Monday, February 24, 2014

Superior Spider-Man Team-Up #10

Superior Spider-Man Team-Up #10 : Prelude to Goblin Nation! Part 2

เรื่องโดย : Kevin Shinick | ภาพโดย : Marco Checchetto

วางจำหน่าย : 19 กุมภาพันธ์ 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics


Superior Spider-Man, Punisher และ Daredevil ต้องร่วมหัวจมท้ายกันในการต่อสู้กับเหล่า Spider-Patrol

และหลังจากศึกนี้ โลกของ Superior Spider-Man จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ!


"การทรยศหักหลัง"

"มันคือความรู้สึกอันเจ็บปวด ซึ่งไม่เหมือนกับการโดนกลั่นแกล้ง มันเป็นความรู้สึกเฉพาะตัว"

"เหมือนกับตอนที่ฉันอายุได้ 10 ขวบ ตอนที่เพื่อนบ้าน 2 คน มาเป็นเพื่อนกับฉัน เพื่อที่จะเรียกเสียงหัวเราะจากเหล่านักเรียนรอบด้าน"

"มันคือช่วงเวลาก่อนที่ฉันจะกลายเป็น ซูพีเรี่ย สไปเดอร์แมน และ ด็อคเตอร์ อ็อคโตปุส ในช่วงเวลานั้น ฉันเป็นแค่ อ๊อตโต้ อ็อคตาเวียส"

"ในตอนนั้น สิ่งที่ฉันทำได้ คือการถอยกลับไปยังห้องของฉัน อยู่ท่ามกลางกองหนังสือและของรางวัลต่างๆ มันทำให้ฉันรู้สึก ปลอดภัย"

"เหมือนกับที่เมื่อฉันโตขึ้น ความรู้สึกเหล่านั้นก็ผลักดันให้ฉันต้องการพลังอำนาจ! การล้างแค้น! พร้อมปิดผนึกสรวงสวรรค์นั้นลึกลงไปในจิตใจ และไม่คิดถึงมันอีกเป็นเวลาหลายปี"

"แต่ที่ฉันคิดถึงมันอีกครั้งในตอนนี้ นั่นเพราะแม้ฉันจะมีความทรงจำที่ผ่านมาหลายสิบปี ทั้งของฉันและปาร์คเกอร์..."


"สรวงสวรรค์แห่งนั้นก็ยังคงเป็นสถานที่ที่ฉันต้องการจะกลับไปอีกครั้ง"

และปัจจุบัน Superior Spider-Man, Daredevil และ Punisher ก็เข้าปะทะกับเหล่า Spider-Patrol ที่ทรยศเขา

"ฉันเรียกตัวเองว่า ซูพีเรี่ย สไปเดอร์แมน แต่ความเป็นจริงแล้ว ฉันนั้นช่างโง่งม"

"จากการค้นพบว่า คลังอาวุธที่ฉันเก็บไว้ได้ถูกขโมยไป พร้อมมีมือระเบิดฆ่าตัวตายที่พยายามจะระเบิดที่นี่ให้เป็นจุล"

"ฉัน, แดร์เดวิล และ พันนิชเชอร์ สามารถเล่นงานเจ้าคนทรยศนั่นได้ แต่นั่นคือช่วงเวลาก่อนที่หมอนั่นจะทิ้งระเบิดที่ใหญ่กว่าลงมา มันคือความจริงว่า เหล่าลูกน้องทั้งหมดของฉันทำงานให้กับใครบางคน"


"ตอนนี้จิตใจของฉันมันสับสนไปหมดและเต็มไปด้วยคำถาม สิ่งที่เจ้ามือระเบิดพูด ว่าฉันได้ช่วย "เขา" ไปเรียบร้อยแล้ว แต่มันกลับไม่บอกว่าหมอนั่นคือใคร! นั่นทำให้ฉันไม่สามารถที่จะเชื่อใจใครได้เลย"

"โดยเฉพาะคนของฉัน"

"แดร์เดวิลเหรอ? เขายังคงสงสัยฉันอยู่ หลังจากที่ฉันกลายเป็น สไปเดอร์แมน"

"พันนิชเชอร์เหรอ? เขาอยู่ในช่วงที่ตามืดบอดจากระเบิดแสง แต่ว่านั่นอาจจะเป็นสิ่งที่เขาทำลงไปเพื่อลดความเคลือบแคลงใจ"

"งั้นคำตอบน่ะเหรอ?"

"ไม่ต้องเชื่อใจใครทั้งนั้น!"

แต่เพราะมัวแต่คิดมาก เลยทำให้โดนรุมกินโต๊ะเข้าเต็มเปา


ยังดีที่ Daredevil มาช่วยไว้ได้ทัน

Daredevil : ได้ตัวนายแล้ว!

S.Spider-Man : อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!

Daredevil : หยุดเถอะน่า! ฉันรู้ว่านายกำลังเสียขวัญ แต่พวกเราต้อง...

Daredevil : แคสเซิล! ข้างหลังนาย!

Daredevil : ...ทำงานร่วมกัน!

S.Spider-Man : ไม่! ฉันจะไม่ยอมทำงานร่วมกับคนที่ฉันยังไม่มั่นใจ

Daredevil : ไม่มั่นใจ? นี่ฉันเพิ่งจะช่วยบอกพันนิชเชอร์ที่โดนโจมตี แล้วนายกลับไม่เล่นมุข "คนตาบอดช่วยเหลือคนตาบอดด้วยกัน" ซึ่งเป็นสิ่งที่ สไปเดอร์แมน น่าจะ...


Daredevil : ...เล่นเป็นมุขตลก

S.Spider.Man : ระเบิดฟักทอง

บรึ๊ม!

“และถึงแม้ฉันจะเกลียดเรื่องนี้ยังไงก็ตาม ฉันก็ต้องยอมรับว่า หมอนี่พูดถูก สิ่งต่างๆเริ่มจะหันมาเล่นงานฉัน แต่ฉันก็ยังไม่ยอมที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น จนกว่าฉันจะต้องการมันจริงๆ”

ทาง Punisher ที่โดนแรงระเบิดเข้าไป ก็เริ่มคลั่ง จนหยิบปืนกลออกมาสาดไปทั่ว

“ถ้านายเรียกไอ้แบบนี้ว่า “การช่วยเหลือ” ได้ล่ะก็นะ”


S.Spider-Man : เฮ้ย ดูมั่งสิ ว่ายิงมาทางไหน ไอ้บ้านี่!

Daredevil : เขามองไม่เห็นน่ะ สไปเดอร์แมน เขาแค่ตอบรับตามสัญชาติญาณเท่านั้น

S.Spider-Man : งั้นก็ไม่น่าโง่จนทำตัวเองตาบอดแบบนี้

Punisher : นี่มันใช่เวลามาหาเรื่องกันหรือไง สไปเดอร์แมน เพื่อนของแกยังเหลืออีกเยอะเลยนะ

Daredevil : นี่ไม่ใช่ เพื่อนของเขา แคสเซิล พวกนี้คือลูกน้องของเขา

S.Spider-Man : ผิดแล้ว ไม่ใช่ทั้งคู่นั่นแหละ ถ้าสิ่งที่ฉันสงสัยถูกต้อง พวกนี้ก็แค่คนที่ปลอมตัวเป็นหน่วยลาดตระเวนของฉัน ส่วนหน่วยของฉันจริงๆนั้นยังอยู่ที่ด้านบน

Daredevil : ถ้างั้นก็เรียกพวกนั้นลงมาช่วยสิ


Daredevil : เพราะตอนนี้ พวกเราดูจะรับมือกันไม่ไหวแล้วนะ

และเบื้องหน้าของพวกเขา ก็คือหุ่นแมงมุมยักษ์

Daredevil : แคสเซิล หมอบลง!

บรึ้มมมมมมมม!


Spider-Patrol : การล่อแกลงมาที่นี่ คืองานของเรา ส่วนการฆ่าแกคือของขวัญพิเศษ

แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น

Daredevil : สไปเดอร์แมน ถอยไป!

S.Spider-Man : ไม่!

S.Spider-Man : ฉันบอกแล้วไง ว่าถ้าฉันต้องการความช่วยเหลือ ฉันจะขอเอง

S.Spider-Man ที่ยังมีอีโก้ จึงรับกระบอกบอง Daredevil มาฟาดปากของ Spider-Patrol ตัวปลอมในทันที

Daredevil : งั้นนายก็เรียกพวกข้างบนลงมาซิ ถ้านายไม่เชื่อใจพวกเรา


S.Spider-Man : ฉันกำลังพยายาม แต่คลื่นความถี่ต่างๆถูกป้องกันไว้

S.Spider-Man : แถมรหัสที่ประตูยังถูกเปลี่ยนใหม่ พวกเราต้องช่วยตัวเองแล้ว!

Punisher : เยี่ยม! งั้นก็มาฝึกการเชื่อใจกันหน่อยเป็นไง?

Punisher : อย่างเช่นให้ฉันเอามีดไปไถคอของแกแล้วลอง... เดี๋ยวเสียงนั่น


Punisher : มันคือเครื่องร่อนของฉัน

S.Spider-Man : อะไรนะ? เป็นไปไม่ได้ ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่เคยเอาเครื่องร่อนของแกมา

Punisher : เออ แกไม่เคยทำ แล้วทีนี้จะมาคุยกันเรื่องการเชื่อใจอีกมั้ย?

S.Spider-Man : เฮ้ย พันนิชเชอร์ ไอ้บ้า! แกเล็งปืนมาทางฉันนะ!

Punisher : อันนี้ฉันรู้ว่ะ


Punisher : เพราะสายตาของฉันดีขึ้นแล้ว

“ยังดีที่ฉันแฉลบออกไปทัน”

ว่าแล้วก็กระหน่ำยิงทันที

Punisher : และฉันต้องการใช้การเป็นตัวบังตำแหน่งที่ฉันยิง

Punisher : และเจ้าเครื่องร่อนนี่

Punisher : ระบบการทำงานเหมือนกันเปี๊ยบ

S.Spider-Man : แกแน่ใจได้ยังไงว่าเจ้าเครื่องนั่นเป็นของแกจริงๆ


Punisher : ง่ายๆ เจ้าเครื่องนี่มันติดตั้งมิตไซต์โดรนของรัฐบาลไว้

Punsiher : อีกอย่างที่ดูโคตรง่าย เพราะมันมีสัญลักษณ์กะโหลกติดอยู่ไงเล่า!

และมิตไซต์ 2 ลูก ก็ถล่มหุ่นแมงมุมยักษ์ในทันที

S.Spider-Man : ไอ้ บัดซบ นั่นมันอาวุธราคาแพงเลยนะ!

Daredevil : ใช่ แต่ชีวิตของพวกเรามีค่ามากกว่านั้น หรือในความเป็นจริงก็คือ ทุกๆอย่างในนี้มันทำให้ชีวิตของเราตกอยู่ในอันตราย

Daredevil : บอกฉันที ว่านายติดตั้งระบบระเบิดตัวเองไว้สำหรับที่นี่

S.Spider-Man : ฝันไปเหอะ ตรูไม่มี


Daredevil : เอ็งโกหก

S.Spider-Man : เออ ตรูโกหก ไอ้ตัวแดง, ที่นี่น่ะเป็นสถานที่ที่ฉันเก็บตัวอย่างทดลองต่างๆไว้ ฉันคงจะโง่มากถ้าไม่ปกป้องพวกมัน

S.Spider-Man : และยังดี ที่ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ ทำให้นายสามารถปล่อยน้ำหลายตันเข้ามาท่วมใส่มันได้ ถ้าฉันไม่อยู่ปกป้องมัน!

Daredevil : งั้นก็เอาเลย!

S.Spider-Man : โชคร้ายว่ะ ที่ฉันยังอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องมัน!


Daredevil : แต่นายเสียมันไปแล้ว

Daredevil : ฉันจะต้านพวกนี้ไว้ เพื่อซื้อเวลาให้นาย ไปเปิดประตูน้ำ

S.Spide-Man : แต่มันก็ไม่มีอะไรจะการันตีได้ว่า ฉันจะทำได้แน่นอนนะ!

Daredvil : ก็ภาวนาให้มันทำได้แล้วกัน


S.Spider-Man : ระยำเอ๊ย รหัสตรงนี้ก็โดนเปลี่ยนไปด้วย ต้องลงมือด้วยตัวเองเท่านั้น

Daredevil : งั้นก็ลุยเลย


S.Spider-Man : แต่เวลาที่ฉันใช้ในกับพวกอุปกรณ์พวกนั้นมันนานมากเลยนะ

(เริ่มออดอ้อน)

Daredevil : หยุดพล่ามแล้วลงมือ!


S.Spider-Man : รูปแบบพลังงานที่ฉันใช้ขับเคลื่อนพวกนั้นเองก็หาที่เปรียบไม่ได้

(ยังอีก!)

Daredevil : ข่างมัน ลงมือ!

(ฝั่งนี้เจ็บหนักแล้ว!)

S.Spider-Man : ได้ หวังว่ามันจะทำให้แกมีความสุขขขขขขขขขขขข

และก็โยกซักที


และหลังจากสับสวิตซ์ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ “2012 วันสิ้นโลก!”


และแม้แต่ S.Spider-Man ก็ยังต้องทนต่อกระแสน้ำที่ถล่มเข้ามาอย่างรุนแรง

“พวกเขาเคยพูดกันว่า “ความภาคภูมิใจจะสูญสลายไปก่อนที่พวกเจ้าจะพ่ายแพ้””

“ไม่ว่าใครก็ตาม ที่บรรเลงการต่อสู้ครั้งนี้ ก็รู้จักที่จะใช้อีโก้ของฉันมาเล่นจากฉันเอง ปล่อยฉันไม่เหลืออะไรอีกเลย”

“ความมั่นใจของฉันน่ะเหรอ? มันเริ่มหดหายไปหมดแล้ว!”

“ช่วงเวลา 10 ว่าเดือนที่มุ่งมั่นสร้างอุปกรณ์ใหม่ๆ ตอนนี้พวกมันหายไปกับตา!”

“และลมหายใจในปอดของฉัน...ก็กำลังจะหมดไป”

แต่มืออีกข้างหนึ่งก็คว้าเขาไว้ได้


และเป็น Punisher กับ Daredevil ที่ช่วยเขาไว้

Daredevil : นี่พวกเราจัดการพวกนั้นได้หมดหรือยังเนี่ย?

“และในขณะที่วันนี้ควรจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าจะนำความภาคภูมิใจกลับมาได้อย่างไร”

Punisher : เวร มันยังมีพวกนั้นเหลืออยู่อีก

“...เมล็ดพันธ์แห่งความเคลือบแคลงก็เกิดขึ้นในการวางแผนรักษาการรักษาความปลอดภัยของฉัน”

“เจ้ามือระเบิดบอกว่า ฉันไม่รู้หรอกว่าเรื่องนี้มันลงลึกไปแค่ไหนแล้ว และนั่นทำให้ฉันคิดได้เพียงแค่ว่า...”

“ก่อนหน้านี้เจ้าพันนิชเชอร์ คิดที่จะยิงฉันทิ้งจริงหรือไม่?”

พี่แกเลยสอยซะ

Punisher : เอาล่ะ ทีนี้ชัวละ ว่าเราสอยหมดทุกตัว

“หรือที่แย่กว่านั้น แดร์เดวิล พยายามให้ฉันทำลายฐานของตัวเอง เพื่อให้ฉันอ่อนแอลงหรือเปล่า?”

Daredevil : จับไว้ สไปเดอร์แมน นายต้องพักซักหน่อย


“จากสิ่งต่างๆที่ผ่านมาในวันนี้ ฉันก็ยังคงไม่ได้รับคำตอบ ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”

“แต่ฉันก็เริ่มที่จะมองเห็นสิ่งไม่ชอบมาพากลแล้ว”

“มันมีเพียงคนเดียวที่เข้าถึงจิตใจของคนอื่นได้แบบนี้ คนที่เล่นงานคนอื่นในระดับของตัวบุคคลนั้นโดยเฉพาะ”

“ถึงฉันจะลบเจ้า ปาร์คเกอร์ จากสมองได้แล้ว แต่ฉันยังอยู่ในร่างของเขา...”

“ดังนั้นย่อมหลบหลีกผลกระทบโดยตรงทางกายภาพไม่ได้”

“และที่ฉันบอกตัวเองแบบนี้ เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ฉันพอจะอธิบายได้...”


“...มันคือความรู้สึกที่ทำให้ฉันรู้สึกเย็นสันหลังวาบขึ้นมา”

และสิ่งที่เขาพบบนตัวของมือระเบิดคนนั้นก็คือ ตราสัญลักษณ์ของ Green Goblin

S.Spider-Man : ม่ายยยยยย!

Daredevil : มีอะไร?

S.Spider-Man : ทำไม ฉันถึงได้โง่งมแบบนี้?

Punisher : เฮ้ย ทำตัวสบายๆหน่อยน่า การต่อสู้รอบนี้แกเป็นผู้ชนะนะ

S.Spider-Man : แต่ตรงกันข้าม... ฉันอาจจะพ่ายแพ้ในสงครามไปแล้ว


จบบท

ติดตามเรื่องราวต่อได้ใน


เล่มหน้า

พบกับ การร่วมมือกันของ Green Goblin และ Dr. Octopus ที่ไม่เคยถูกพูดถึงมาก่อน!


คุยกันท้ายเล่ม

เล่มนี้อ่านครั้งแรกผมว่าจะอัดกันแบบจริงจัง แต่ตอนหลังๆบทสนทนามันดันออกแนวฮาซะได้ ลงท้ายเลยแปลตามอารมณ์เอาฮาเลย 555 และเล่มนี้จะเป็นบทนำก่อน Superior Spider-Man #27.NOW ครับ ใครเพิ่งอ่านก็ไปอ่านต่อในเล่มนั้นเพื่อเริ่มอีเวนต์ Goblin Nation ได้เลยครับ

2 comments:

  1. ขอบคุณครับ
    เล่มนี้โทนภาพสวยมาก แถมเข้ากับอารมณ์ในเรื่องเลย

    เป็นอีกตอนที่ย้ำได้ว่า "โคตรของความซวย" + "ชีวิตสุดบัดซบ" มันเป็นยี่ห้อคู่กับสไปดี้จริงๆ

    ReplyDelete
  2. โดนซะบ้าง อ๊อตโต

    ReplyDelete