Ant-Man #4

Ant-Man #4

เรื่องโดย : Nick Spencer | ภาพโดย : Ramon Rosanas

วางจำหน่าย : 8 เมษายน 2015

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

เมื่อลูกสาวของเขาถูกลักพาตัวไป Scott ย่อมไม่อยู่เฉยๆ แต่เขาจะหาทางช่วยลูกสาวของเขาได้อย่างไรกัน?

“ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง”

“ฉันมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องทำให้ได้... นั่นคือการปกป้องลูกสาวไว้ อย่าให้ต้องเสียเธอไปอีกเป็นอันขาด แต่มันชัดเจนเลยว่า...”

“เรื่องแค่นั้นฉันยังทำไม่ได้”

“พวกมันเอาตัวแคสซี่ไป เจ้าพวกบ้าจากครอสส์เทคโนโลยีเอาตัวเธอไป!”

“และเท่าที่ฉันรู้มันเป็นข่าวร้ายสุดๆ”

“ฉันคือคนที่จัดการกับหัวหน้าของพวกมัน ดาร์เร็น ครอสส์ แต่มันตายในการต่อสู้ครั้งนั้น”

“มันทำให้ฉันคิดว่าบริษัทของมันต้องถูกจัดการไปแล้วตามกฎหมาย แต่เห็นได้ชัดว่าฉันคิดง่ายเกินไป”

“แต่ที่ฉันไม่เข้าใจก็คือ... ฉันคิดว่ามันต้องตามไล่ล่าฉัน แต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้? และยิ่งกว่านั้น...”

“ทำไมต้องเป็นเธอ?”

Augustine : ไม่ใช่นะ นี่ไม่ใช่การล้างแค้น! ขอให้ผมพูดให้ชัดเจนเลยแล้วกัน...

Augustine : ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์... และครอบครัว

Cross Technological Enterprises

Augustine ได้พา Dr.Erica มาเพื่อให้เธอช่วยคืนชีพให้พ่อของเขา แต่ Dr.Erica ก็คิดว่าเขาบ้าไปแล้ว เพราะเธอเห็น Darren ตายกับตาของตัวเอง Augustine จึงบอกว่าทางเทคนิคแล้วก็ตามนั้น แต่พวกเขาได้สร้างวิทยาการที่สามารถทำให้พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ได้ มันเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บและคงสภาพเขาเอาไว้ในขณะที่เขาได้ตายลง หากแต่ว่ามันก็มีอย่างเดียวที่ช่วยไม่ได้นั่นก็คือหัวใจของ Darren ที่ต้องหาหัวใจของคนอื่นมาเปลี่ยนแทน

แต่แน่ Dr.Erica ไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการ และถึงเธอจะยอมทำ แต่มันก็ใช่ว่าหัวใจดวงไหนก็ได้จะสามารถใช้กับ Darren และหากพลาดไปพ่อของเขาจะได้ตายจริงๆแน่นอน แต่ Darren ก็บอกว่า เขาถูกความตายของพ่อไล่ล่ามาโดยตลอด จนกระทั่งตอนนี้เขามีความหวังที่จะช่วยพ่อได้จริงๆ เพราะเขาได้ค้นคว้าเรื่องนี้อย่างหนัก และมันก็แล่นเข้ามาในหัวของเขา

ทางออกของเรื่องนี้ก็คือหัวใจที่เหมาะสมกับพ่อของเขา ซึ่งตอนนี้เขาสามารถหาหัวใจที่สามารถเข้ากันได้กับพ่อของเขาได้แล้ว ซึ่งมันจะไม่มีทางทำให้พ่อของเขาผิดหวังอีก และคนที่จะบริจากหัวใจนั้นให้แก่เขาก็คือ Cassie Lang ที่เขาลักพาตัวมา!

Ant-Man Security Solution

Scott : บ้าเอ๊ย!! มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง… มันต้องไม่เกิดขึ้นอีก!

Grizzly : เฮ้ บอส ใจเย็นๆก่อน พวกเราจะหาทางพาเธอกลับมาให้ได้

Scott : ยังไงล่ะ? ฉันลองตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยของครอสส์เทคโนโลยีที่ไมอามี่ดูแล้ว...

Scott : กล้องเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวระดับไมโคร, เครื่องปล่อยคลื่นรบกวนที่จะเข้าไปขัดการทำงานในหมวกของฉัน แล้วยังยากำจัดแมลงอีก... ทุกอย่างล้วนถูกควบคุมด้วยระบบเอไอ มันเป็นระบบที่ออกแบบมาสำหรับรับมืออนุภาคพิมพ์ชัดๆ

Scott : มันเหมือนกับว่าที่นี่ถูกออกแบบมาเพื่อกันฉันออกไปโดยเฉพาะเลย! เพราะพวกนั้นรู้ว่าฉันต้องไปที่นั่น!

Grizzly : ใช่ แต่พวกมันไม่รู้ว่ามีผมด้วย

Scott : กริซ...นายใจดีมาก... แต่นายคิดว่าจะใช้แรงนายพังเข้าไปได้ง่ายๆเหรอ

Grizzly : งั้นเราก็หาคนที่ช่วยเราได้สิ

Scott : ใครล่ะ? ฉันลองติดต่อไปอเวนเจอร์, แฟนทาสติกส์โฟว์ ...แต่ดันไม่มีใครตอบกลับมาเลย มันเหมือนกับว่า โทนี่ สตาร์ก แบล็คลิสต์ ฉันไปแล้ว!

Grizzly : แต่ไม่ใช่คนที่ผมคิดถึงแน่บอส

Scott : อะไรเนี่ย? “สุดยอดวายร้ายผู้ไม่ระบุนาม”?

และ Grizzly ก็มอบใบปลิวรับงานให้ Scott โดยในใบก็ระบุว่าไม่อยากรับงานที่เสี่ยงต่อการโดนดีดเข้าคุก

Grizzly : มันเป็นกลุ่มสนับสนุนของพวกเรา ก็อย่างที่คุณรู้ ผมไม่ฆ่าใครอีกแล้ว

Grizzly : อันที่จริง ผมก็คิดที่จะพาคุณไปหา...

Scott : ไหงงั้น? นี่ฉันไม่เคยเป็นวายร้ายมาก่อนนะ...

Grizzly : แต่เห็นบอกว่าคุณเคยเข้าคุกนี่?

Scott : ก็ใช่ แต่นั่นมันก่อนที่จะมาเป็นมนุษย์มด

Grizzly : แล้วนั่นไม่นับเหรอ

Grizzly : จะยังไงก็เถอะ พวกเรามีกลุ่มที่ดีมากที่นี่ พวกเขาเป็นคนที่มากันจากนิวยอร์ก และพวกเราวางแผนที่จะไปเล่นวอลเลย์บอลกันเสาร์นี้

Scott : วอลเลย์บอล?

Grizzly : น่าบอส หนนี้เชื่อใจผมเถอะนะ เพราะพวกเราช่วยเหลือกันในงานนี้ และเมื่อผมบอกว่าผมต้องการความช่วยเหลือ ผมก็ได้รับ และเชื่อผมว่าคนคนนี้...

Grizzly : ช่วยเราได้แน่นอน

และคนที่พวกเขาพูดถึงก็คือ อดีตวายร้ายที่มีร่างกายเป็นเครื่องจักร Machinesmith

และตอนนี้เขาก็กำลังสู้กับ Avengers เด็กๆอยู่ในงานวันเกิดของเด็กที่แต่งตัวเป็น Thor หากแต่ว่าเขาก็ได้รับเงินมาเพียง $50 เพราะเขาไม่ได้พูดว่า Hail Hydra

ซึ่งที่ Grizzly แนะนำเขาให้ Scott เพราะ Machinesmith นั้นเป็นเหมือนกับคอมพิวเตอร์มีชีวิต เขาย่อมสามารถเจาะระบบต่างๆได้ และจากนั้น Grizzly ก็แนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน

Machinesmith ได้ตกลงที่จะช่วยงาน Scott แต่เขาก็ต้องการข้อแลกเปลี่ยนสำหรับงานนี้ และนั่นก็คือ Scott จะต้องจ้างเขาเข้าทำงาน

ซึ่งที่เขายอมช่วยเพราะการได้เข้าทำงานกับหนึ่งในฮีโร่ก็น่าจะมากพอที่จะทำให้ทัณฑ์บนของเขาลดลง และนอกจากนั้นเขายังต้องการรถ เพราะการโดนทัณฑ์บนทำให้เขามีสิทธิแค่ขึ้นรถบัสเท่านั้น

Scott : พอแล้ว!

Scott : นายอยากได้งาน? งั้นก็ได้เลย ช่วยพาฉันไปหาครอสส์ แล้วนายได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ พวกเราจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะเจ้าพวกนั้นเอาตัวลูกสาวของฉันไป

Scott : และนั่นหมายความว่า ฉันต้องให้พวกมันได้ชดใช้

Machinesmith : อืมม นี่ลูกสาวเขาอายุเท่าไร?

Grizzly : ประมาณ 14 – 15 ได้มั้ง

Mahinesmith : ยังพอไหว เพราะจากงานเมื่อกี๊ ฉันไม่แน่ใจว่าจะไว้ชีวิตใครก็ตามที่มีอายุต่ำกว่า 9 ขวบ ได้อีก

ทาง Scott ที่กำลังจะออกเดินทางก็มีสายจากภรรยาเข้ามา และเขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีที่จะรับสายนี้

ทางด้าน Dr.Erica ก็พบว่าคนที่ Augustine พามาก็คือ Cassie Lang และเธอก็ไม่แน่ใจว่าทำไมหัวใจของเด็กแบบนี้จะลองรับร่างกายของ Darren ได้ Augustine จึงบอกสมมติฐานของเขา นั่นก็คือ หัวใจของ Cassie นั้นเคยได้รับอนุภาคพิมพ์เข้าไปทำให้มันสามารถหดขยายได้ตามต้องการ นั่นจึงเหมาะสมที่จะใช้กับพ่อของเขาและป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด

แต่ Dr.Erica ย่อมไม่ยอมทำตามง่ายๆ ทาง Augustine จึงต้องงัดแผนสำรองขึ้นมาใช้

นั่นก็คือเขาจะฆ่าเธอซะหากเธอไม่ทำ และถ้าเธอจะปฏิเสธจริงๆเขาจะฆ่าลูกชายของเธอด้วย ก่อนที่จะฆ่า Cassie อีกต่อนึง เท่ากับว่าเธอคนเดียวจะทำให้ชีวิตของเด็ก 2 คนต้องสูญเสียไป จากนั้น Augustine ก็พา Dr.Erica มายังห้องผ่าตัดที่เขาจัดเตรียมไว้อย่างดี และที่เหลือก็คือการตัดสินใจของ Dr.Erica

ที่ด้านนอกพวก Ant-Man ได้มาถึงแล้ว

Grizzly : บอส พวกเราต้องติดแอร์ในรถแล้วนะ... เพราะฉันใส่ชุดหมีแบบนี้ในไมอามี่ และนั่นมันก็แย่พอตัวเลยล่ะ

Machinesmith : นี่ยังไม่รวมความน่าอดสูอีกนะ ถ้าเป็นไปได้ฉันว่านั่งรถบัสมายังดีเสียกว่า

Scott : นี่นายพูดบ้าอะไรเนี่ย? นี่คือรถตู้มด มันจะช่วยเรื่องการนำเสนอแบรนด์ของพวกเรา!

Machinesmith : ชาวบ้านเขาจะคิดว่าแกจะมากำจัดมดมากกว่า!

Scott : อะไรนะ? ฉันว่าฉันก็แปะชื่อสำนักงานไว้ข้างๆแล้วนะ...

ตัวประกอบ A : โทษนะเพื่อน นี่พวกนายกำจัดแร็คคูนด้วยมั้ย? เพราะฉันมีปัญหากับมันเหลือเกิน พวกมันก็น่ารักอยู่นะ แต่ชอบเข้ามาในถังขยะของฉันอยู่เรื่อยเลย!

Machinesmith : โทษที แต่จากที่เห็นพวกเรากำจัดแค่หมี

Scott : โธ่ ฉันคิดว่ามันน่าจะทำให้รถดูดี... ว่าแต่นายแฮ็คเข้าไปในระบบได้หรือยัง?

*ถ้าใครเคยดูในหนังพวกบริษัทกำจัดแมลงชอบทำโมเดลแมลงไว้บนตัวรถ อย่างเช่นแมลงสาบเป็นต้น

ที่ห้องส่วนรักษาความปลอดภัย Crossfire กำลังคุยกับแฟนสาวของเขา แต่แล้วเขาก็พบว่าบางสิ่งผิดปกติ จากนั้น Machinesmith ก็โผล่หน้าออกมาและทำการเจาะระบบทั้งหมด

ขั้นแรกคือระบบป้องกันด่านหน้าได้ปิดตัวลงทำให้ประตูเปิดออกทั้งหมด, จากนั้นหุ่นป้องกันก็ตีกันเองจนหมด แล้วสุดท้ายก็คือเขาปิดระบบไฟที่ส่วนนี้ และเตือนว่าจะมีคนใส่ชุดหมีเข้ามา และไม่ขาดคำก็มาจริงๆ

Grizzly : โว้ยยยยย ใครมันปิดแอร์อีกแล้ว?!

Crossfire : ฮือ ตอนนี้ฉันอยากจะเป็นใครก็ได้แล้วที่ไม่อยู่ที่นี่

Machinesmith : ขอเป็นตำแหน่งรองประธานส่วนปฏิบัติการและการจัดการแล้วกันนะ ทีนี้ทางคุณสะดวกแล้ว บอส

Scott : ทำได้ดีมาก สมิธ เฮล ไฮดร้า

แต่มันยังไม่จบแค่นั้นเพราะ Crossfire ยังติดต่อ ร.ป.ภ. ให้ตรงไปคุ้มกันห้องแล็บที่ 12 ได้

Scott : เฮ้ พวก รู้มั้ยว่าแล็บที่ 12 ไปทางไหน?

และคำตอบที่เขาได้รับก็คือลูกปืน แต่ว่ามันก็ไม่สามารถทำอะไร Scott ที่ย่อส่วนตัวเองลงมาได้ เขาได้พุ่งเข้าไปจัดการพวก รปภ ในขณะที่ทางเดินเต็มไปด้วยฝุ่นควันของลูกกระสุนปืน

และเมื่อจัดการหมด เขาก็พบว่าพวกมันยังมากันเพิ่มอีก แต่ทว่าพวกนั้นดันไปยิงโดนระบบล็อคประตูทำให้ประตูเปิดออก และ Scott ก็รีบเข้าไปในนั้นทันที

และมันทำให้เขาโผล่มาที่ Lab 12 ในทันที แต่เขาก็พบว่าพวกนั้นกำลังไล่ตามมา เลยรีบเข้าไปในช่องทางเดินอากาศ ทำให้เขาสามารถที่จะเข้ามาในห้องแล็บนี้ได้สำเร็จ

จากนั้นเขาก็รีบโดดลงมาในห้องอย่างรวดเร็ว และพบว่ามันมีเตียงผ่าตัดอยู่เหนือหัวของเขา

“ถ้าสมิธพูดถูก แคสซี่ ต้องอยู่ที่นี่”

“ถึงเวลาตามหาตัวลูกสาวของฉัน แล้วพาเธอกลับบ้านแล้ว”

“หวังว่าฉันจะไม่ต้อง...”

แต่แล้วเท้าสีชมพูขนาดใหญ่ก็เหยียบลงมาบนร่างของเขา

Darren : ดาร์เร็น ครอสส์ คืนชีพแล้ว!!

ดูเหมือนมันจะสายเกินไปแล้ว แล้ว Scott จะสามารถช่วยเหลือ Cassie ไว้ได้หรือไม่?

ตอนต่อไป

เตรียมหายารักษาเท้าให้ดีๆ!

คุยกันท้ายเล่ม

และแล้วศึกสุดท้ายของ Ant-Man กับ Darren Cross ก็มาถึง แล้ว Scott จะหาทางช่วงลูกสาวของเขาได้อย่างไร? ทั้งหมดอยู่ในเล่มหน้าครับ เล่มบทสรุปของ Ant-Man บทแรก และหลังจากนี้ก็จะเป็น Uncanny Avengers กันต่อ และอาทิตย์หน้าก็จะเริ่มเข้า Battleworld กันจริงๆแล้ว