Friday, July 25, 2014

Batman and Robin #33 : Robin Rise Part 1

Batman and Robin #33 : Robin Rise Part 1

เรื่องโดย : Peter J. Tomasi | ภาพโดย : Patrick Gleason

วางจำหน่าย : 23 กรกฏาคม 2014

สำนักพิมพ์ : DC Comics


จาก Robin Rise Omega ร่างของ Damian ถูกพวก Apokolips ขโมยไป 

Batman จึงต้องการที่จะไล่ตามไปเพื่อนำเอาลูกชายของเขากลับมา แต่เขาจะทำอย่างไรเมื่อ Justice League กลับกลายเป็นผู้ที่ขวางทางเขาไว้!


ก่อนหน้านี้จาก Robin Rise Omega #1

Batman ได้ไล่ตาม Ra's Al Ghul ที่ลักพาตัวศพของ Damian มาจนทันในที่สุด และด้วยความร่วมมือของ Frankenstein กับเพื่อนๆของเขา ทำให้ Batman สามารถต่อสู้กับพวก Ra's ได้อย่างสูสี จนกระทั่งการมาถึงของกำลังพลจาก Apokolips


และผู้ที่มาถึงก็คือ Glorious Godfrey เขามาตามหาสิ่งที่เรียกว่า Chaos Shard ซึ่ง Ra's ได้ค้นพบและซ่อนไว้ในโลงศพของ Damian ทาง Godfrey ก็ระบุได้ว่าเขาจับสัญญาณได้จากหนึ่งในโลงศพพวกนั้น (Damian กับ Talia) งานนี้ Batman กับ Ra's จึงต้องร่วมมือกันชั่วคราว เพื่อไม่ให้ Godfrey ได้ในสิ่งที่มันหวังไว้


และเมื่อเป็นตามนั้น ศึกระหว่าง Batman & Ra's กับ Godfrey กับกองกำลัง Parademons จึงเปิดฉากขึ้น


ในระหว่างการต่อสู้ พวก Parademons พยายามที่จะหอบเอาโลงศพของทั้งคู่ไป Batman กับ Ra's จึงพยายามเข้าไปขวางไว้ แต่แล้ว Ra's กลับพลาดท่าโดนยิงตกลงไปพร้อมกับโลงศพของ Talia


ทางด้าน Batman ก็สามารถช่วยโลงของ Damian ไว้ได้ และพบกับ Chaos Shade ที่อีกฝ่ายพูดถึง มันทำให้เขาจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นั่นคือช่วงเวลาที่เขาอยู่บน Earth-2 จากการนำทางของ Kaiyo (อีเวนต์ใน Batman/Superman) และอีกย่างที่เขามองเห็น... คือ Damian ได้ช่วยพวกเขาไว้... (อันนี้น่าจะเกิดในอนาคต)


แต่แล้วหลังจากนั้น Batman กลับพลาดท่า จนเกือบจะโดน Godfrey ฆ่า แต่โชคดีที่พวก Justice League ตามมาทัน ซึ่งนั่นเป็นเพราะ Batman ได้เปิดสัญญาณขอความช่วยเหลือไว้นั่นเอง


ทาง Godfrey ที่ได้ในสิ่งที่ต้องการครบ ก็เลือกที่จะล่าถอย แต่มันได้เอาโลงศพของ Damian ไปด้วย Batman จึงยิงปืนสลิงหมายที่จะไล่ตามพวกมันไป แต่แล้ว Shazam กลับเข้ามาตัดมัน และคิดว่าที่เขาทำลงไปเป็นการช่วยเหลือ Batman ไว้


Batman ที่เสียโอกาสที่จะนำเอาศพของลูกชายกลับมา จึงระเบิดอารมณ์ทั้งหมดออกมา และเข้าต่อยใส่ Shazam อย่างรุนแรง


หลังจากนั้นคนในกลุ่มก็ตัดสินใจกัน ว่าจะเอายังไงต่อ โดย Batman ยืนยันว่าเขาจะไปพาตัว Robin กลับมา เพราะเขาได้มองเห็นช่องทางในการชุบชีวิต Damian ให้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง และเพื่อการนั้นเขาต้องไปยัง Apokolips เพื่อทำมัน แต่สมาชิกคนอื่นๆก็ยังไม่อยากให้เขาไปเสี่ยงเพื่อคนตายคนเดียว และแน่นอนว่ามีหรือ Batman จะยอม

Batman : ฉันจะไปที่อโพโคลิปส์ และเอาตัวโรบิ้นกลับมาแบบเป็นๆ!


Batman : มีใครต้องการจะพูดอะไรอีกมั้ย?

Batman : ถ้ามีก็ก้าวออกมา... แล้วบอกฉันมา ว่าทำไมฉันถึงไปที่อโพโคลิปส์ไม่ได้!

Robin Rise Part 1 : ความยุติธรรมอันเย็นยะเยือก


Aquaman : นั่นเพราะพวกเราคือแนวหน้าไงล่ะ แบทแมน... นายน่าจะรู้ดีกว่าใคร ว่าพวกเราไม่สามารถที่จะออกไปจากโลกได้ เพื่อทำภารกิจส่วนตัวได้ ไม่ว่าพวกเราจะอยากทำแบบนั้นแค่ไหนก็ตาม

Aquaman : ความรับผิดชอบของพวกเราต่อผู้คนบนโลกนั้นต้องมาก่อนเหนือสิ่งอื่นใด

Batman : อควาแมน พวกอโพโคลิปส์พวกนี้กลับมาเหยียบโลกของพวกเราอีกครั้ง ภายหลังจาก 5 ปี ที่ผ่านมา

Batman : นายคงจะหลอกตัวเองแน่ๆ ถ้าคิดว่าพวกมันไม่ได้วางแผนการณ์ใหญ่ไว้


Luthor : แต่ฉันว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับ โรบิ้น ล้วนๆเลยนะ

Batman : ทั้งสองอย่างนั่นแหละ ลูธอร์

Cyborg : คุณบอกพวกเราเสมอนี่ว่า “การไม่เตรียมพร้อม ก็เหมือนกับเตรียมพร้อมไปเผชิญความพ่ายแพ้”

Cyborg : เรื่องของ ดาร์กไซด์ กับ อโพโคลิปส์ มันเป็นปัจจัยที่ใหญ่... และยังเร็วเกินไป... พวกเรายังไม่รู้เรื่องของพวกนั้นดี จนถึงขนาดที่จะโดดไปหาพวกนั้นได้


Batman : แต่บางทีการโดดเข้าไปเลยอาจจะเป็นตัวเลือกเดียวของนายนะ ไซบอร์ก

พูดจบ Batman ก็ช็อต Cyborg พร้อมวาร์ปตัวเองกลับไปยัง Watcher Tower พร้อมยังปิดระบบเคลื่อนย้ายเพื่อไม่ให้คนอื่นๆตามมาอีกด้วย


และเมื่อ Shazam คิดที่จะไล่ตามขึ้นไป Wonder Woman ก็รั้งเขาไว้ และบอกว่าทุกคนต้องทำงานเป็นทีม พวกเธอไม่ใช่กลุ่มที่รวมตัวกันขึ้นมาเพื่อเอาแต่ต่อสู้อย่างเดียว Aquaman จึงเสริมอีกว่า Batman นั้นเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้ง Shazam ที่เพิ่งจะเข้ามาได้ไม่กี่อาทิตย์ควรจะรับฟังและเรียนรู้ ไม่งั้น Batman ได้เตะโด่งเขาออกจากทีมแน่ๆ ทางด้าน Luthor ก็กำลังแก้ไขระบบเพื่อพาพวกเขากลับไป ส่วน Frankenstein ก็ใช้โอกาสนี้ตีจากไป


ที่ Watch Tower

Batman ได้เคลื่อนย้ายตัวเองกลับมา พร้อมเดินไปยังห้องๆหนึ่ง และใช้รหัสของเขาเปิดห้องนั้นออกมา


และสิ่งที่อยู่ในนั้น ก็คือเกราะ Hellbat ของเขา


Batman : รับคำสั่งปลดเกราะ เฮลแบท

“กำลังทำการประมวลผล... เฮลแบท ทำการปฏิเสธคำขอการเข้าถึง”

Batman : ชิ

“ระบบถูกทำการแก้ไขรหัสใหม่”

Batman : สรุปแล้ว พวกนายคิดจะขวางฉันให้ได้เลยงั้นสิ?


Aquaman : นายจะออกไปยังดาวดวงอื่นเพื่อเล่นบทบาทของพระเจ้าไม่ได้

Batman : ทำไมถึงจะไม่ได้ล่ะ อาเธอร์? ในเมื่อพวกเราก็เล่นบทบาทของพระเจ้ากันอยู่ทุกวันอยู่แล้ว

Batman : หนึ่งในลูกสาวของเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเรา แล้วพวกเรายังไม่รู้อีกว่า เด็กชายอายุ 15 กลายเป็นแบบนั้นได้ยังไง... คงจะต้องขอบใจพ่อมดจากสมัยโบราณ...ที่สามารถทำให้เด็กกลายเป็นชายหนุ่มได้ ด้วยการเรียกสายฟ้าลงมาเพียงครั้งเดียว

Batman : ดังนั้นอย่าคิดว่าฉันจะมาสนใจความคิดของพวกนาย เมื่อมันมีโอกาสที่ฉันจะสามารถทำให้โรบิ้นกลับมามีชีวิตได้


Aquaman : นี่พวกเราต้องพูดกันอีกกี่ครั้งนายถึงจะเข้าใจ ว่าพวกเรายังไม่พร้อมสำหรับการดึงดูดความสนใจของ ดาร์กไซด์

Shazam : แต่ฉันว่าฉันพร้อมเสมอนะ

Cyborg : เงียบไปเลย บิลลี่

Batman : แต่มันดูเหมือนว่าพวกเราจะได้รับความสนใจจากมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ และมันก็ได้ตัว โรบิ้น ไปแล้ว นี่ขอถามหน่อยนะ ว่าถ้ามันเป็น เมร่า แทน มันยังจะมีการสนทนาบ้าๆแบบนี้อยู่อีกมั้ย?

Aquaman : แบบนั้นมันไม่ยุติธรรมเลยนะ

Batman : แน่นอน


Batman : ฉันเป็นคนออกแบบชุดนี้ขึ้นมาเพื่อเป้าหมายเดียว นั่นคือการใช้มันเพื่อต่อสู้กับภัยร้ายที่ยิ่งใหญ่

Wonder Woman : แต่นายสร้างมันด้วยความช่วยเหลือของพวกเรา

Wonder Woman : มันเป็นโครงการของทีมนี้ตั้งแต่เริ่มต้น... จนเสร็จสิ้น


“มันถูกหลอมโดย ซุปเปอร์แมน ที่ดวงอาทิตย์”

“และได้รับการเสริมความแข็งแกร่งจาก กรีนแลนเทิร์น กับ แฟลช”

“ได้ ไซบอร์ก ช่วยในการเชื่อมต่อชุด”

“ได้ อควาแมน ช่วยเหลือในการเพิ่มความทนทานของชุด”

“...พวกเราทุกคนได้ช่วยเหลือในการสร้างมันขึ้นมา เพื่อเป้าหมายเดียวที่นายก็รู้ดี”


Wonder Woman : นั่นคือการทำให้นายปลอดภัย เพราะนายคือคนเดียวที่ไม่มีพลังพิเศษ... คนเดียวที่ใช้ร่างกายเปล่าๆของตัวเองต่อสู้ในศึกที่ยากลำบาก

Batman : สรุปแล้วก็เหมือนกับว่า พวกเธอยื่นมือมาช่วยเหลือฉันให้อยู่ดีงั้นสิ?

Batman : แต่ฉันไม่สนเรื่องนั้น ไซบอร์ก ปลดล็อกมัน

Cyborg : เสียใจด้วย แบทแมน แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้

Batman : ฉันเองก็เสียใจเหมือนกัน ว่าแต่ โคลด์ นายคิดว่าการเอาปืนมาจ่อหัวฉันนี่... มันเป็นความคิดที่แล้วหรือไง?!

ความชุลมุนเกิดขึ้นอีกรอบ


แต่แน่นอนว่า Batman คนเดียวในห้องอันคับแคบ เขาจะไปทำอะไร Justice League ทั้งหมดได้

Wonder Woman : แบทแมน ขอร้องล่ะ

Batman : มองดูพวกเราสิ ไดอาน่า

Shazam : ขอร้องล่ะลุงค้าวคาว อย่าให้ฉันต้องกระทืบลุงเลยน่า

Batman : ฉันบอกให้ดูพวกเราเองไง!

Batman : เอามือของนายออกไปได้แล้ว ฉันไม่สู้กับพวกนายแล้ว อาเธอร์

Aquaman : นายยอมแล้วจริงๆเหรอ?

Batman : ฉันเหนื่อยมากแล้ว


Apokolips

Glorious Godfrey ได้กลับมาแล้ว และได้ไปหาคนที่สั่งให้เขาไปตามล่า Chaos Shade จากโลก ซึ่งบัดนี้เขาสามารถรวบรวมทั้งหมดให้กลายเป็น Chaos Sliver แต่งานนี้ Godfrey ได้ของอีกอย่างติดมือกลับมาด้วย นั่นคือ โลงศพของ Damian ซึ่งสาเหตุที่ Godfrey เอากลับมาด้วยนั่นเพราะโลงศพปล่อยคลื่นพลังงานปริศนาออกมา ซึ่งเป็นแบบเดียวกับของ Chaos Sliver


และผู้ที่บัญชาให้ Godfrey ไปเอามันกลับมาก็คือ Kalibak บุตรแห่ง Darkseid นั่นเอง

Kalibak : สิ่งที่มีรูปแบบพลังงานที่เทียบเคียงกันได้งั้นหรือ?

Kalibak : ถ้าเช่นนั้นก็ดี เพราะ เคออส แคนน่อน ต้องการพลังงานทุกอย่างที่มันพอจะหาได้


กลับมาที่โลก Bruce นั่งอยู่หน้าหลุมศพของ Damian และ Talia หลุมศพที่ว่างเปล่า ก่อนที่จะลุกขึ้นมาหยิบจอบ


แต่แล้วเขากลับยกจอบนั้นขึ้นมาฟาดเข้าใส่ป้ายหลุมศพของ Damian จนพังไม่เป็นชิ้นดี แล้วเขาก็หยุดมือ เพราะรับรู้ได้ถึงบางอย่าง

Bruce : นายต้องการอะไร คลาร์ก?


Superman : ไดอาน่า บอกฉันแล้ว ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

Bruce : แน่นอนว่าเธอต้องบอก และถ้านายจะมาฟังคำขอโทษล่ะก็นะ ลืมมันไปได้เลย

Bruce : แต่ถ้าเกี่ยวกับความเสียหายที่หอสังเกตการณ์ เดี๋ยวฉันจะเซ็นเช็คไปให้

Superman : นี่นายจะหุบปากสักนาทีได้มั้ย?

Superman : ที่ฉันมาที่สุสานของ ทาเลีย กับ เดเมี่ยน ก็เพื่อมาขอโทษที่เรื่องต่างๆมันหลุดการควบคุมไป

Superman : ถ้าตอนนั้นฉันอยู่ด้วย บางทีมันอาจจะ...

Bruce : แต่นายก็ไม่อยู่ แล้วถ้านายไม่ว่าอะไร ลงมาคุยกันข้างล่างนี่ได้มั้ย... ฉันปวดคอจะแย่แล้ว

Superman : ดีขึ้นหรือยัง?

Bruce : มากเลยล่ะ


Bruce : ฟังนะ มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาสานต่อเรื่องนี้ สิ่งที่ฉันทำลงไปมันเป็นความเห็นแก่ตัว และฉันก็ยอมรับในจุดยืนของลีกส์นะ คลาร์ก

Bruce : ผู้คนควรจะรู้ถึงขีดจำกัดของเขาเอง และฉันคงจะบ้าไปแล้วแน่ๆ ถ้าฉันคิดจะกลับไปยัง อโพโคลิปส์ ที่มีสิ่งมีชีวิตอย่าง ดาร์กไซด์ อยู่

Superman : แต่ฉันว่าบางทีพ่อที่กำลังโศกเศร้าสามารถที่จะทำเรื่องบ้าๆได้นะ บรู๊ซ

Superman : เอาเถอะ ฉันรู้แล้ว ว่านายจะไม่ไปที่นั่น... แต่ถ้านายต้องการอะไรเพิ่มล่ะก็ แค่ตะโกนหาฉันเท่านั้น

จากนั้น Superman ก็จากไป แล้วไม่นานนัก Bruce ก็กลับออกมาจากที่นั่น เขาเดินกลับไปยังทางลับของเขา และสวมชุด Batman


และที่นั่น สมาชิก Bat Family คนอื่นๆได้มาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว นั่นหมายความว่าที่ Bruce ยอมรามือในตอนต้นก็เพื่อรวมกำลังพลในการบุกอีกครั้ง และ Bat Family ก็พร้อมใจที่จะช่วยเหลือเขา

Bruce : ฉันดีใจ ที่เห็นพวกเธอมาอยู่นี่


Bruce : เอาล่ะ ได้เวลาลุยกันแล้ว


โปรดติดตาม Robin Rise ตอนต่อไป!

คุยกันท้ายเล่ม

จากเล่มสุดท้ายที่แตะหัวนี้ก็เกือบจะปีนึงแล้ว หนนี้อ่านแล้วสนุกมากเลยกลับมาทำอีกรอบ เล่มหน้าได้เข้าทาง Bat Family Vs Justice League แน่ๆ และสุดท้ายถ้าให้เดายังไง Batman ก็ต้องได้เกราะไป แต่จะสู้กันชุลมุนแค่ไหนคงจะต้องติดตามกันต่อไปในเดือนหน้านะครับ

14 comments:

  1. ขอบคุณมากๆคับ สนุกมากตอนนี้

    ReplyDelete
  2. Nightwing ไม่มากะเขาหรออ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สถานะ Nightwing ตอนนี้สำหรับBat Family ถือว่าตายไปแล้วครับ ไม่มีใครรู้เรื่องของ Dick นอกจาก Bruce

      Delete
    2. อ่อ ลืมไปว่าโดนเปิดเผยตัวจริง

      Delete
  3. ง้องแง้งมากแบท อุตส่่าห์ขึ้นชื่อเรื่องใช้สมอง จะช่วยคนตายด้วยการกลับมารวมคนไปตายเพิ่ม แต่แบทลูกรัก dc อยู่แล้วเดี๋ยวยังไงบทมันก็พลิกอีกอยู่ดี

    ReplyDelete
    Replies
    1. นี่ล่ะครับจุดอ่อนของเฮียเเบท เวลา family มีใครบาดเจ็บหรือตาย เฮียเเกมักจะสติหลุดประจำ

      Delete
  4. โทษนะครับ พอดีสงสัย
    ทาเลียตายตั้งแต่เมื่อไรเหรอฮะ
    แล้วอยู่ๆราส์ฮัลกูลแกนึกจะมาทำอะไรกับศพสองคนนี้

    ReplyDelete
  5. โอ้ นี้ยังน้อยนะนี้ ถ้าเอา Bat Incมาล่ะก็ 555 จบครับจบ Batgod มาแว้ว

    ReplyDelete
  6. ขอบคุณนะครับ พี่แบง 55+
    ดีใจจุง

    พอดีผมลงคอมมิคใหม่ๆไม่ได้อ่ะ คอมเน่า
    แล้วก็ทำ Two-Face ค้างไว้ที่เล่มสามอีก

    ยังไงก็ขอบคุณน่ะครับที่ทำแทน...

    ReplyDelete
  7. รูปหายครับ อยากอ่านมาก

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไม่หายนะครับ ผมเปลี่ยนที่อัพภาพมานานแล้ว ปัจจุบันยังไม่เคยมีหายเลย อาจจะโหลดไม่ขึ้นมากกว่านะครับ

      Delete
  8. ไม่ขึ้นนะครับ สงสัยเป็นที่เน็ตหรือบาวเซอร์ของผมเอง

    ReplyDelete
  9. ถ้าเป็นเรื่องครอบครัวแกนี่ พี่แบทสติหลุดตลอด นึกถึงตอนนึงที่แกเห็นพ่อแม่ที่ตายไป ก็เข้าไปกอด แล้วบอก "You are safe now" แล้วพอร่างจะหาย ก็ร้องห่มร้องไห้ อย่าทิ้งผม (ได้ข่าวว่าเอ็งเคยไปจิกคนอื่นว่าขี้แงนะ) ...ทั้งมาดเข้มๆ ทั้งปากจัดๆ ตรรกงตรรกะพี่แบทแม่งไปหมด ...ถ้าเป็นเรื่องครอบครัวพี่แกทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียใครไป เราว่าตรงจุดนี่นี่แหละที่สะท้อนความเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจของแกออกมา (ใครช่างบังอาจทำให้พี่แบทกลับมามีหัวใจ เราล่ะจะเศร้าตาม เพราะที่ผ่านมามาดเข้มๆ ของแกนี่แหละ ลืมไปเลยว่าแกก็เป็นมนุษย์คนนึง T-T)

    ReplyDelete
  10. จะว่าไปกลัวเหตุนี้จะเป็นเหตุให้พี่แกกับลีคแตกหักกันน่ะสิ =_=

    ReplyDelete