Justice League #43

Justice League #43

Darkseid War Chapter 3

เรื่องโดย : Geoff Johns | ภาพโดย : Jason Fabok

วางจำหน่าย : 19 สิงหาคม 2015

สำนักพิมพ์ : DC Comics

Batman กลายเป็นเทพเจ้าด้วยการนั่งเก้าอี้โมเบียส แต่มันจะช่วยเขาค้นหาคำตอบเรื่อง Anti-Monitor ได้หรือไม่?

Superman และ Lex Luthor ที่อยู่บน Apokolips จะสามารถหาทางรอดไปได้อย่างไร?

และในที่สุดสงครามก็เปิดฉากขึ้นแล้ว!

ในห้องแห่งหนึ่ง ชายผู้หนึ่งได้ฆ่าสุนัขที่อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมีเสียงเรียกชื่อเขาดังขึ้นมา

Steppenwolf : คาลิบาค?

Kalibak : ไปซะ ข้ากำลังยุ่ง

Steppenwolf : พ่อของเจ้าให้ข้ามาตาม พวกเรากำลังจะไปที่โลกกัน

Kalibak : โลก? ท่านพ่อให้มาตามข้าไปร่วมศึก?

Steppenwolf : ถูกต้อง หากแต่ครั้งนี้เจ้าต้องทำตามแผนการที่วางไว้

Steppenwolf : เจ้าชอบที่จะเข่นฆ่าคนของพวกเราเองเพียงเพราะพวกนั้นขวางทางเจ้าอยู่

Kalibak : ก็พวกมันขวางจริงๆไม่ใช่เหรอ สเต็พเพ่นวูฟ

Steppenwolf : เจ้าต้องหัดยับยั้งชั่งใจบ้าง

Kalibak : ข้าก็กำลังทำอยู่นี่ไง ด้วยการไม่เข้าไปสะบั้นหัวและบดขยี้กระดูกของเจ้า

Steppenwolf : พ่อของเจ้าต้องการตัวเกรลและมารดาของนางแบบเป็นๆ ศึกครั้งนี้มีน้องสาวของเจ้าเป็นเดิมพัน สิ่งที่เจ้าต้องทำมีเพียงแค่ทำตามคำสั่งของดาร์กไซด์เท่านั้น

Steppenwolf : เพื่อดาร์กไซด์

Kalibak : เหอะ เพื่อคาลิบาค

ถ้ำศิลาแห่งอนันต์กาล

Justice Leauge ได้ถูกช่วยเหลือมาที่นี่ และบัดนี้ Batman กลายเป็นผู้ที่ครอบครอง Mobius Chair สิ่งที่เก็บรวบรวมภูมิความรู้ทั้งมวลไว้

Batman : แอนไทมอนิเตอร์คือใคร?

Batman : ... ฉันขอถามอีกครั้ง ใครคือแอนไทมอนิเตอร์?

Batman : มันคือสิ่งเดียวที่เก้าอี้โบเมียสของฉันไม่รู้

Hal : เก้าอี้ของนาย?

Batman : ถูกต้อง มันเป็นของฉันแล้ว จอร์แดน

Darkseid War

Chapter 3 - การแย่งชิง

Hal : ฉันว่านายต้องลงมาจากเก้าอี้นั่นก่อนที่มันจะส่งผลกระทบโดยถาวรนะ

Batman : ลงไปจากมันเหรอ แลนเทิร์น? มันคือศูนย์รวมข้อมูลที่เราจะหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

Hal : มันกำลังมอมเมาสมองนายนะ แบทแมน นั่นไม่ใช่เรื่องดีเลย และอีกอย่างไม่ว่านายจะได้รับข้อมูลอะไรฉันก็ใช้แหวนเพื่อเชื่อมเข้าถึงฐานข้อมูลของเก้าอี้ได้...

Batman : ไม่ ขนาดความจุข้อมูลของแหวนนั่นไม่สามารถที่จะรองรับกับตัวเก้าอี้ได้

Batman : ฉันขอบใจที่เป็นห่วง แต่ฉันมีประสบการณ์การเผชิญหน้ากับดาร์กไซด์และอโพโคลิปส์มากกว่าพวกนาย

Cyborg : แต่ไม่ใช่ในตอนที่มีเจ้าวิทยาการของเอเลี่ยนนี่อยู่ด้วย ในตอนแรกที่พ่อของผมเชื่อมต่อเข้ากับมาเธอร์บ็อกซ์ ผมได้มองเห็นบางส่วนของอโพโคลิปส์และนั่นแทบจะทำให้ผมเป็นบ้า

Cyborg : ถ้าจะมีใครสักคนที่ครอบครองเก้าอี้ตัวนั้น มันก็ต้องเป็นคุณนั่นแหละ แบทแมน แต่บางทีคุณไม่ควรจะเสี่ยง

Steve : มันดูเหมือนเขาจะลอยเหนือเราขึ้นไปเรื่อยๆแล้วนะ

Batman : งั้นเหรอ พันเอก เทรเวอร์?

WW : แบทแมนลงมาคุยกันก่อน...

Batman : ฉันรับมือกับมันได้ ไดอาน่า ฉันทำได้จริงๆ

แต่ดูเหมือน Wonder Woman จะไม่เห็นแบบนั้น

อีกด้านพวก Superman ยังคงอยู่ที่ Apokolips พวกเขาเดินเข้ามาในส่วนที่ดูเหมือนจะเป็นที่อยู่ของทาส Superman คิดว่าตอนนี้มันมีทางเดียวที่จะพาพวกเขากลับไปได้ และนั่นก็คือ Mother Box ทาง Superman จึงพยายามที่จะสำรวจรอบด้าน แต่เขาก็พบว่าสายตา X-ray ใช้การไม่ได้ ซึ่งนั่นอาจจะเพราะมันมีตะกั่วในอากาศ Luthor จึงลองตรวจสอบดูและพบว่ามันมีสารพิษมากมาย แต่มีตะกั่วอยู่แค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง

และนั่นก็คือฝูงทาสของ Apokolips ที่ Darkseid ปล่อยพวกมันออกมาจัดการทั้งคู่ และหากทำได้ พวกมันจะได้รับอิสระภาพอีกครั้ง

Luthor เป็นคนแรกที่เล่นงานพวกมัน แต่ Superman ก็ห้ามไม่ให้ลงมือรุนแรงเพราะเขาคิดว่าพวกนี้เป็นผู้บริสุทธิ์และตกเป็นทาสของที่นี่เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่า Luthor ไม่คิดแบบนั้น เพราะที่นี่คือ Apokolips ทำให้ Superman เหน็บ Luthor เกี่ยวกับน้องสาวของเขา Lena ว่าเธอยิงเขาเพราะอยากจะทำจริงๆ หรือโดนล้างสมองแบบพวกนี้ เนื่องจากเธอพูดเองว่า “เพื่อดาร์กไซด์” ก่อนที่จะทุบใส่พื้นอย่างรุนแรงเพื่อแยกพวกทาสที่คลุ้มคลั่งออกไป และเมื่อมองไปทาง Luthor ก็พบว่าเขากำลังจ้องตนอยู่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ

เพราะ Superman เลือดออกจากการโจมตีครั้งนี้

Luthor : มันไม่ใช่ตะกั่วในอากาศที่ปิดกั้นสายตาเอ็กซ์เรย์ของแก

Luthor : ที่นี่มันไม่มีแสงอาทิตย์

และเมื่อไม่มีแสงอาทิตย์พลังของ Superman ย่อมอ่อนแอลง... จนครั้งนี้มันเป็น Superman ที่ปรากฎตัวสายตาแห่งความตกใจ

ที่ฐานของ Myrina

Kanto และ Lashina ได้มาถึง แต่พวกเขาก็ไม่พบตัว Myrina แล้ว และ Kanto ก็พบรอยเลือดของ Mister Miracle ทำให้เขาคิดว่าทั้งคู่คงได้พบกันแล้ว และแยกย้ายกันไป Kanto นั้นดูจะสนใจ Mister Miracle มาก จน Lashina ต้องเตือนว่าเป้าหมายของพวกเขาในครั้งนี้คือ Myrina ส่วนที่ Kanto สนใจ Mister Miracle นั้นเป็นเรื่องส่วนตัว Kanto จึงบอกว่าที่เขาสนใจอีกฝ่ายนั่นเพราะอีกฝ่ายเป็นคนเดียวที่สามารถหลบหนีไปจากเขาได้

Kanto : สามารถตามหาเจ้านั่นได้หรือไม่ มาเธอร์บ็อกซ์?

Mother Box : ข้าทำได้

Lashina : อันดับแรกตามหา ไมรีน่า ก่อน แล้วจากนั้นค่อยเป็น สก๊อตต์ เพื่อดาร์กไซด์

Kanto : แน่นอน เพื่อดาร์กไซด์

ฝั่ง Grail ก็ได้วาดสัญลักษณ์โอเมก้าลงไปบนพื้น

Grail : ข้าขอเรียกหาความมืดมิด

Grail : ความชั่วร้ายในดวงใจทุกดวง

Grail : ด้วยเลือดของเทพเจ้าองค์เก่า และใหม่

Grail : จงมาหาข้า ท่านพ่อ

ทางด้าน Justice League ก็กำลังพูดคุยกันเรื่องของ Grail ว่าเธอเป็นลูกสาวของ Darkseid ที่ใช้ Flash เป็นประตูมายังโลกนี้ และใช้แหวนของ Jessica เปิดประตูพา Anti-Monitor มา Batman อธิบายเพิ่มเติมว่าแม่ของเธอคือชาว Amazon ชื่อ Myrina Black ซึ่ง Wonder Woman ไม่รู้จัก แต่เขาก็อธิบายให้เธอฟังว่า เธอเป็นนักฆ่าของแม่ของ Wonder Woman และหล่อนออกไปจากเกาะตอนที่เธอเกิดในเวลาเดียวกับที่หล่อนคลอด Grail

Shazam : ว้าว คุณกับลูกสาวดาร์กไซด์มีวันเกิดวันเดียวเหรอเนี่ย? รู้สึกน่ากลัวเป็นบ้า

จากนั้น Batman ก็สัมผัสได้ว่า มีใครกำลังมา พร้อมกับ Boomtube ที่เปิดออก

และคนคนนั้นก็คือ Mister Miracle ที่ก่อนที่จะแนะนำตัวก็โดน Batman แย่งซีนอธิบายหมดเปลือก ทำให้ Mister Miracle แปลกใจ

MM : นี่แบทแมนไปทำอะไรบนเก้าอี้โมเบียสเนี่ย เมตรอน?

Metron : พวกนั้นแย่งมันไปจากข้า

MM : ก็เห็นอยู่นะว่าพวกเขาทำ หรือนี่เป็นแผนของเจ้าที่อยากให้พวกเขาทำกันแน่ เหมือนกับที่แกหลอกให้พ่อของข้าส่งข้าไปที่แคปภ์ทาสของดาร์กไซด์ในตอนแรก

MM : ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่? เจ้ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่?

Metron : ข้าก็แค่มาเตือนพวกเขา

MM : แต่ข้าเชื่อไม่ลงแฮะ

MM : และข้าเองก็เชื่อว่าพวกเจ้าไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อใจข้า งั้นมาให้ข้าทำให้พวกเจ้าแน่ใจ...

Mister Miracle ได้เอาบ่วงบาศของ Wonder Woman ไปใช้เพื่อให้พวก Justice League รู้ถึงความจริงใจของเขา

MM : ข้าเกรงว่าข้าจะต้องตายก่อนที่จะได้พบหญิงอันเป็นที่รักอีกครั้ง

MM : แต่ข้าไม่มีเวลาที่จะไปพบเธออีกแล้ว เพราะเวลากำลังจะหมดลง ดาร์กไซด์กำลังจะมาที่นี่

MM : ข้าสามารถมอบสิ่งที่ข้ารู้ให้พวกเจ้ารับรู้ได้ในระหว่างทาง แต่พวกเราต้องไปหาแอนไทมอนิเตอร์ พวกเราต้องพยายามทำให้เขาออกไปจากโลก

WW : เขาพูดความจริง

Steve : แต่บ่วงบาศเหมือนจะใช้ไม่ได้กับเมตรอน

WW : ฉันมองเห็นมันจากดวงตาของเขา สตีฟ

Batman : ฉันจะไม่ไปด้วย เพราะหากแอนไทมอนิเตอร์ปฏิเสธที่จะจากไป พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะหยุดมันได้ยังไง

Batman : ดังนั้นพวกเรายิ่งรู้เรื่องของมันมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นเท่านั้น เก้าอี้ของฉันบอกว่าฉันจะสามารถหาคำตอบได้จากส่วนลึกของห้วงอวกาศ

Hal : งั้นฉันไปด้วย

Batman : ฉันทำเรื่องนี้คนเดียวได้

Hal : ก็นายจะไปอวกาศไม่ใช่เหรอ? ที่นั่นน่ะเขตของฉันนะ และนายกับฉันจะได้มีเวลาสานสัมพันธ์แบบลูกผู้ชายร่วมกันด้วยไง

Jessica : ฉันควรจะไปด้วยมั้ย?

Hal : อยู่กับพวกแฟลชเถอะ พาวเวอร์ริง แหวนของเธอเหมือนจะเชื่อมต่อกับเขาอยู่ ไปค้นหาคำตอบเถอะว่ามันเป็นเพราอะไร

Jessica : มันพูดกับฉันอีกแล้ว และบอกว่าพวกเราจะต้องตาย

Hal : ไม่มีความกลัว จำได้มั้ย

หลังจากตกลงกันได้ Mister Miracle ก็ใช้กุญแจมือของเขาล่าม Metron ไว้ที่นี่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหายุ่งยากตามมา ก่อนที่จะเชื่อมต่อจุดหมายของ Mother Box เข้ากับพิกัดของ Cyborg และพวกเขาก็ออกเดินทางไป พร้อมกับกลุ่มของ Batman และ Green lantern

Metron : ในไม่ช้า

Metron : ข้าจะเป็นอิสระ ในไม่ช้า

ทางด้านพวก Superman เมื่อพบว่าพลังของเขากำลังจะหมดลง Luthor ก็คิดว่าพวกเขาควรจะหนีไปตั้งหลักก่อน

Luthor : พวกมันกำลังมาจากทุกทิศทาง

Superman : พวกเราควรจะหันหน้าคุยกับพวกนั้น

Luthor : แล้วถ้าแกทำให้มันมาอยู่ข้างเดียวกับพวกเราไม่ได้ล่ะ ซุปเปอร์แมน? พวกเราสู้กับพวกมันทั้งหมดไม่ไหวแน่ๆ และในอีกไม่กี่ชั่วโมงแกก็จะกลายเป็น...

Superman : มนุษย์

Luthor : คนที่ไร้พลัง

Luthor : อย่าบ้าน่า แกไม่มีวันเป็นมนุษย์

Luthor : แล้วนี่บินได้มั้ย?

Superman : คิดว่าไม่น่าจะไหว

Luthor : งั้นจับมือฉันไว้

Superman บอกแบบไม่น่าเชื่อว่า Luthor จะยื่นมือให้กับเขา

Luthor : ตอนนี้แกต้องเชื่อใจฉัน

และเมื่อไม่มีทางเลือก เขาก็ต้องทำตามที่ Luthor บอก

ฝั่ง Grail นั้น Anti-Monitor เริ่มเบื่อที่จะรอแล้ว แต่ Grail ก็บอกให้เขารอต่อไปอีกหน่อย แต่แล้วกลุ่มของ Wonder Woman ก็มาถึงพร้อมบอกให้ Anti-Monitor ไปจากที่นี่ แล้วพวกเธอจะปล่อยเขาไป ซึ่ง Grail ก็บอกว่ามันสายไปแล้ว

สิ้นคำพูดของ Grail ในแทบจะทันที Darkseid และกองทัพของมันได้ปรากฎตัวออกมา

Grail : สวัสดีท่านพ่อ

Jessica : พวกเราจะทำยังไงดี? พวกเราจะสู้กับฝ่ายไหน?

การศึกชุลมุนมากขึ้น เช่นเดียวกับ Wonder Woman ที่หวนนึกถึงการเดินทางของ Odysseus ที่ต้องข้ามผ่านเส้นทางที่มี 2 สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลที่ปกป้องเส้นทางนั้นอยู่

และมันพวกอยู่กันเกินกว่าจะหลบหลีกทั้ง 2 ตัวได้ เขาต้องเลือกผ่านไปทางตัวใดตัวหนึ่ง เช่นเดียวกับศึกนี้ พวกเขาไม่สามารถที่จะจัดการทั้งคู่ได้ หากแต่ว่าพวกเขาจะเลือกจัดการฝ่ายไหน...? หรือบางทีมันอาจจะไม่สามารถจัดการฝ่ายไหนได้และถูกพวกมันทำลายลง...

ที่ Apokolips นั้น Luthor ได้พา Superman บินหนีกลุ่ม parademons ที่ไล่ตามมา แต่เขารู้ดีว่ามันหนีไม่พ้น และเพื่อให้รอดออกไปมันมีแค่ทางเลือกเดียว

Luthor : พวกเราไม่มีทางรอดไปได้ ฉันต้องทิ้งแกลงไป

Superman : เดี๋ยวก่อน…

Luthor : ฉันต้องทำเพื่อช่วยเราทั้งคู่ ซุปเปอร์แมน เซลล์ในร่างกายของแกนั้นสามารถที่จะดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์ได้ และหลุมไฟบนอโพโพคลิปส์นี่ก็เป็นแบบเดียวกัน

พูดจบเขาก็ทิ้ง Superman ตามที่บอกทันที

บนโลก 2 ผู้ยิ่งใหญ่ได้เปิดฉากการต่อสู้ของพวกมัน ในขณะที่บน Apokolips นั้น Superman ได้ดูดซับพลังของเปลวไฟนรกไว้

Luthor : ซุปเปอร์แมน!

Luthor ที่ต้านจะไม่ไหวแล้วได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ และลำแสงสีขาวก็สาดส่องออกมาจากเพลิงนรกพร้อมทำลาย Parademons ในบริเวณนั้นจนหมด

Superman : ลูธอร์

Superman : ฉันควรจะฆ่าแกทิ้งเมื่อนานมาแล้ว

ร่างของ Superman ได้เปลี่ยนแปลงไป ร่างของเขามีประกายแสงสีขาวและดำเข้าปกคลุม พร้อมกับ Heat Vision ที่กลายเป็นสีดำ

“เทพเจ้ากำลังเปิดสงคราม”

“และพวกเราบางคนอาจจะไม่รอดไปจากศึกนี้”

ตอนต่อไป

สู้จนกว่าจะตาย

คุยกันท้ายเล่ม

หลังจากเล่มที่แล้วมาเนิบๆหน่อย เล่มนี้ก็จัดเต็มจนอยากอ่านเล่มต่อไปสุดๆ ซึ่งดูจาก Mister Miracle แล้ว มันก็ดูเหมือนว่าบ่วงบาศจะไม่มีผลกับเขาจริงๆ แล้วที่ Metron พูดในเล่มที่แล้วเขาโดนบังคับหรือจงใจพูดออกมากันแน่? แถมตอนท้ายยังบอกแบบนั้นอีก เป็นไปได้มั้ยว่าเขามีแผนจริงๆ? ทาง Batman ก็เริ่มที่จะโดนพลังเข้าครอบงำจนแสดงความหวงแหนเก้าอี้ของตัวเองบ้างแล้ว แต่ที่น่าติดตามที่สุดคงไม่พ้น Justice League ที่เหลือว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้า... ท่าดูจากคำพูดของ Batman ที่บอกว่า "ฉันมีประสบการณ์การเผชิญหน้ากับดาร์กไซด์และอโพโคลิปส์มากกว่าพวกนาย" นี่จะหมายถึง Justice League บทแรกอย่างเดียวหรือ รวม Batman & Robin ที่ไปช่วยลูกด้วยหว่า...