Wednesday, August 27, 2014

Comics News #13 : 3' - 4' August 2014

1. GotG #21 in "Planet Venom"
2. Preview DEADPOOL VS. X-FORCE #3
3. Preview Batman & Robin #34
4. Preview Magneto #8
5. Preview GUARDIANS OF THE GALAXY #18
6. Preview Sinestro #5
7. Preview Avengers #34
8. Preview All-New X-Men #31

All-New X-Men #31


ที่โลกฝั่ง Ultimates

Tony กำลังพูดคุยอยู่กับ Amadeus Cho เด็กอัจฉริยะผู้ดูแลเคสเรื่องประตูมิติ โดย Cho ได้บอกเขาว่ามีคนที่ต้องการจะให้เขาปิดมัน ซึ่งตัวนั้นไม่อยากจะทำแบบนั้น แต่ Tony ก็บอกว่าหลังจากที่มีเจ้าตัวใหญ่สีม่วงพยายามออกมากินโลกของพวกเขา ใครๆก็ไม่อยากจะยุ่งกับเรื่องนี้ทั้งนั้น แต่ Cho ก็คิดว่ามันเป็นการพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ถึงการมีอยู่ของจักรวาลมิลติเวิร์ส เขาจึงอยากจะค้นคว้ามันต่อ ได้ยินดังนี้ Tony เลยบอกว่างั้นเข้าจะซื้อมันมาดูแลเอง


และนั่นเพราะตอนนี้ Shield ไม่อยู่แล้ว มันจึงไม่มีใครเป็นผู้ดูแลโครงการนี้อีก Tony จึงคิดจะทุ่มเงินซื้อมันมา และให้ Cho ทำการดูแลต่อไป และนั่นทำเอา Cho อึ้งจนไปต่อไม่ถูก แต่แล้วระบบพลังงานกลับขัดข้องจนส่งผลต่อประตูมิติ


จากนั้นประตูมิติก็ปิดตัวลง และคอมพิวเตอร์ทั้งหมดก็พังไปพร้อมๆกับรายงานที่ Cho ได้ทำไว้ จนทำให้เขาเสียใจเป็นอย่างมาก ส่วน Tony ก็คิดว่ามันอาจจะมีคนจากอีกฝั่งเป็นคนปิดมัน... หรือไม่งั้นก็อาจจะเกิดเรื่องร้ายบางอย่างขึ้น


เล่มนี้น่าจะเป็นบทนำก่อนที่พวก All-New X-Men จะเดินทางข้ามไปยังโลกจักรวาล Ultimates โดยไม่มี Kitty (เนื่องจากเธอไปยุ่งกับพวก Cyclops ที่ฟังพินัยกรรมของ Xavier)

Avengers #34


Cap ได้พบกับชายปริศนาในชุดเกราะ ที่ช่วยเหลือเขาไว้ ให้มาต่อยังช่วงเวลาแห่งนิรันกาล เขาได้บอกว่าตนเองเป็นผู้ที่นำทั้งข่าวดีและข่าวร้ายมาบอก Cap ข่าวดีคือ กาลเดินทางของ Cap ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ข่าวร้ายก็คือเรื่องราวมันซับซ้อนกว่าที่เขาคิด ทาง Cap ก็คิดว่าชายสวมเกราะผู้นี้คือ Tony แต่เขาไม่ใช่


เขาคือ Iron Lad ซึ่งได้ถอดหมวกออก และบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาให้ Cap รับรู้ ว่าเขาคือ Kang… หรือ Kang ในวัยหนุ่ม ก่อนที่จะกลายเป็นวายร้ายผู้ที่เดินทางข้ามกาลเวลาและมิติต่างๆไปเพื่อพิชิตแต่ละโลก ในฐานะ Kang The Conqueror
(*Iron Lad เป็นผู้ที่ก่อตั้ง Young Avengers ขึ้นมา)


และนั่นทำให้ Cap จำเขาได้ และถามถึงเหตุผลที่ตนมาอยู่ที่นี่ Iron Lad จึงบอกว่ามันเริ่มจากวินาทีที่ Cap ได้ทำลาย Time Gems ไป มันทำให้กาลเวลาวุ่นวายไปหมด และตอนนี้พวกเขามาอยู่ที่อนาคต...จุดสิ้นสุดของกาลเวลา


และแล้วก็มาถึงบทสรุปของการเดินทางข้ามเวลาของ Cap เราจะได้รู้กันเสียทีว่าสิ่งที่ Cap ได้พบเจอนั้นมามีเกี่ยวข้องกันอย่างไร... หรือไม่เกี่ยวกันเลย...

Sinestro #5


ในขณะที่ Sinestro กำลังมุ่งหน้าไปช่วยคนของเขา Hal Jordan ได้ปรากฎตัวออกมา แต่ Sinestro กลับไม่คิดว่า Hal ตัวจริงจะมาอยู่ต่อหน้าของเขาตอนนี้ มันเป็นแค่ภาพหลอนที่เขาสร้างขึ้นมา Sinestro จึงพุ่งตัวเข้าไปทันที


เลยโดน Hal อัดเข้าให้ 1 หมัด ซึ่งมันทำให้ Sinestro ตื่นในทันทีว่า Hal ตรงนั้นคือตัวจริง


Hal โผล่มาโดยไม่รู้ว่า Sinestro กำลังทำอะไรอยู่ แต่ที่เขารู้คือ Sinestro พยายามทำตัวแบบเดิมอีกแล้ว ซึ่งจากครั้งล่าสุด มันพิสูจน์ออกมาแล้ว ว่าการทำแบบนั้นไม่ได้ส่งผลดีต่อใครเลย Sinestro จึงบอกกลับไปว่ามันไม่ใช่เรื่องของเขา แต่ Hal คิดว่าการที่ Yellow Lantern ออกมาเดินขบวนกันอีกแบบมันทำให้เขาต้องกังวลอยู่แล้ว


และเมื่อหันหลังไป สมาชิก Sinestro Corps คนอื่นๆก็ได้เข้าโจมตี Hal ในทันที ซึ่ง Sinestro ก็ทำแค่ดูอยู่เฉยๆ จน Soranix ลูกสาวของเขาต้องเข้ามาเตือน ว่าเธอเองก็เป็น Green Lantern มันต้องมีทางออกอื่นที่ดีกว่ามาตีกันเองแบบนี้ อย่างน้อยๆเขาก็ควรจะเจรจากันก่อน


ดูจากพรีวิวแล้วยังไม่เห็นล่องลอยของ Parallax เลย ไม่รู้งานนี้ปกจะหลอกอีกมั้ย หรือถ้าจะมาก็อาจจะมาตอนท้ายๆก็เป็นได้

Credit : Uproxx

GUARDIANS OF THE GALAXY #18


Gamora : อันดับแรกเลย ฉันมีบางอย่างที่ต้องพูดถึง นั่นคือ ฉันเปลี่ยนไปแล้ว

Gamora : และฉันก็ภูมิใจกับความจริงข้อนี้มาก จากเรื่องเลวร้ายต่างๆที่พวกเราผ่านมา มันคงจะบ้าเกินไปถ้าหากพวกเราคิดว่ามันไม่ได้เปลี่ยนแปลงพวกเราไปเลย

Gamora : พวกเราเดินทางจากจุดสิ้นสุดของจักรวาลหนึ่ง ไปยังอีกจักรวาลหนึ่ง และฝากชีวิตไว้ในมือของอีกสมาชิกแต่ละคน

Gamora : และนั่นทำให้ฉันเชื่อว่าพวกเราเป็นกลุ่มคนที่นับถือในจิตวิญญาณ ไม่ใช่ยึดติกับลัทธิต่างๆ เพราะพ่อของฉันได้แสดงให้ฉันเห็นถึงความไร้สาระของมัน

Gamora : ฉันเติบโตขึ้นมาพร้อมๆกับมองดูเขาที่บูชาเดธ การยึดติดกับอะไรบางอย่างมันไร้สาระสิ้นดี

Gamora : แต่จริงๆแล้วพวกเราเองก็เกือบไปแล้วเช่นกัน ฉันกับนายเคยพบกับสิ่งมีชีวิตระดับสุดยอดมาแล้ว สิ่งมีชีวิตที่แสดงให้เราเห็นว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นอะไรก็ได้ เว้นแต่... สิ่งที่ฉันบอกนายไปแล้ว... สิ่งที่มีจิตวิญญาณ

Gamora : และเพราะสิ่งนี้ มันจึงทำให้ฉันคิดว่าสิ่งต่างๆมันมีความหมายมากกว่าที่ฉันเคยคิด ฉันคิดว่าจักรวาลและทางช้างเผือกเชื่อมต่อกันในรูปแบบที่พวกเราไม่มีวันเข้าใจ... แต่สิ่งที่ฉันรู้ก็คือ พวกมันทำให้ฉันรู้สึกสงบ มันยกฉันขึ้นไปอีกระดับ

Gamora : ฉันพอใจแล้วกับการที่ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวทั้งหมดของจักรวาลนี้ เพราะฉันรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันสมควรจะรู้

Gamora : แต่มันมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ฉันต้องการจะรู้ คำถามเดียวที่ทำให้ฉันคิดว่าจะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากคำตอบของมันไม่ได้อีกต่อไป...


Peter : กาโมร่า นี่มันไม่ดีเลยนะ!

Gamora : ปีเตอร์ ควิลล์ ตอนนี้มีแค่พวกเราสองคนเท่านั้น ไม่มีใครอื่นที่รู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่

Peter : ฉันก็ยังไม่รู้ว่าเลยที่นี่มันที่ไหน

Gamora : เอาล่ะทีนี้ ตอบคำถามของฉันมา...

Gamora : และนายต้องตอบมาตามจริง ฉันจะรู้ได้เมื่อนายโกหก

Gamora : นายจะต้องบอกความจริงกับฉันมา เพราะนายติดฉันเรื่องนี้ นายรู้ดีว่าการโกหกของนายหนนี้มันทำให้ฉันโมโหมาก

Gamora : นายทำสัญญาอะไรกับ ธานอส พ่อของฉัน ถึงทำให้นายยังมีชีวิตอยู่ได้?

Gamora : แล้ว โนว่า อยู่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้นกับ ริชาร์ด ไรเดอร์?


Gamora : นายรอดมาจาก แคนเซอร์เวิร์ส ได้ยังไง?

Gamora : นายรอดมาจากภารกิจที่เหมือนการฆ่าตัวตาย เพื่อทำลายจักรวาลที่เป็นดั่งฝันร้ายนั่นมาได้ยังไง?

สิ่งที่ Gamora พูดถึง ก็คือศึกสุดท้ายเมื่อหลายปีก่อนของ Star Lord กับ Nova ที่เผชิญหน้ากับ Thanos


ผมคาดว่า Gamora รู้เรื่องนี้มาจากอีเวนต์ Original Sin ...มั้ง เพราะไม่งั้นก็ไม่รู้ว่า Gamora นึกยังไงถึงบรรลุธรรมมาถาม Star Lord แบบนี้

แต่เอาจริงๆจากวีรกรรมของ Bendis ใน Uncanny X-Men มันทำให้ผมหวาดกลัว... ว่าไอ้ความลับที่จะพูดเนี่ย มันจะค่อยๆออกมาทีละนิด จนไปโผล่เล่มหลังๆแทน = ="

GoTG #18 Variant Cover by Alex Ross

Magneto #8


Magneto ค่อยมุ่งหน้าไปยังจุดหมาย และหวนนึกตัวเขาครั้งในอดีต และเขาก็คิดว่าเมืองนี้มันก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิต ที่มีช่วงเวลาอันสุกสกาว


แต่ไม่ว่ามันจะสุกสกาวแค่ไหน มันก็มีช่วงเวลาที่มันจะล้มลง และทุกๆอย่างที่อยู่โดยรอบก็จะล้มลงไปกับมันด้วย และจากการล้มลงในครั้งนั้น ชื่อเสียงที่เคยสร้างมาก็จะพินาศไปกับมัน


และเมื่อเมืองได้ตายไป มันก็จะเหลือเพียงแค่พวกที่กินของเน่าเสียมาแทะกระดูกที่หลงเหลืออยู่ ในระหว่างที่คิด Magneto ก็มาถึงที่หมาย มันเป็นโรงงานแห่งหนึ่ง ที่คนด้านในกำลังทดลองของที่รับมาอยู่ ก่อนที่หนึ่งในสมาชิกพวกนั้นจะรีบวิ่งหน้าตาตื่นขึ้นเข้ามาแจ้งหัวหน้าของพวกมัน


และนั่นเป็นเพราะ Magneto มาถึงที่นี่แล้ว แต่พวกมันก็เตรียมการไว้แล้ว Mutant Growth Hormone ถูกฉีดลงไป และพวกมันก็ได้พลังของมิวแทนส์มาไว้ในมือ แต่ Magneto ก็ไม่ได้หวาดกลัวพวกมันเลยแม้แต่น้อย



Batman & Robin #34


Bruce ได้เรียกพวก Red Robin มาพบในถ้ำค้างคาว

Bruce : ครั้งล่าสุดที่พวกเราได้พบกันในถ้ำนี้ก็คือตอนที่ โจ๊กเกอร์ ต้องการให้พวกเรามาเจอกัน แต่คืนนี้มันเป็นความต้องการของฉันเอง

Bruce : คืนนี้มันมีเหตุผลที่ฉันต้องการพวกเธอ

Jason : ก็หวังว่าเหตุผลที่ว่านั่น จะไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผมต้องมานั่งมองหน้าโชกเลือดของตัวเองในจานข้าวหรอกนะ

Barbara : หรือรอให้ถูกเผาทั้งเป็นด้วย


Alfred : นี่พวกคุณต้องการให้ผมย้ำหรือไม่ครับ ว่าบนจานนั่นมันไม่ใช่ใบหน้าของพวกคุณ และคุณหนูบรู๊ซก็เป็นคนที่ช่วยพวกเราไว้

Bruce : อัลเฟรด คุณไม่ต้องช่วยพูดหรอก เพราะพวกเขามีสิทธิที่จะยังโกรธอยู่แบบนี้

Bruce : เพราะตัวตนลับของพวกเรา คือสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเราใช้ชีวิตตามปกติได้ และพวกเราก็เกือบจะแตกแยกกันเพราะ เจ้าตัวตลกนั่น เนื่องจากฉันปกปิดความลับจากพวกเธอ...

Bruce : ...มันคือบางสิ่งที่ฉันควรจะบอกพวกเธอตั้งแต่แรก ตอนที่ฉันเจอการ์ดของโจ๊กเกอร์ในถ้ำนี้

Bruce : แต่ตอนนี้ฉันอยากให้พวกเราเริ่มกันใหม่

Bruce : พวกเราแตกแยกกันมาพอแล้ว

Bruce : จากนี้ไป ไม่ว่าจะดี... หรือร้าย... ความจริงจะกำหนดทุกอย่าง


Barbara : จนกระทั่งมันไม่เป็นแบบนั้น... จนกระทั่งสถานการณ์บางอย่างปรากฎขึ้นมา แล้วคุณก็เริ่มทำตัวมืดมนใส่พวกเรามากกว่าเดิม

Tim : อ่าฮะ เหมือนกับที่คุณคิดจะผ่าตัด แฟรงเกนไสตล์

Jason : หรือพาผมไปที่ หุบเขาแม็กกาด้าร์ เพื่อระลึกถึงวันดีๆของเศษซากที่หลงเหลืออยู่ของการระเบิดกับชะแลงนั่น

Bruce : ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้นอีก

Bruce : พวกเราจะพูดจากใจจริง ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม

Bruce : พวกเราจะเข็มแข็งหลังจาก...

Barbara : ความเชื่อใจที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งนั้น

Jason : ความเชื่อใจกันอย่างแท้จริง ไม่มีการเล่นแง่ ตั้งแต่นี้และตลอดไป บรู๊ซ พวกเราขอแค่นี้แหละ


Bruce : แน่นอน พวกเธอได้รับคำสัญญาจากฉัน แต่นี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องที่ว่าฉันยังคงจะกวดขันพวกเธอทุกคนอย่างหนักในเวลาที่พวกเราทำงานร่วมกัน

Jason : ยังหัวโบราณเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆ

Bruce : แต่แน่นอนว่านั่นหมายถึงฉันเองก็ด้วย

Bruce : แล้วตกลง... พวกเราคืนดีกันหรือยัง?

Barbara/ Tim/ Jason : แน่นอน/ ครับ / ตามนั้น

และเมื่อกลับมาคืนดีกันแล้ว พวกเขาก็ถอดหน้ากากทิ้งกันเสียที เป็นการพังกำแพงบางๆที่กั้นพวกเขาอยู่

Bruce : ดี


จากที่อ่านๆดู ไม่แน่ใจละว่าพวก Bat-Family จะช่วยสู้มั้ย แต่ที่แน่ๆ Bruce น่าจะขอให้พวกเขาจัดการปัญหาใน Gotham ตอนที่เขาไม่อยู่แหงๆ เป็นการแสดงถึงปก B & R #34 ได้เป็นอย่างดี

*บทสนทนาบางช่วงมีการสื่อเรื่องราวใน Robin Requiem ด้วย


DEADPOOL VS. X-FORCE #3


Deadpool ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ใหม่ ได้เข้าต่อสู้กับ Cable & X-Force ที่เดินทางมาเพื่อหยุดยั้งเขา และจากการต่อสู้ในเล่มที่แล้ว Deadpool เป็นฝ่ายที่เอาชนะ Cable มาได้

(จากเรื่องราว Deadpool ยังไม่รู้จักกับ Cable)


และจากนั้น Deadpool ก็ลองกดปุ่มบนรีโมตของเขา และมันก็ทำให้ Cable เด้งตัวเองขึ้นมาทันที


ดูเหมือน Deadpool จะสามารถควบคุม Cable ไว้ได้อย่างสมบูรณ์จนสั่งให้เขาทำอะไรก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการ แล้ว Cable จะสามารถเอาคืน Deadpool ได้อย่างไร?



GotG #21 in "Planet Venom"


พฤศจิกายนนี้ Marvel จะพาพวกเราไปพบกับบทใหม่ของ "Guardians of The Galaxy" ไปยังอีกส่วนของจักรวาลที่เราไม่เคยพบเห็น ดวงดาวของเหล่า Symbiote ซึ่งจะเป็นบทยาว 3 เล่มจบ ในชื่อว่า "Planet of Symbiotes"

โดย Bendis ผู้เขียนเรื่องได้บอกว่า "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอีเวนต์ลักษณะนี้ในภาคหนัง (เพราะลิขสิทธิ์ของมันอยู่กับ Sony) แต่ผมก็ชอบที่จะได้เขียนมันคอมมิค" โดยหนนี้เหล่า Guardians จะมาอยู่ในดาวที่เต็มไปด้วยเอเลี่ยนอันแสนจะดุร้าย และ Bendis ก็ไม่อธิบายว่าทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่ได้ และมาทำไม ซึ่งเขาอยากจะให้เราค่อยๆอ่านดู

สำหรับไอเดียของอีเวนต์นี้ สำหรับเขาก็คือ มันมีดวงดาวที่ถูกยึดครองโดย Symbiote อยู่ แต่พวกเราไม่เคยเห็นดวงดา่วของพวกมันเลย ซึ่งมันคือสิ่งที่ดูบ้า และไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยบรรณาการ Mark Marts ก็บอกเพิ่มเติมว่า มันจะเป็นโลกที่เต็มไปด้วย Symbiote และพวกเราจะได้พบกับตำนานของพวกมันที่พวกเราไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น แต่สิ่งที่เขาพูดได้ในตอนนี้ก็มีเพียงแค่นี้

และสำหรับแฟนๆของ Flash นี่คือบทที่ Flash จะมีบทบาทสำคัญ และเป็นตัวละครหลักของเรื่องราวอย่างแน่นอน โดยบทนี้นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า "Planet Venom"

เรื่องราวในบทนี้จะเขียนโดย "Brian Michael Bendis" และภาพโดยนักวาดคนใหม่ VALERIO SCHITI (เขาเคยวาดให้เล่มของ Sif งานภาพนี่เยี่ยมเลยทีเดียว) ตัวเล่มจะวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้

*ในอดีตยุค 90's เคยมีเรื่องราวที่มีชื่อบททำนองนี้มาแล้ว โดนตอนนั้นใช้ชื่อว่า "Planet of Symbiotes" เหมือนกันเป็นมินิซีรี่ส์ 5 เล่มจบ ซึ่งเป็นเรื่องราวของ Symbiotes จำนวนมากที่บุกมาโจมตีโลก และดวงดาวที่ถูกยึดครองโดย Symbiotes ซึ่ง Bendis กล่าวถึงก็อยู่ในบทนี้เอง

อ่านเรื่องราวย่อๆได้ที่ : Marvel.Com

ภาพจากอีเวนต์ "Venom Bomb" ของ Might Avengers

Credit : MTV

3 comments:

  1. สงสัยดาววีนอมที่ว่า ซิมไบโอตไปสิงมนุษย์ปลวกล่ะมังนี่ สัญลักษณ์กลางอกพวกนั้นไม่ใช่แมงมุม

    ReplyDelete
  2. เบนดิสเคยเขียนตอน Venom Bomb ใน Mighty Avengers ช่วง arc ที่สองต่อจาก Ultron Initiative ช่วงปี 2008-2009 แล้วด้วยนี่
    เหมือนรูปประกอบที่ลงจะเป็นจาก Venom Bomb ด้วยรึเปล่า

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่เลยครับ ลืมดูก่อน ขอบคุณที่ทักมานะครับ

      Delete