขี้ยวปลอมเหมือนเดิม

Spider-Man กลับมาพร้อมโดดถีบยอดหน้าเข้าให้เต็มๆ


Goblin Knight : แกกับเจ้าหูทิพย์ของแกน่ะดีก็จริง แต่พ่อคนฉลาด... แกมีทางเลือกที่จะไล่ล่าฉัน... หรือไปช่วยแม่ตัวประกันตัวเล็กของบอส

Goblin Knight : และฟังไว้นะ ว่าถ้าราชาก็อบลินเบื่อเมื่อไหร่ เขามักจะมีความคิดแผลงๆออกมาได้ตลอด

Spider-Man 2099 : พวกเราไล่ไปจับตัวมันได้นะ

Spider-Man : ไม่ล่ะ ไม่มีเวลาแล้ว ฉันสามารถดักสัญญาณของหุ่นพวกนั้นได้แล้ว... มันถูกส่งมาจากตึกของออสคอร์ป

Spider-Man : นั่นย่อมหมายความว่าบอสของพวกนั้นอยู่ที่นั้นด้วย เราจะไปจบเรื่องกันที่นั่น

Cap : ต้องขอขอบใจที่มาช่วยนะ สไปเดอร์แมน แต่ฉันคิดว่านายถอนตัวไปแล้วเสียอีก

Spider-Man : จริงอ่ะ?

Spider-Man : แหม พูดอย่างกับมันจะเป็นไปได้นะ แคป คุณก็รู้นี่ ว่า “ถ้าเป็นอเวนเจอร์แล้วครั้งหนึ่ง...”

Spider-Man : เอ่อ ไว้ทีหลังแล้วกัน เดี๋ยวพวกเราหนุ่มๆแมงมุมขอตัวไปหยุดจุดสั่งการหุ่นพวกนี้ก่อนนะ

Black Widow : พวกนี้มีสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? แต่หนึ่งในพวกนั้นดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นเหมือนเดิมแล้วนะ

Cap : ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง... เอาเมืองของเราคืนมาให้ได้ก่อน


Spider-Man : อัลเคแม็กซ์? เกิดอะไรขึ้นกับออสคอร์ป?

Spider-Man 2099 : มันถูกรวบเข้ากับ อัลลัน เคมิคอล หลายเดือนก่อน ซึ่งมันก็คือจุดเริ่มต้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อนิวยอร์กในช่วงเวลาของฉัน

Spider-Man : โอ้ ฉันจำได้แล้ว

Spider-Man 2099 : งั้นนายก็เข้าใจแล้วใช่มั้ย? ว่าถ้าพวกเราหยุดพวกเขาไม่ได้ พวกเขาก็จะใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขา...

Spider-Man : ตอนนี้ขอเป็นหยุดหุ่นพวกนั้น, หยุดออสบอร์น และช่วยเหลือตัวประกันก่อนแล้วกัน

Spider-Man 2099 : นั่นแหละ ฟังดูเป็นนายจริงๆซักที

แต่พวกเขาก็มีแขกมาเยี่ยม Menace นั่นเอง


แต่เป้าหมายของเธอกลับเป็น Spider-Man 2099

Menace : โอ้ ฉันหวังว่ามันจะเจ็บมากๆเลยนะ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

Menace : ฉันล่ะมีความสุขจริงๆ ที่แกอยู่ที่นี่ เพราะถ้าฉันเกิดเผลอฆ่าสไปเดอร์แมนไป ราชาก็อบลินคงจะไม่ให้อภัยฉันแน่ๆ...

Menace : มันจึงรู้สึกดีมากจริงๆ ที่เขาเอาตัวสำรองมาด้วย

Menace : และฉันรู้ดีจากเรื่องราวที่ผ่านมา “เพื่อนของแก” นั้นสนใจราชาก็อบลินมากกว่าชีวิตอันไร้ค่าของแก แย่จริงๆนะ น่าเศร้าชะมัด...


Spider-Man : ถ้าจะมีอะไรที่ในน่าเศร้าล่ะก็นะ เมเน็ซมันก็คือหมวกของเธอนี่แหละ!

Menace : ไม่ยุติธรรมเลย แกใช้ 2 ต่อ 1

Spider-Man : จริงเหรอ? มาดูกันว่าฉันจะทำให้มันดูแย่กว่านั้นได้มั้ย ด้วยการเป็น แมงมุม 2 ตัว... กับอดีตก็อบลิน 1 ตัว

Spider-Man ฉีดยาแก้ Goblin Formula ให้กับเธอและมันได้ผล

Menace : แกทำอะไรกับฉัน?

Spider-Man : ยาได้ผลแฮะ!

แต่เพื่อให้ชัว Spider-Man จึงต้องยิงใยพันตัวเธอไว้ด้วย

Spider-Man 2099 : ได้ยินเสียงหัวเราะนั่นมั้ย?

Spider-Man : ได้ยินสิ มันดังมาจากตรงนั้น และขอบอกเลยว่า เสียงหัวเราะของพวกก็อบลินน่ะฟังดูแย่สุดๆ

Spider-Man : แต่หนนี้ดูจะเป็นเสียงที่น่าขยะแขยงที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาเลย

และเสียงก็มาจากโต๊ะทำงานของ Liz Alan


มันคือเสียงของ Normie

Normie : ทั้งหมดนี่เป็นของฉัน เพราะฉันเป็นคนพิเศษ

Liz : นอร์มี! ขอบคุณพระเจ้าลูกอยู่นั่นเอง! และสไปเดอร์แมน?... หรือจะเรียกว่าสไปเดอร์เม็นจะดีกว่า?

Spider-Man : ลิซ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? แล้วนั่น...

Liz : ไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว พวกเราต้องออกไปเดี๋ยวนี้เลย! ฉันเห็นภาพจากกล้องบนหลังคาแล้ว! มันกำลังจะระเบิด!

Spider-Man : ไทบีเรียส สโตน? ลิซ เธอจะเชื่อใจไอ้หมอนี่ไม่ได้...

Spider-Man 2099 : มันมีสัญญาณต้นทางที่ส่งออกไปควบคุมสไปเดอร์สเลเยอร์จากที่นี่ พวกเราต้อง...

Liz : พวกเราทุกคนต้องรีบออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้เลย!

Tiberius: ไม่หรอก... ไม่ใช่พวกเราทุกคน ไว้โอกาสหน้านะ เจ้าพวกหนอนแมลง

เมื่อ Stone กดสัญญาณ มันก็ส่งผลกับ Spider-Sense ของ Spider-Man ในทันที


แต่เขาก็โดน Spider-Man 2099 ที่ไม่โดนผลของมันต่อยเข้าซะ

Spider-Man 2099 : ถึงฉันอาจจะเปลี่ยนแปลงอนาคตไม่ได้... แต่ให้ตายเถอะ หมัดนี้มันรู้สึกดีเป็นบ้า

Liz : มันคือเครื่องแจมเมอร์ที่สร้างขึ้นมาขัดขวางสไปเดอรืแมนโดยเฉพาะ ฉันต้องขอฟังคำตอบของคุณสโตนแน่ๆ แต่ไว้หลังจากนี้

Liz : ตอนนี้กรีนก็อบลิน อยู่ข้างบนนั่นพร้อมกับระเบิดมากมาย... และเขาวางแผนที่จะใช้มันแน่ๆ

Liz : คุณไม่รู้หรอกว่าเจ้าบ้านั่นมันบังคับให้ฉัน...และอัลเคแม็กซ์ทำอะไรลงไปบ้าง!

Spider-Man : ไว้บอกทีหลังแล้วกันนะ และเธอพูดถูก...พวกเราต้องเคลียร์ตึกนี้

Liz : ฉันลงมือไปแล้ว ตอนนี้มันเหลือแค่พวกเรา

Spider-Man : นายบาดเจ็บหนักแล้วนะ คู่หู พอจะเอาตัวสโตนกับเมเน็นซ์ออกไปได้มั้ย?

Spider-Man 2099 : ได้อยู่แล้ว แต่นายเองก็ไม่แพ้กันนะ

Spider-Man : ฉันสบายดี ตอนนี้หัวฉันโล่งสุดๆ เชื่อฉันสิ ว่ามันโล่งแบบที่ไม่เคยเป็นมาตลอดหลายปีนี้

Spider-Man : ฉันขอไปจัดการเจ้าก็อบลินและช่วยผู้หญิงคนนั้นก่อน นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องทำ


และเขาก็มาถึงด้านบน

Green Goblin : และแล้วววววว แกก็มาถึงจนได้! ฮีโร่สำหรับเรื่องสุดแสนจะดราม่าของเรา มาถึงในช่วงเวลาไคลแม็กซ์พอดีเด๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อน...แปลกเสียจริง!

Green Goblin : เพราะเจ้า “ฮีโร่” นี่มันไม่ได้มาคนเดียว แต่ตามจริงแล้วเขาก็ไม่เคยมาคนเดียวอยู่แล้ว อีกทั้งจากเบาะแสต่างๆที่ฉันอุตส่าห์ทิ้งไว้ให้ แกกลับทำตัวเองให้น่าอับอายเสียจริงนะ อ๊อตโต้

Green Goblin : แกไม่เคยอยู่ในระดับเดียวกับฉันเลยแม้แต่น้อย แต่การเป็นคนเลวน่ะมันเหมาะกับแกมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้นะ

Green Goblin : การช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นคือความสำเร็จอย่างสุดท้ายสำหรับแกในฐานะสไปเดอร์แมน เพราะเมื่อระเบิดทำงาน มันจะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว!

HA HA HA HA!

Spider-Man : เว้นแต่ความภาคภูมิใจที่ไม่เคยหิ๋วกระเป๋าแต๋วๆแบบแก

คำตอบนี้ทำให้ Green Goblin ถึงกับช็อก เพราะ Doc Ock ไม่มีทางพูดแบบนี้ และคนที่พูดแบบนี้ได้มีอยู่แค่คนเดียว

Green Goblin : เป็นแกเอง

Spider-Man : ใช่แล้ว หนึ่งเดียวคนนี้


เวลาของระเบิดฟักทองเหลือแค่ 60 วินาที เท่านั้น

Green Goblin : นี่มันไม่อยู่ในแผน ไว้มาพบกันใหม่แล้วกัน ขอตัวก่อนล่ะ

Spider-Man : ไม่ล่ะ หมดเวลา “ขอตัวก่อนล่ะ” แล้ว เพราะฉันตัวจริงทำให้แกแสดงตัวตนที่แท้จริงของแกออกมาได้ตลอดจริงมั้ยเจ้าก็อบลิน สีเหลือง!

Green Goblin : ไม่! นี่มันเป็นกลลวง! สไปเดอร์แมนตัวจริงต้องไม่ปล่อยยัยคนแคระนั่นให้ตายแน่! ไม่มีวัน!

Spider-Man : โอ๊ะ แกคือออสบอร์นจริงๆ เพราะแกมักจะสบประมาทคนอื่นอยู่ตลอด

Spider-Man : ไม่ว่าจะเป็น ฉัน, อ๊อตโต้ และคุณมาร์โคนี่ด้วย

Spider-Man : และจากฉันที่รู้จักเธอ...


Spider-Man : ...แอนนา มาเรีย คือผู้หญิงที่สามารถดูแลตัวเองได้

และ Spider-Man ก็เขวี้ยงบูมเมอร์แรงอันนั้นไปให้กับ Anna Maria เพื่อใช้หาทางหนี

Green Goblin : แกคิดว่าฉันกลัวแกงั้นเหรอ? ฉันจัดการแกได้มาก่อน! ฉันเล่นงานแกได้!

Spider-Man : แน่นอน แกเก่งกับสไปเดอร์แมนมือใหม่

Spider-Man : แต่แกลืมไปหรือเปล่า ว่าฉันเองก็จัดการแกได้เหมือนกัน

Green Goblin : แต่มันก็ไม่นานนักหรอก


Spider-Man : แล้วไง? เพราะหนนี้ฉันจะจัดการให้รู้เรื่องรู้ราวกันไปเลย!

Green Goblin : ฮะ! นั่นเป็นสิ่งเดียวที่อ็อคตาเวียสทำได้ดีกว่าแก! เพราะแกมันไม่มีความกล้าพอที่จะทำในเรื่องที่ถูกต้อง ไอ้หนู!

Spider-Man : มันมีมากกว่าหนทางเดียวที่จะทำให้ ก็อบลิน หยุดหัวเราะได้นะ!

Green Goblin : แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นว่ะ ไอ้แมงมุม

และ Spider-Man ก็พลาดทำ Goblin Serum หลุดมือไป

Spider-Man : งั้นฉันจะหาทางอื่นเอาไอ้รอยยิ้มบ้าๆนั่นๆออกไปจากหน้าของ.. แก?

Green Goblin : ใช้นิ้วดูดจับงั้นหรือ ฉลาดจริงนะ ทำให้ฉันประหลาดใจมากเลยว่าทำไมแกถึงไม่เคยใช้ท่านี้มาก่อน

Spider-Man : “มาก่อนเหรอ”? เอ่อพวก...


Spider-Man : ...บอกตามตรงเลยนะ ฉันไม่รู้จริงๆว่านายเป็นใคร

Green Goblin : เฉลยเลยแล้วกันนะ เจ้าโง่ ฉันนี่แหละ นอร์แมนออสบอร์น แต่หน้าตาของฉันถูกพบเห็นมากกว่าเกินกว่าที่จะ...ดำเนินการต่างๆได้ ฉันเลยต้องเปลี่ยนมันไงเล่า

Green Goblin : ตอนนี้ ฉันคือ ผู้จัดการฝ่ายบริหารของอัลเคแม็กซ์ เมสัน แบงค์ และในวันพรุ่งนี้ฉันก็อาจจะเป็นใครก็ได้ ที่จะทำให้งานของฉันสำเร็จลงได้!


ทาง Anna Maria ก็เกือบจะทำสำเร็จแล้ว แต่เวลาก็เหลือเพียง 18 วินาที เท่านั้น

Norman : การสร้างอาณาจักรของอาชญากรขึ้นมาก็สนุกดีอยู่หรอก แต่บริษัทยักษ์ใหญ่เท่านั้นที่จะครองโลกได้ นั่นคือเหตุผลที่ฉันสร้างอัลเคแม็กซ์ขึ้นมา มันจะกลายเป็นมรดกตกทอดของตระกูลออสบอร์น

Spider-Man : เดี๋ยวนะ แกจะเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น “อัลเคแม็กซ์” เหรอ?

Norman : หุบปากไปซะไอ้โง่! มันคืออาณาจักรของหลานชายของฉัน! มันจะกลายเป็นอนุสรณ์ที่จะยืนยงไปอีกหลายศตวรรษ!

Spider-Man : หรืออย่างน้อยๆก็ไปจนถึงปี 2099 ล่ะนะ เอ้อ แล้วงั้นแกจะมาระเบิดมันทำเพื่ออะไรล่ะ พ่อคนฉลาด?

Norman : มันคือความเสียหายที่จำเป็น มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีตึกที่ไม่ได้รับความเสียหายจากพวกก็อบลินเลย

Norman : จะปล่อยให้มันโยงไปหาพวกเขาหรือใบหน้านี้ไม่ได้! แกไม่ควรจะปลดหน้ากากของฉันออกเลย!

Spider-Man : เอ่อ ฉันมีเหตุผลนะ

Spider-Man : เนื่องจากเพราะ “ก็อบลิน โปรโตคอล” มันส่งผล... ทำให้มินิสไปเดอร์-บอทที่ฉันพามาด้วยมองไม่เห็นแกอ่ะ

Norman : อะไรนะ?

และสายไปแล้ว ตอนนี้ Mini Spider-Bots เข้าเล่นงานเขาเรียบร้อยแล้ว และมันสร้างความเจ็บปวดให้กับ Norman เป็นอย่างมาก


ทาง Anna Maria สามารถหลบหนีได้สำเร็จ

Anna : สไปเดอร์แมน!

Spider-Man : หวังว่านายจะสนุกกับเจ้าตัวเล็กพวกนั้นนะ ออสบอร์น พวกนั้นทุกตัวติดตั้งยารักษาก็อบลินไว้...

Spider-Man : …นั่นคือของขวัญสุดท้ายจาก อ๊อตโต้ อ็อคตาเวียส! และนั่นทำให้ฉันนึกออก...

Spider-Man : ว่าฉันมีคำสัญญาที่ต้องรักษา!

Anna Maria ตกลงจากตึกท่ามกลางระเบิด ทำให้เธอตกลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว

“ฉันฝึกการทำแบบนี้มาหลายพันรอบแล้ว กับการที่จะยิงใยออกไปช่วยเหลือใครสักคน...”

“...แล้วมันจะมีแรงสั่นสะเทือนมากเท่าไรที่จะส่งผลกับเขาคนนั้น”

“ในตอนนี้ ฉันหลับตาทำยังได้เลย”


“....และทั้งหมดนี่ก็เพราะ ฉันไม่อยากจะทำให้ฝันร้ายนั่นหวนกลับคืนมาอีก”

Spider-Man : ได้ตัวเธอแล้ว!

และทาง Norman ก็ไม่สามารถคุมเครื่องร่อนไว้ได้ ทำให้ Spider-Man ต้องไปช่วยเขาอีกคน

Spider-Man : กอดไว้นะ แอนนา มาเรีย... เพราะวันนี้เที่ยวบินเราคนแน่นจริงๆ

Norman : ฉัน... ฉันไม่เข้าใจทำไม...?

Spider-Man : ทำไมแกถึงล่วงลงมาน่ะเหรอ? ก็เพราะพลังก็อบลินของแกหายไปแล้ว ส่วนที่ว่าทำไมฉันถึงช่วยเหลือแก?

Spider-Man : เพราะฉันคือ สไปเดอร์แมน เมื่อฉันอยู่ที่ไหน จะต้องไม่มีใครตายที่นั่น แม้แต่แกก็ตาม


Spider-Man : ที่เหลือก็แค่ทำการทดสอบดีเอ็นเอ... และ “เมสัน แบงค์” ก็จะต้องรับอาชญากรรมต่างๆที่ นอร์แมน ออสบอร์น ได้ทำไว้...

แต่แล้วจู่ๆ Liz Allen กลับกด Spider-Sense Jammer เข้าจนทำให้ Spider-Man เซไปในทันที

Liz : อ๊ะพระเจ้า ฉันขอโทษ...

Liz : ฉัน...ไม่ได้ต้องการจะทำแบบนั้น.. แต่พอมองเห็น เมสัน แล้วคิดว่าหลังจากสิ่งที่เขาทำกับพวกเรา ฉันเลย...

Spider-Man 2099 : นี่คุณคิดว่าพวกเราจะเชื่องั้นเหรอ? เขาหลบหนีไปได้แล้ว! เพราะคุณ!

Spider-Man : ไม่เป็นไร... ฉันเชื่อเธอ

Spider-Man : พวกเราเป็นเพื่อนกันจริงมั้ย ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ได้ตั้งใจนะ ลิซ

“ล่ะมั้ง? ฉันคงจะต้องจับตาดูเธอไว้เสียแล้ว ลิซ อัลลัน เพราะดูเหมือนบางสิ่งบางอย่างในตัวเธอจะผิดแปลกไป”

“และนั่นก็กับลูกของเธอด้วย...”

Liz : จำไว้นะ นอร์มี ที่แม่และคุณตาของลูกทำลงไป ก็เพื่อลูก เพื่อลูกทั้งนั้น


ที่ทางใต้ดิน

Norman หนีออกมาได้ และแม้ตอนนี้พลังของก็อบลินจะหายไปแล้ว แต่นั่นมันรวมถึงความบ้าคลั่งของเขาอีกด้วย และเขาคิดว่าเขาชนะแล้ว ตอนนี้อัลเคแม็กซ์ปลอดภัยแล้ว เขาได้ทุกๆอย่างที่ต้องการ มรดกของเขาได้รับการสืบทอดแล้ว

“คราวหน้าล่ะ? ฉันจะกลับมาพร้อมแผนใหม่... และใบหน้าใหม่”

“หลายปีที่ผ่านมา สไปเดอร์แมนและพวกของมันต้องรับมือกับคนบ้าผู้บ้าคลั่งมาโดยตลอด”

“พวกแกไม่เคยเผชิญหน้ากับนอร์แมน ออสบอร์น ที่แท้จริง ชายที่มีสติปัญญาของเขาอยู่อย่างเต็มเปี่ยม”

“เหลิงดีใจไปเถอะเจ้าพวกโง่”

“เพราะคราวหน้า แกจะไม่รู้ตัวเลยแม้แต้น้อย ว่าฉันได้กลับมาแล้ว”


Spider-Man 2099 : เจ้าหน้าที่คุมสถานการณ์ได้แล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องไปแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะถามคำถามที่ฉันไม่อยากจะตอบ

Spider-Man 2099 : แต่มันรู้สึกดีจริงๆที่ได้เห็นนายกลับเป็นตัวเองอีกครั้ง

Spider-Man : เหมือนกันแหละคู่หู ขอบใจมากสำหรับทุกๆอย่าง

Spider-Man : แล้วเจอกันใหม่ในอนาคตนะ!

Spider-Man 2099 : ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น!

*Spider-Man 2099 จะออกมาวาดลวดลายในซีรี่ส์ของตัวเอง กรกฎาคมนี้

และทาง Avengrs ก็เริ่มออกมาดูแลความลปอดภัยของประชาชนได้แล้ว

“แล้วพวกเขาก็ปรากฏตัวแล้ว... หลังจากที่คนร้ายหนีหายไปเรียบร้อย ดีใจด้วย ปาร์คเกอร์ นายกลับมาพร้อมดวงของนายเหมือนเดิมแบบไม่บุบสลายเลยแฮะ”

Anna : สไปเดอร์แมน...

“แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ทั้งหมดนะ เพราะฉันช่วยผู้หญิงคนนี้ไว้ได้ และไม่มีใครต้องตาย”

Anna : ได้โปรด คุณคือ เพื่อนของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ใช่มั้ย ฉันได้ยินว่าเขาตาย...ไปแล้ว คุณพอจะรู้...

Spider-Man : ไม่ต้องกังวลไป ปีเตอร์หนังเหนียวอยู่แล้ว เขาสบายดี เชื่อฉันได้เลย ว่าเขารู้สึกดีกว่าที่เป็นมาไม่รู้กี่เท่า!


Anna : โอ้ พระเจ้า...

Spider-Man : เฮ้...ให้ฉันช่วยอะไรเธอมั้ย เพราะเธอผ่านอะไรมามากมาย...

Anna : ไม่ต้องค่ะ...ฉันแค่รู้สึกโล่งอกที่ปีเตอร์ปลอดภัย

Spider-Man : เขามีความหมายกับเธอมากเลยงั้นสินะ?

Anna : เขาหมายถึงทุกๆอย่างของฉัน เขาเป็นคนที่ใจดี และมีความคิดที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดคนนึง... โดยเฉพาะหลักการคิดของเขา!

Anna : ถ้าคุณรู้จักเขาแบบที่ฉันรู้จักล่ะก็ เขาจะเป็นคนที่... มหัศจรรย์มาก


จากนั้นเจ้าหน้าที่พยาบาลก็มาพาตัวเธอไปรักษา

Anna : สไปเดอร์แมน สัญญากับฉันนะ ถ้าคุณเห็นปีเตอร์ บอกเขาด้วยว่าฉันปลอดภัยดี นะ?

Spider-Man : เอ่อ ผม...สัญญา

Anna : ขอบคุณมาก ที่ช่วยเหลือพวกเรา ที่จริงแล้วฉันก็คิดไว้ว่า... ไม่สิ ฉันคิดไม่ออกเลยว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงถ้าขาดเขาไป

Spider-Man : เธอรักเขามากจริงๆ

Spider-Man : ฉันคิดผิดไปเอง การที่ฉันมาอยู่ที่นี่... มันทำให้มีใครคนหนึ่งต้องตายไป

เขาคนนั้นก็คือ Otto Octavius – Superior Spider-Man และนี่คือบทสรุปของเรื่องราว หากแต่ว่าความวุ่นวายในชีวิตของ Pete จะยังไม่จบลงแค่นี้


จบบท

แต่เดี๋ยวก่อนพรุ่งนี้กลับมาพบกันใหม่กับเรื่องราวภายหลังจากเหตุการณ์ Goblin Nation ส่วนที่สองของ SSM #31

คุยกันท้ายเล่ม

เล่มนี้เน้นลุยกันอย่างเดียวจริงๆ และ Pete ก็เคลียร์คู่กรณีไปได้หลายคนอยู่ จึงเหลืออีกไม่มากที่จะต้องไปเคลียร์ต่อ แต่พวกเหล่าร้ายนี่คงหมดสิทธิไปอธิบายแหงๆ โดยรวมตั้งแต่ติดตามมา 31 เล่ม ผมชอบเล่ม #30 ที่สุด เพราะ Epic สุดๆจริง กับการจากไปของ Doc Ock และการกลับมาของ Peter

เล่มนี้ผมรู้สึกว่า Green Goblin นี่บทมันจะส่งให้พูดมากเกินไปหรือเปล่า ล่ออธิบายให้ศัตรูเข้าใจทุกอย่างหมดเลยแบบนี้

พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อกับส่วนที่เหลือนะครับ (ส่วนแรกปิดฉาก Goblin Nation ส่วนที่สองคือเรื่องราวหลังจากนี้ ว่าสิ่งที่เกิดขึ่้นส่งผลอะไรกับใครในแง่ไหนบ้าง (เกี่ยวกับตัวละครหลักๆของเรื่อง)) ตอนนี้ขอตัวไปนอนละครับ

17 comments:

  1. พูดซะรู้เลยว่าฝันร้ายที่ว่าคืออะไร = ="

    ReplyDelete
  2. บทจะเคลียร์นี่ง่ายเกินไปนะผมว่า

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณมากและฝันดีครับ

    ReplyDelete
  4. บทจะหนี ก็หนีง่ายจังเลยนะนอร์แมน - -*

    ReplyDelete
  5. Peter : ...แต่คุณยังขโมยร่างกายของคนที่ดีคนหนึ่งไป อย่าให้เขาตายแทนที่คุณเลย และฉันจะไม่ยอมให้...

    ผผมว่าประโยคนี้Carlieน่าจะเป็นคนพูดนะครับ ไงๆก็ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณครับ เมื่อคืนลงเสร็จผมก็หลับแล้ว เลยต้องมานั่งไล่ดูช่วงเช้าว่ามีลงอะไรผิดบ้าง

      Delete
  6. ฝันร้าย เกวนสินะ

    ReplyDelete
  7. :v เสียดายแอนนานิดๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนนี้ของด็อก :v

    อนึ่ง จริงๆแล้วความทรงจำของพีทตอนที่โดนคาลี่ยิงนั้นควรจะอยู่ในซากของด็อกอ็อค และตัวด็อกอ็อคในร่างของพีทไม่ควรจะรับรู้เรื่องนั้นด้วยแม้แต่น้อยเลยนี่นา = =" กลิท หรือเปล่าน้า...

    อีกเรื่องนึง ฉากการลบความทรงจำของด็อกอ็อกน่ะ ถ้าแดนนึกทะลึ่งให้ด็อกใช้ความทรงจำนี้(ของปีเตอร์) ดึงตัวตนของแกกลับมาอีก ก็พอจะแถได้นี่นา ต่อให้ตอนนี้สรุปว่าด็อกลบความทรงจำทั้งหมดของตัวเองออกแล้วก็เหอะ แต่ตอนปีเตอร์ตามลายแทงกลับมาเพื่อเอาร่างคืน ปีเตอร์ก็เห็นมาเยอะพอควร มากพอจะเล่นมุกแบ่งร่างกันใช้ได้อยู่นะผมว่า :v

    ReplyDelete
  8. จริงด้วย ที่คนแต่งให้ปีเตอร์เดินวนสับสนในความทรงจำด็อกอ็อกตั้งหลายตอน มันต้องมีจุดประสงค์แอบแฝงอะไรแน่ๆ เพราะ ณ ตอนนี้ดูยังไม่มีเหตุผลที่ต้องให้เป็นแบบนั้นตั้งหลายตอนเลย

    ถ้ามีเหตุการณ์ที่ต้องพึ่งความทรงจำด็อกอ็อกขึ้นมา งานนี้ได้ปลุกชีพซูพีเรียสไปดี้แน่ๆ

    ReplyDelete
  9. สุดยอด อยากอ่านภาคต่อละ (แต่ก็อยากให้เจอ superior อีกนะ คาดว่าถ้าปีเตอร์มีวิกฤตเราอาจจะได้เห็นบุคลิกออกมาละมั้ง)
    ขอบคุณมากๆครับ

    แต่ผมคิดว่าประโยคคำพูดนี้ ...
    Spider-Man : เว้นแต่เกียรติภูมิที่รู้ว่าตัวเองไม่เคยล้วงกระเป๋าคนอื่นเลย ไม่ว่าจะจนสักแค่ไหนก็ตาม
    ตรงนี้ Spider-Man น่าจะบอกว่า: อย่างน้องฉันก็ยังเหลือเกียรติที่ไม่เคยใช้กระเป๋าเงินมาก่อนละนะ (เป็นมุขอ่ะ)
    การจิกกัดแบบนี้มีอยู่คนเดียว G.G ก็เลยรู้ว่าปีเตอร์กลับมาแล้ว

    ReplyDelete
    Replies
    1. สไปดี้ : เว้นแต่ความภูมิใจที่รู้ว่าชั้นไม่เคยหิ้วกระเป๋าตังค์(แต๋วๆ)แบบแก

      ขอบคุณคุณ seorori ครับ ผมลองไปหาดูว่า carry men purse เป็น idiom หรือเปล่า ซึ่งก็หาไม่เจอ ผมก็เลยไปค้นรูป men purse ในกูเกิลมาได้ตามลิงค์นี้ครับ
      https://www.google.co.th/search?q=men+purse&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ei=KTVRU7WcJpLy8QXOrIG4DA&ved=0CAYQ_AUoAQ&biw=1600&bih=813

      ซึ่งผมตีความคำพูดของสไปดี้ว่าเป็นการจิกกัดที่ GG สะพายกระเป๋าแบบนั้นตลอดครับ

      กรณีผมเห็นด้วยครับ +1

      Delete
    2. ขอบคุณมากครับ ตามไปดูมามันประมาณนั้นจริงๆ

      Delete
  10. เล่มนี้สนุกมมากๆครับ -0- / รอพาท 2 นะครับ :)

    ReplyDelete
  11. มันเคลียร์ง่ายเกินไปนิด แล้วออสบอร์นก็ สปอยตัวเองหมด แถมหนีง่ายๆอีก

    ReplyDelete
  12. ผิดหวังนิดหน่อยที่ออสบอร์นบอกซะหมดเปลือกเลย.. คืออย่างน้อยน่าจะให้คนอ่านงงซักแป๊บนึงก็ยังดีว่าพอเปิดหน้ากากมาแล้วมันเป็นใครกันหว่า (บอกตรงๆว่าจำไม่ได้เลยว่าอีตานี่มันมีบทออกมาตอนไหนฟ่ะ) แล้วค่อยมาเฉลยตอนท้ายๆเล่มก็ได้ว่าผ่าตัดแปลงโฉมมา เพราะตอนแรกอุตส่าห์หวังมาตลอดว่าภายใต้หน้ากากจะไม่ใช่ออสบอร์นอย่างที่มันพยายามบอกมาตลอดว่ามันคือออสบอร์น

    ReplyDelete
  13. สูญเปล่าชิบเลย สุดท้ายปีเตอร์ก็ยังเป็นฮีโร่โลกสวยเช่นเคย

    จะต้องไม่มีใครตาย.. คราวหน้าโดนสลับร่างอีกก็ไม่ต้องกลับมาเเล้วนะ เฮ้อ

    ReplyDelete
  14. จริงๆแล้วอยากให้นิสัยเป็นการผสมกันระหว่าง Peter กับ Otto อย่างละครึ่งนะนี่

    แบบนั้นมันคงจะน่าสนุกดีเหมือนกัน

    ReplyDelete