Friday, August 22, 2014

Batman and Robin #34 : Robin Rise Part 2

Batman and Robin #34 : Robin Rise Part 2

เรื่องโดย : Peter J. Tomasi | ภาพโดย : Patrick Gleason

วางจำหน่าย : 20 สิงหาคม 2014

สำนักพิมพ์ : DC Comics


Batman ได้เรียกตัว Bat Family คนอื่นๆมาพบ เพื่อแผนการบางอย่าง

และ Batman ก็เตรียมการพร้อมแล้ว สำหรับการบุก Watch Tower เพื่อยึดเกราะ Hellbat ที่จะใช้เดินทางไปยัง Apokolips!


จากเล่มที่แล้ว Bruce ได้เรียกพวก Red Robin มาพบในถ้ำค้างคาว

Bruce : ครั้งล่าสุดที่พวกเราได้พบกันในถ้ำนี้ก็คือตอนที่ โจ๊กเกอร์ ต้องการให้พวกเรามาเจอกัน แต่คืนนี้มันเป็นความต้องการของฉันเอง

Bruce : คืนนี้มันมีเหตุผลที่ฉันต้องการพวกเธอ

Jason : ก็หวังว่าเหตุผลที่ว่านั่น จะไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผมต้องมานั่งมองหน้าโชกเลือดของตัวเองในจานข้าวหรอกนะ

Barbara : หรือรอให้ถูกเผาทั้งเป็นด้วย

*ที่ Jason กับ Barbara พูดถึง คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอีเวนต์ Death of The Family ที่ทำให้ครอบครัวค้างคาวเกิดการแตกแยกเล็กๆขึ้นครับ

Robin Rise Part 2 : สายสัมพันธุ์ที่เชื่อมต่อกันอีกครั้ง


Alfred : นี่พวกคุณต้องการให้ผมย้ำหรือไม่ครับ ว่าบนจานนั่นมันไม่ใช่ใบหน้าของพวกคุณ และ คุณหนูบรู๊ซ ก็เป็นคนที่ช่วยพวกเราไว้

Bruce : อัลเฟรด คุณไม่ต้องช่วยพูดหรอก เพราะพวกเขามีสิทธิที่จะยังโกรธอยู่แบบนี้

Bruce : เพราะตัวตนลับของพวกเรา คือสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเราใช้ชีวิตตามปกติได้ และพวกเราก็เกือบจะแตกแยกกันเพราะ เจ้าตัวตลกนั่น เนื่องจากฉันปกปิดความลับจากพวกเธอ...

Bruce : ...มันคือบางสิ่งที่ฉันควรจะบอกพวกเธอตั้งแต่แรก ตอนที่ฉันเจอการ์ดของโจ๊กเกอร์ในถ้ำนี้

Bruce : แต่ตอนนี้ฉันอยากให้พวกเราเริ่มกันใหม่

Bruce : พวกเราแตกแยกกันมาพอแล้ว

Bruce : จากนี้ไป ไม่ว่าจะดี... หรือร้าย... ความจริงจะกำหนดทุกอย่าง


Barbara : จนกระทั่งมันไม่เป็นแบบนั้น... จนกระทั่งสถานการณ์บางอย่างปรากฎขึ้นมา แล้วคุณก็เริ่มทำตัวมืดมนใส่พวกเรามากกว่าเดิม

Tim : อ่าฮะ เหมือนกับที่คุณคิดจะผ่าตัด แฟรงเกนไสตล์

Jason : หรือพาผมไปที่ หุบเขาแม็กกาด้าร์ เพื่อระลึกถึงวันดีๆของเศษซากที่หลงเหลืออยู่ของการระเบิดกับชะแลงนั่น

Bruce : ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้นอีก

Bruce : พวกเราจะพูดจากใจจริง ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม

Bruce : พวกเราจะเข็มแข็งหลังจาก...

Barbara : ความเชื่อใจที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งนั้น

Jason : ความเชื่อใจกันอย่างแท้จริง ไม่มีการเล่นแง่ ตั้งแต่นี้และตลอดไป บรู๊ซ พวกเราขอแค่นี้แหละ

*สิ่งที่ทั้งสามคนพูด คือสิ่งที่พวกเขาเจอมาในบท Robin Requiem ซึ่ง Batman หมดอาลัยตายอยากกับการจากไปของ Damian จนทำให้ครอบครัวค้า่งคาวเป็นห่วง แต่แล้ว Batman กลับทำในสิ่งที่คนอื่นๆที่มาช่วยต้องผิดหวัง


Bruce : แน่นอน พวกเธอได้รับคำสัญญาจากฉัน แต่นี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องที่ว่าฉันยังคงจะกวดขันพวกเธอทุกคนอย่างหนักในเวลาที่พวกเราทำงานร่วมกัน

Jason : ยังหัวโบราณเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆ

Bruce : แต่แน่นอนว่านั่นหมายถึงฉันเองก็ด้วย

Bruce : แล้วตกลง... พวกเราคืนดีกันหรือยัง?

Barbara/ Tim/ Jason : แน่นอน/ ครับ / ตามนั้น

และเมื่อกลับมาคืนดีกันแล้ว พวกเขาก็ถอดหน้ากากทิ้งกันเสียที เป็นการพังกำแพงบางๆที่กั้นพวกเขาอยู่

Bruce : ดี


Jason : ว่าแต่ อัลเฟรด คุณมีอาหารฉลองวันรวมญาติหนนี้รออยู่ข้างบนมั้ย เพราะตอนนี้พวกเรากลับมากันแล้ว?

Alfred เกรงว่า เตาอบ จะเย็นเกินไปแล้วล่ะครับ คุณเจสัน แต่มันยังมีแยมกับเนยถั่วอยู่ในตู้นะครับ

Bruce : เรื่องอาหารไว้ว่ากันทีหลัง ตอนนี้ตามฉันมาก่อน

Tim : คุณไม่ได้เรียกพวกเรามาเพื่อแค่ขอโทษงั้นสิ?

Bruce : นั่นเป็นขั้นตอนแรกน่ะ ทิม

Barbara : งั้นขั้นต่อไปล่ะ?

Bruce: อย่างที่ฉันบอกไปแล้ว ว่าจะไม่มีความลับต่อกันอีก

Jason : นั่นมันอะไร?

Bruce : มันเป็นเหมือนกับ มาเธอร์บ็อกซ์

Barbara : มันทำอะไรได้?


Bruce : มันทำการเปิดประตู... ที่เชื่อมต่อไปยังมิติอื่นไงล่ะ บาร์บาร่า

Time : คุณหมายถึงโลกที่พวกซินดิเคตข้ามมา?

Bruce : ไม่ เป็นอีกที่นึง สถานที่ที่เรียกว่า อโพโคลิปส์ และฉันจะไปเยี่ยมเยียนมันเร็วๆนี้

Jason : นี่คุณไปเอาเจ้านี่มาจากไหน?


Bruce : จากหนึ่งในพวกนั้น

และอุปกรณ์ข้างๆก็ดีดตัวขึ้นมา เผยให้เห็นศพของ Parademon และมันก็ทำให้ Titus ตกใจ

Bruce : ไม่เป็นไรหรอก ไททัส... พวกมันทำอะไรแกไม่ได้แล้ว

Barbara : นี่คุณไปเอามันมาจากไหนกันเนี่ย?


Bruce : เจ้าสิ่งนี้ ถูกเรียกว่า พาราเดม่อน และเอาเป็นว่าฉันยึดมันมา ซึ่งเจ้านี่ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว แต่มีอยู่อีกมาก พวกมันถูกนำไปที่ฐานของจัสติสลีกส์เพื่อทำการวิเคราะห์

Tim : ผมจำได้ว่าเคยเห็นมันในข่าว ตอนที่คุณและจัสติสลีกส์เผชิญหน้ากับพวกมันเป็นฝูง


Bruce : และไม่ต้องพูดถึง ว่าพวกมันเพิ่งจะโผล่มาที่เทือกเขาหิมาลัย เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน

Barbara : เทือกเขาหิมาลัย?

Bruce : ศพของเดเมี่ยนและทาเลีย ถูกขโมยออกไปจากสุสาน ฉันได้ไล่ตามไปเพื่อนำพวกเขากลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

Barbara : ใครเป็นคนทำ?

Bruce : เขา

Jason : ผมเพิ่งจะลุยกับ เรซ อัล กูล มาเมื่อไม่นานมานี้ เขาเป็นคนที่น่ารังเกียจสุดๆ

Barbara : แล้วหมอนี่เอาศพของพวกนั้นไปที่เทือกเขาหิมาลัย?

Bruce : ถ้าจะเอาให้ชัดก็คงจะเป็นที่ นันดา ภราบาตะ แต่เรื่องมันยาว ฉันคงต้องขอข้าม...

Tim : ไม่ล่ะ พอดีพวกเราอยากจะฟังทั้งหมด

Jason : โอ้ ใช่เลยพวกเราอยากจะฟังมั่กๆ

Bruce : อัลเฟรด

Alfred : ได้เลยครับ เดี๋ยวผมไปยก แซนด์วิช กับ เนยถั่ว มาให้นะครับ คุณหนูบรู๊ซ

*ทั้งหมดที่ Bruce อธิบายไปเป็นเรื่องที่เกิดในช่วง The Hunt for Robin
**Nanda Prabat เป็นเมืองลับแลที่อยู่บนเทือกเขาในประเทศทิเบต เป็นสถานที่แห่งการรู้แจ้งและการรักษา และเป็นสถานที่ที่ให้กำเนิด Deadman อีกด้วย


และสุดท้ายก็เข้าเรื่อง

Tim : นั่นมันอะไรเนี่ย?

Bruce : มันคือสิ่งที่จะช่วยให้ฉันมีโอกาสรอดบนอโพโคลิปส์

Barbara : นี่คุณคิดว่ามันจะสำเร็จจริงๆงั้นเหรอ คุณแน่ใจว่าจะช่วย เดเมี่ยน ได้แน่นะ?

Bruce : ฉันมั่นใจ

Jason : โอเค เยี่ยม ไปลุยกันเลยดีกว่า

Tim : พวกเราจะไปกันเมื่อไหร่ดี?

(โอ้ว คนหนุ่มไฟแรง)

Bruce : ใครบอกว่าจะให้พวกเธอไปด้วย

(อ้าว... ซะงั้น)


Barbara : นี่คุณพูดอะไรของคุณเนี่ย?

Bruce : ฉันก็เพิ่งจะบอกว่า พวกเธอต้องอยู่ที่นี่ยังไงล่ะ

Jason : ก็เพื่อนๆในลีกส์ของคุณ ไม่เอากับคุณ... พวกเราก็จะไปกับคุณไง

Tim : พวกเราจะไม่ให้คุณไปคนเดียว


Bruce :ฉันไม่เคยคิดที่จะส่งพวกเธอไปทำภารกิจที่เสี่ยงอันตรายเหมือนการฆ่าตัวตายแบบนี้เลยนะ ทิม

Tim : แต่มันเป็นการตัดสินใจของพวกเรานะ บรู๊ซ

Bruce : ไม่ มันไม่ใช่

Bruce : มันจะไม่มีการออกความเห็นใดๆทั้งนั้นสำหรับภารกิจนี้

(อันนี้ตัดพลาดไปหน่อยเลยมีส่วนซ้ำกับข้างบนนะครับ ขออภัย)


Bruce : การที่พวกเธอให้ความช่วยเหลือในการนำเอาเดเมี่ยนกลับมานั้น มันมีค่ากับฉันมากกว่าที่พวกเธอคิด... แต่ฉันไม่มีวัน... และจะไม่มีทาง ที่จะให้พวกเธอไปเสี่ยงด้วย

Bruce : ค่ำคืนนี้ มันคือการบอกว่าฉันห่วงใยและคาดหวังในตัวพวกเธอมากแค่ไหน

Tim : ให้พวกเราได้ช่วยเถอะ

Barbara : พวกเราต้องการจะไปกับคุณนะ บรู๊ซ

Bruce : ไม่ สิ่งที่พวกเธอต้องทำ ก็คือการทำให้ผู้คนในก็อธแธมปลอดภัย


Bruce : ไม่ว่าฉันจะกลับมาได้หรือไม่ อนาคตของเมืองนี้ก็อยู่ในมือของพวกเธอ

Bruce : เพราะนอกจาก จิม กอร์ดอน แล้ว พวกเธอคือกลุ่มคนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด และฉันก็ดีใจนะ ที่พวกเรามีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกันแบบนี้

Jason : แค่นั้นน่ะนะ?

Bruce : ทั้งหมดนี่คือเรื่องจริง เจสัน

Bruce : และถึงเธอจะไม่ได้ยินจากปากของฉัน พวกเธอก็จะได้ยินจากอัลเฟรด ดังนั้นออกไปกันได้แล้ว ตอนนี้ ก็อธแธม ต้องการพวกเธอ

เมื่อยืนยันในความมุ่งมั่น และความคาดหวังของ Bruce แล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจออกไปทำในสิ่งที่ Bruce ได้ฝากฝังไว้ ปกป้องเมืองนี้จนกว่าเขาจะกลับมา


แต่ที่จริงแล้ว ที่ Bruce รีบให้พวกเขาออกไป นั่นเพราะมีอีกคนที่รอเจอกับเขาอยู่

Bruce : ได้ยินเสียงท้องร้อง อยากกินแซนด์วิชหรือไง?

Dick : แน่นอน

และเขาก็คือ Dick Grayson ที่ปัจจุบัน กลายเป็นสายลับในองกร Spyral ให้กับ Batman

Dick : เพราะอาหารของ สไปรัล มันห่วยแตกเป็นบ้า

Dick : ผมคิดว่ามันคงจะไม่มีอะไรหยุดคุณจากเรื่องนี้ได้แล้วสิท่า

Bruce : ก็ตามนั้น

Dick : คุณแน่ใจนะ ที่จะไปจริงๆ?

Bruce : มันไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นไปแล้ว แต่จากสิ่งที่ฉันได้รับรู้มา มันทำให้ฉันรู้สึกอยากจะไปที่นั่น เพื่อพยายามและเปลี่ยนแปลงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

Bruce : ในฐานะพ่อของเดเมี่ยน อย่างน้อยๆฉันก็ต้องทำพยายามทำแบบนั้น

**มีที่ Thai spoil Comics ลงสปอยเล่ม #1 ไว้ครับ อ่านได้ ที่นี่


Dick : คุณก็รู้ว่า เดเมี่ยน นั่นมีความหมายกับผมแค่ไหนนะ บรู๊ซ...

Dick : แค่คุณพูดออกมาเท่านั้น แล้วผมจะไปร่วมหัวจมท้ายกับคุณที่อโพโคลิปส์จนถึงที่สุด

Bruce : ฉันรู้เรื่องนั้นดี ดิก แต่ฉันอยากให้เธอสัญญากับฉัน

Dick : หมายถึงชุดนี้ล่ะสิ

Bruce : เธอทำได้ดีแล้วในคราวก่อน

Dick : และถ้าคุณอยากจะให้ผมสวมมันอีกครั้ง ผมก็ยินดี ก็อธแธม จะมี แบทแมน เสมอ ผมสัญญา บรู๊ซ


Bruce : แต่ฉันยังต้องการความช่วยเหลืออีกสักหน่อย

Dick : ว่ามาเลย

Bruce : ฉันต้องการให้เธอใช้งาน สไปรัล สร้างสิ่งหลอกล่อที่ไม่สามารถสะกดรอยกลับไปได้ขึ้นมาซักจำนวนนึง

Dick : แบบไหนล่ะ?

Bruce : แบบที่จะดึงดูดความสนใจของคน 4 คน ในจุดที่แตกต่างกัน 4 จุดบนโลก


และคนที่เขาว่าก็คือสมาชิก Justice League – Aquaman, Wonder Woman, Cyborg และ Shazam นั่นเอง

Aquaman : นี่มันเป็นกลลวง

Wonder Woman : ไม่มีเหตุร้ายอะไรทั้งนั้น นี่เป็นภาพโฮโลแกรม

Cyborg : และมันก็เป็นแบบที่สร้างมิติกับน้ำหนักของภาพสามมิติได้ออกมาเสมือนจริง จนแทบจะไม่มีส่วนผิดพลาดเลยด้วย

Shazam : ท่าทางจะมีคนที่ต้องการดึงดูดความสนใจของพวกเรานะ

Luthor : แล้วเขาก็ทำได้เสียด้วย


และนอกจากนั้นพวกเขายังพบว่าเครื่องเคลื่อนย้ายไม่ทำงาน ทั้งๆที่ Luthor ได้ซ่อมมันไปแล้ว และนั่นก็ทำให้ Luthor นึกขึ้นได้ จนรีบวิ่งออกไปทันที ในขณะที่ Wonder Woman กับ Shazam กำลังบินกลับไป แต่เมื่อ Luthor มาถึง เกราะ Hellbat ก็หายไปแล้ว

Luthor : ดูถูกกันหรือไง เวนย์ นายหลอกล่อทุกๆคนออกไป นอกจาก ฉัน กับ กัปตันโคล


และที่ด้านหลัง Batman ได้ในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว Hellbat ถูกสวมใส่เรียบร้อย

Batman : อย่าพยายามจะขวางฉัน ลูธอร์

Luthor : หยุดนาย ฉันเพิ่งตัดสินใจจะช่วยเหลือนาย

Batman : ไม่หรอก แกพยายามจะยื้อไว้จนกว่าคนอื่นๆจะมาถึง


Luthor : ฉันอ่านไฟล์ข้อมูลเรื่อง ดาร์กไซด์ และอโพโคลิปส์แล้ว... ขอบอกตรงๆเลยนะ ว่านายมันบ้าไปแล้วที่คิดจะทำแบบนี้ เวนย์

Luthor : แต่ถ้านายคิดจะทำจริงๆ อย่างน้อยๆก็ทำให้มันถูกที่ถูกทางหน่อย

Batman : ฉันจะเชื่อแกได้ยังไง?

Luthor : เพราะ นายกับฉัน พวกเราเป็นคนกลุ่มเดียวกันไงล่ะ เป็นแค่ผู้ชายธรรมดา 2 คนที่ร่ำรวยอย่างน่าเหลือเชื่อ และสวมชุดเล่นบทบาทฮีโร่จนถึงท้ายที่สุด

Batman : ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องเล่นๆนะ ลูธอร์

Luthor : งั้นนั่นมันก็เป็นปัญหาของนาย

Batman : นี่แกกำลังทำอะไร?

Luthor : เพิ่มความทนทานและการเชื่อมต่อกระแสจิตในชุดนี้

Luthor : และอีกอย่าง ไซบอร์ก ติดตั้งเครื่องติดตามนี่ไว้ หลังจากเกิดเรื่องเมื่อวานนี้


ที่ด้านนอก Wonder Woman กับ Shazam กำลังมุ่งหน้ามาใกล้จะถึงแล้ว

Luthor : ฉันคิดว่านายเองก็คงจะกังวลถึงความอันตรายของการสวมชุดนี้อยู่เหมือนกันสิท่า?

Batman : แน่นอน

Batman : แต่มันยังมีสิ่งที่ฉันต้องไปทำอยู่


Luthor : เหนือสิ่งอื่นใด ตัวสับเปลี่ยนประจุพลังงานนั่น มันเผาผลาญเอาจากร่างกายของนายเอง... ดังนั้นถ้านายไม่ระวัง มันอาจจะสูบพลังของนายไปจนร่างกายเหือดแห้งได้นะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน

Batman : ขอบใจที่เตือน แต่ฉันก็กำลังเผาไหม้อยู่แล้วตอนนี้ เหลืออีกแค่ประมาณ 3 นาที ก่อนที่เพื่อนของพวกเราจะมาถึง

Luthor : เดเมี่ยนเป็นลูกของนายใช่มั้ย?

Batman : ใช่

Luthor : ฉันเสียใจด้วยที่เขาถูกต้องตายทั้งๆที่ยังเป็นเด็กแท้ๆ

Batman : เดเมี่ยน ยังไม่ตาย ลูธอร์ และเขายังไม่จากไปไหน เขาแค่ถูกฆ่า... ให้หายไปจากชีวิตของฉัน

Luthor : แล้วตอนนี้นายก็เลยจะลงนรกไปกระตุกหนวดซาตาน

Batman : ถ้าเป็นแกจะทำยังไงล่ะ ถ้ามันมีทางทำให้คนที่แกรักฟื้นกลับมาได้ ลูธอร์

Luthor : ก็คงจะทำทุกหนทางที่เป็นได้ไงล่ะ เวนย์

Batman : นั่นแหละ คือสิ่งที่ฉันทำ

และ Batman ก็เปิด Mother Box ด้วยอุปกรณ์ที่เขาสร้างขึ้นมา


ประตูถูกเปิดออก และ Batman ก็จากไป ก่อนที่ Wonder Woman กับ Shazam จะมาถึง

Luthor : เขาไปแล้ว

Wonder Woman : ชุดก็ด้วย

Shazam : เห็นมะ วันเดอร์ วูเมิน ว่าผมมาถึงก่อนคุณได้

(ก่อนหน้านี้ตอนที่กำลังบินกันมา Shazam ท้า Wonder Woman ว่าเขาบินเร็วกว่าเธอ) ช่างไม่ดูบรรยากาศเสียจริงๆ


Apokolips 

ค้างคาวยักษ์ได้มาเหยียบย่างขุมนรกแห่งนี้แล้ว เพียงเพื่อเป้าหมายเดียว นำเอาชีวิตของลูกชายอันเป็นที่รักกลับคืนมา!


เล่มหน้า 

Future End พบกับ Batman & Heretic?

คุยกันท้ายเล่ม

เล่มนี้ผมชอบมากๆเลย ตั้งแต่เรื่องราวความสัมพันธุ์ของ Bat-Family ที่กลับมาสามัคคีกันอีกครั้ง, ความสัมพันธุ์ของ Bruce - Dick และ Damian ที่อธิบายออกมาได้ในคำพูดเดียว แต่ตอนท้ายนี่ไม่รู้จริงๆว่า Luthor เปลี่ยนใจมาช่วยเพราะอะไร แต่ก็ได้เห็นว่า Batman นั้นไม่จำเป็นต้องใช้กำลังโค่นทั้งลีกส์ เขาแค่ใช้แผนบางอย่างหลอกล่อลีกส์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายก็พอแล้ว

ตอนก่อนหน้าที่เกี่ยวข้อง

Batman & Robin #33

6 comments:

  1. ขอบคุณครับ ตื่นเต้นสุดๆ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณครับ มันม๊วกๆเบย ^_^

    ReplyDelete
  3. พอฟังคุณสมบัติเกราะที่ว่ายิ่งใช้ยิ่งดึงพลังชีวิต กับดูดีไซน์ ผมนึกถึงเกราะของกัซ ใน Berserk ขึ้นมาเลยซะงั้น

    รอลุ้นเล่มหน้าพี่แบทจะโชว์เทพขนาดไหน

    ReplyDelete
  4. เพราะแบบนี้แหละผมถึงชอบแบทแมนมากที่สุดในบรรดาอีโร่ของค่ายDC

    ReplyDelete
  5. ขอบคุณครับ รอตอนต่อไปอยู่นะครับ

    ReplyDelete
  6. รักครอบครัวนี้ที่สุดเลย >3< พอบทจะอภัยให้กันนี่ก็ให้กันได้เลย (การขอโทษที่จริงใจ ถ้าไม่ให้อภัยก็บ้าแล้ว)
    หวังว่าหลังกลับมา คงไม่ได้มาแตกหักอะไรกับซุปนะ (เหมือนอ่านใน Future End พี่ซุปงอนเฮียแบทอ่ะ - -;)

    ReplyDelete