Saturday, June 21, 2014

Comics News #13 : 3' June 2014

1. Avengers & New Avengers "Time Runs Out".
2. Preview Avengers #31
3. Preview Nova #18
4. Preview Batman and Ra’s al Ghul #32
5. Preview Avengers World #8
6. Preview THOR: GOD OF THUNDER #23
7. Original Sin #4
8. Preview Amazing Spider-Man #3
9. Preview HULK VS. IRON MAN #1 (ORIGINAL SIN #3.1)

HULK VS. IRON MAN #1 (ORIGINAL SIN #3.1)


ปัจจุบัน, Troy ห่างจากชายฝั่งเมืองจีน

Tony สวมเกราะ Hulkbuster รุ่นล่าสุดเข้าปะทะกับ Hulk ที่กำลังคลั่งสุดๆ ซึ่งเขาได้ขอโทษ Banner ว่าเขาไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้


และเมื่อเห็นว่าไม่สามารถพูดกันดีๆได้ Tony ก็ใช้ปืนยิงเครื่องเสียงรุ่นใหม่ล่าสุดที่ติดตั้งลงไป ซึ่งสามารถที่จะสร้างคลื่นเสียง Ultrasonic ที่ทรงพลังจนไม่มีทางที่ Hulk จะทนได้ง่ายๆมันจะทำให้ Hulk ไม่มีเวลาที่จะเล่นงานเขา แต่แล้วจู่ๆ Hulk ก็ฟาดฝ่ามือเข้าหากันอย่างแรง จนทำให้ Tony กระเด็นไป พร้อมกับปืนเครื่องเสียงที่พังจากระแทกนั้น


และจากนั้น Tony ก็รู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ามันจะเป็นยังไง Hulk พุ่งเข้าไปต่อย Tony แบบเต็มเหนี่ยว จนกระเด็นออกไปไกลกว่าเดิมมากนัก



ตอนพิเศษของ Iron Man และ Hulk จากผลของ Original Sin เริ่มแล้ว มันจะส่งผลอย่างไรต่อไปกันแน่?

Amazing Spider-Man #3


The Upper East Side

Black Cat ได้ไปยังเพนท์เฮ้าแห่งอันหรูหราแห่งหนึ่งบนตึก และเธอก็สามารถที่ตะปลดล็อกเข้าไปได้โดยใช้เพียงแค่การกดรหัสครั้งเดียวเท่านั้น (จากตัวเลข 10 หลัก ที่ต้องกดถูก 6 หลัก) และสำหรับเธอมันแสดงให้เห็นว่าเธอ 'โชคดี' จริงๆ

"สไปเดอร์แมนเอาเพนท์เฮ้าที่สมบูรณ์แบบของฉันไป ทั้งหมดทุกอย่างที่ฉันมี"

"แต่แล้วมันยังไงล่ะ ในเมื่อคุณเป็นแบล็คแค็ท ทุกๆเพนท์เฮ้า... มันก็คือ เพนท์เฮ้าของคุณนั่นแหละ"


จากนั้นเธอก็จับตัวเจ้าของ Penthouse ที่นี่ไว้ และยึดที่นี่เป็นของตัวเอง

"นี่มันสนุกดีจริงๆ ฉันใช้เวลาหลายปีในการขโมยเงินเพื่อเอามาซื้อแชมเปญและไข่ปลาคาเวีย...."

"แทนที่จะขโมยแชมเปญและไข่ปลาคาเวียเลย"

"ฉันต้องสูญเสียทุกอย่างไป ก่อนที่จะรับรู้ได้ว่า ทุกๆอย่างมันเป็นของฉันอยู่แล้ว ฉันก็แค่ต้องไปคว้าเอามันมาเท่านั้นเอง"

"และสิ่งต่อมาที่ฉันต้องการ ก็คือแกนั่นแหละ ไอ้แมงมุม"

"ฉันอยากได้หัวใจที่อยู่ในอกของแก และหัวของแกที่อยู่บนจานเซิร์ฟ แต่อันดับแรก..."

"...ฉันอยากจะเห็นแกดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมานเสียก่อน"


Alphabet City, ย่านตึกที่ถูกทิ้งร้าง สถานที่ซ่อนตัวของ Electro

Elcetro ที่กำลังนอนหลับอยู่ได้ฝันร้าย ถึงช่วงเวลาที่เขาโดน Superior Spider-Man กลั่นแกล้ง

Electro : ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะ...

S.Spider-Man : ไม่มีทางหรอกเจ้าโง่ แกจะต้องเป็นหุ่นเชิดตัวน้อยของฉัน อีเล็คโทร แกจะเป็นของเล่นของฉัน และรู้ไว้ด้วยนะ แม็กซ์ ว่าฉันชอบทำของเล่นของตัวเองพังอยู่บ่อยๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

และจากฝันร้ายก็ทำให้พลังของ Electro ทำงานออกมาเอง

Electro : อ๊า! ฉันเป็นคนทำงั้นเหรอ?!

Electro : แกทำให้ฉันเป็นแบบนี้ สไปเดอร์แมน! แกทำให้ฉันทำไม่ได้แม้แต่จะนอนหลับ! ทั้งหมดนี่ มันเป็นความผิดของแก!


Amazing Spider-Man #3 มีกำหนดออกพุธหน้าครับ

Original Sin #4


ที่ไหนสักแห่งนอกเหนือจากโลกของเรา

Punisher : นายจะพูดจาบ้าไปกันใหญ่แล้ว ฉันขอแนะนำให้หยุดเสียตั้งแต่ตอนนี้

Dr.Strange : ฉันคือหมอแปลกนะ ไอ้เรื่องบ้าๆน่ะมันเป็นภาษาที่สองของฉันเสียด้วยซ้ำ แต่แค่เพราะว่ามันฟังดูบ้าก็ใช่ว่าที่ฉันพูดจะผิดซักหน่อยนี่

Punisher : ก็ที่นายไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่นี่แหละ ที่ทำให้มันผิด

Dr.Strange : นายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการสังหารหมู่นี่ แฟรงค์ งั้นถ้านายมีความคิดที่ดีกว่าที่ฉันคิด และมันสามารถที่จะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้ ก็บอกมาเลย ฉันกำลังรอฟังอยู่

Punisher : มันมีใครบางคนฆ่าเจ้าสัตว์ตัวนี้ในสวนหลังบ้านของนาย มันมีใครบางคนที่ทำมันแทนนาย และมันทำได้ดีกว่านายด้วย นั่นใช่มั้ยที่ทำให้นายดูไม่สบอารมณ์

Dr.Strange : การที่ทำให้ฉันไม่สบอารมณ์... ก็คือการถูกโกหก


Dr.Strange : มันนานมากแล้วหรือไง ที่ไม่มีใครโกหกพันนิชเชอร์ผู้ทรงพลังเลย จนมันทำให้นายลืมเลือนความรู้สึกนั้นไป? หรือนายกำลังใช้มันเพื่อหลอกตัวเองกันแน่?

Punisher : ที่ฉันคิดอีกอย่างก็คือ เจ้าตัวใหญ่ที่พวกเรากำลังยืนอยู่บนตัวมันเนี่ย ไม่มีทางที่จะโดนฆ่าด้วยกระสุนปืนแน่ๆ จนกระทั่งมันเกิดขึ้นจริงๆ

Dr.Strange : มันเหมือนกับว่าฆาตกรของเราจะยุ่งอยู่กับเรื่องแบบนี้มานานพอดูนะ และใครบางคนก็รู้ว่าสมควรจะส่งพวกเราทุกคนไปยังจุดที่มีเงื่อนงำจุดไหน ซึ่งนั่นหมายความว่า พวกเราไม่ได้รับฟังข้อเท็จจริงทั้งหมด

Punisher : นี่นายไม่เชื่อใครสักคนเลยงั้นสิ? งั้นก็ดี ถือว่านายไม่ได้โง่เหมือนกับที่ฉันคิดไว้  แต่ตอนนี้คนที่ฉันคิดว่าพวกเราไม่ควรจะเชื่อ ก็คือคนที่ฉันคิดว่าพวกเราควรจะไปพูดคุยด้วย

Punisher : แล้วที่นายบอกว่า พวกเราทุกคน อย่าบอกนะว่า...

Dr.Strange : ฮะ ฮะ! ถ้านายคิดว่าทีมเล็กๆของเรามันน่าอึดอัดมากแล้ว... งั้นก็รอให้เจอกับสมาชิกคนอื่นๆก่อนเถอะ


บริเวณพื้นที่สีฟ้าของดวงจันทร์

Winter Soldier ที่สังหาร Nick Fury ได้โผล่ออกมาจากประตูมิติ พร้อมหัวของ Nick กับดวงตาของ Watcher

Winter Soldier : คงจะไม่ไกลจากที่นี่แล้วสินะ?

Winter Soldier : ฉันรู้ว่าแกอยู่แถวนี้ ฉันรู้ว่าแกได้ยินที่ฉันพูด ฉันกำลังจะไปหาแก

Winter Soldier : และฉันก็กำลังจะพาเพื่อนไปด้วย

พูดจบ Winter Soldier ก็เดินเข้าประตูมิติไป


แค่ 3 ตอน เรื่องราวก็ดูบ้าสุดๆแล้ว เล่มนี้มันจะเป็นอย่างไรต่อไป?

THOR: GOD OF THUNDER #23


เนื้อหาฝั่งอนาคต

Galactus พยายามที่จะกลืนกินโลกที่แทบจะไม่เหลืออะไรอีกครั้ง และเขาก็ถูกขัดขวางโดย Thor ซึ่งบัดนี้โดนมันซัดปลิวออกไป แต่ Galactus ก็ต้องเผชิญหน้ากับหลานสาวทั้ง 3 ของเขาแทน แต่สำหรับ Galactus พวกเธอก็เหมือนกับสัตว์ตัวจ้อยที่ไร้พิษสง


Galactus ตัดสินใจที่จะทำลายหญิงสาวทั้ง 3 ไปพร้อมกับโลกที่เน่าเปื่อยใบนี้ แต่แล้วก่อนที่มันจะทำได้ ประกายสายฟ้าสีดำก็ปรากฎขึ้น และแน่นอนมันไม่ใช่ใครอื่นที่ทำแบบนี้ได้ แต่ผู้ที่มาก็ทำให้ทั้ง 3 สาว ตกตะลึงเช่นกัน


เพราะมันคือ King Thor ที่ใช้อาวุธอันทรงพลังของศัตรูเก่าก่อน Necro-Sword อาวุธสังหารเทพของ Gorr  บัดนี้เขาคือ Necro-Thor ผู้ถือครองพลังอันมืดมนที่สุด และด้วยสิ่งนี้ มันนำมาซึ่งจุดจบของผู้กลืนกินดวงดาว


ถ้าจะถามว่า King Thor ไปเอา Necro-Sword มาจากไหน ก็จากการที่ Galactus อัดเขาปลิวออกไป เขาที่รู้ตัวว่าคนเดียวสู้ Galactus ไม่ได้จึงมุ่งหน้าไปยังหลุมดำ เพื่อนำดึงเอา Necro-Sword ซึ่งถูกเก็บไว้ที่นั่นออกมา และกลับมาอีกทีในเล่มนี้ครับ


Avengers World #8


จากเล่มที่แล้ว Starbrand ได้พบกับผู้ปกครองอาณาจักรแห่งความตายที่พวกเขามาสำรวจ Morgan Le fay


ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆกำลังต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตปริศนาในเมืองนี้


และสถานการณ์กำลังวุ่นวายสุดๆ Spider-Woman ต้องการตัว Starbrand ที่มีพลังทำลายสูงที่สุดมาเล่นงานพวกมันที่กำลังมามากขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่า Starbrand ไปอยู่ที่ไหน Hawkeye จึงให้หาแผนใหม่ ทาง Nightmask จึงบอกว่าตนจะลงไปจัดการกับสิ่งที่นำพาพวกมันมาที่ด้านลาง


ซึ่งทาง Hawkeye ที่กำลังพูดมากและจะพูดล้อเล่นกับ Nightmask ก็โดนศัตรูจ้วงเข้าให้เต็มๆ


Batman and Ra’s al Ghul #32


ในที่สุด Batman ก็สามารถไล่ตาม Ra's มาได้ทัน ด้วยความร่วมมือของ Frankenstein


และ Ra's ก็ได้บอกว่าเขามาช้าเกินไปแล้ว เพราะเขาได้นำร่างของ Talia จุ่มลงไปในบ่อ Lazarus แล้ว เขาเดินทางมาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์


แต่ Batman ก็บอกว่า Ra's ได้ทำเรื่องผิดพลาดลงไปแล้ว ซึ่ง Ra's ก็คิดว่าเขาใช้เวลามากว่า 100 ปี ดังนั้นมันก็ต้องมีกันบ้าง แต่ที่ Batman จะบอกก็คือ เขาทำพลาดที่เอาตัว Damian ไปจากตน ซึ่ง Ra's ก็บอกว่ามันเป็นความผิดของ Batman ที่ทำให้ลูกและหลานของตนหันมาเล่นงานตนแบบนี้ และด้วยบ่อ Lazarus นี้เขาจะแก้ไขสิ่งต่างๆใหม่อีกครั้ง



Nova #18


ในขณะที่ Sam ได้ขึ้นมายังอวกาศอีกครั้ง เขาได้สังเกตเห็นการระเบิดที่ดวงจันทร์ จึงรีบตรงไปดูทันที และพบว่าบ้านของ Watcher นั้นเละไม่เป็นชิ้นดี


ซึ่งเขาก็พยายามเรียกหา Uatu ก่อนจะเหยียบเข้าเจอสิ่งของบางอย่าง ที่เปล่งแสงอยู่... (และจากภาพที่ซูมเข้ามาขนาดนี้ มันจะต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน)


และเขาก็พบว่า Watcher หนึ่งในเพื่อนคนสำคัญของเขา... ได้นอนตายอยู่ตรงในบ้านของตน


และจากนั้น Sam ก็บินออกมาในทันที โดยไม่ทันได้พูดกับ Thor ที่ตรงมาที่บ้านของ Watcher เช่นกัน เขาบินออกไปอย่างไร้จุดหมายไปเรื่อยๆ จนตั้งสติได้ และเข้าไปหาคนที่คิดว่าจะช่วยเขาได้... Avengers


และนั่นคือเวลาเดียวกับ Original Sin #3 ที่พวก Avengers และคนอื่นๆกำลังสู้อยู่กับพวก Exterminatrix กับ Mindless One ซึ่ง Spider-Man ก็กำลังถามสารทุกข์สุขดิบของ Daredevil ที่ย้านไป San Francisco อยู่ ก่อนที่ Mindless One ตัวหนึ่งจะโดดลงมาเล่นงานพวกเขา โดย Daredevil ก็จับได้ว่ามันกำลังตกลงมา พร้อมเสียงจรวดอีกเสียงหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือ Nova นั่นเอง

Nova : แดร์เดวิล สไปเดอร์แมน ระวัง!

Nova : ดีนะที่ผมมาช่วยป้องกันบนฟ้าไว้ทัน

Daredevil : ไปดูหน่อยสิ ว่าเบ็นไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?

Nova : เบ็นไหนอ่ะ?

Spider-Man : ธิง ไง ที่นายเพิ่งอัด เจ้าไมนด์เลสวัน ไปทับใส่เมื่อกี๊อ่ะ

Nova : อ้าว ซวยแล้วไง


เล่มนี้ผมอาจจะแปลสรุปๆเฉพาะกิจ เพราะน่าจะมีอะไรเชื่อมกับเนื้อหาของ Original Sin อยู่บ้าง แต่อาจจะขออ่านดูก่อนนะครับ

Avengers #31


ในช่วงหนึ่งของการเวลาที่เปลี่ยนแปลง

Hawkeye ได้ตกลงไปจากการท่องเวลา และร่างสลายไปต่อหน้าสมาชิกคนอื่นๆ


จากนั้นพวกเขาก็มาถึง 422 ปีต่อมา จากยุคก่อนหน้านี้

Black Widow ได้ลองถามคนอื่นๆถึงสิ่งที่เธอเห็น และ Cap ก็ยืนยันว่าเขาเองก็เห็น แต่ก็บอกว่า Hawkeye ไม่เป็นอะไรหรอก เนื่องจาก Old.Hawkeye คนที่พวกเขาเพิ่งจะพบล่าสุดบอกเอง ว่าเขามาได้ไกลแค่นี้ แต่เขาก็ยังจำสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด


แต่ทำไปทำมา Cap กลับตีเนียนบอกว่าเขาเองก็ไม่แน่ใจ และเกลียดเรื่องแบบนี้สุดๆเหมือนกัน ซึ่ง Thor ก็สังเกตว่าเขาสัมผัสได้ถึงรากของ Yggdrasil ที่หยั่งลงมาบนโลก ทำเอาเขาถึงกับตกตะลึง ว่าทำไมรากของมันถึงได้หยั่งลงมาลึงถึง Midgard ได้แบบนี้ ทางด้าน Star brand ก็บอกเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างรอบๆซึ่งคนอื่นๆมองไม่เห็น เขาจึงเปลี่ยนมันให้กลายเป็นรูปร่างที่มองเห็นได้ และมันก็เป็นกรงพลังงานที่ปิดล้อมขังพวกเขาไว้


และจากนั้น Avengers ในยุคนี้ก็ได้เดินทางมาหาพวกเขา พร้อมบอกว่าพวกเขารู้ว่าพวก Cap จะต้องมา (แต่โล่พี่แกโทรมโคตรๆ เนื่องจากตรากตรำมากว่า 500 ปี ใช้ของเดิมตลอด)


จากที่คิด ข้ามเวลาแต่ละครั้งจะลดจำนวนคนลงไปเรื่อยๆ และพวกเขาก็จะพบเจอกับ Avengers ในแต่ละยุคไปเรื่อยๆเช่นกัน แต่จากที่คิดภาพสุดท้ายนี่หลายๆคนอาจจะไม่ได้มอง Avengers แหงๆ


Avengers & New Avengers "Time Runs Out".


"Time Runs Out" คืออีเวนต์ของ Avengers และ New Avengers เป็น Incursion ครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้น และบรรณาธิการของ Avengers, Tom Brevoort ได้อธิบายว่า มันจะเป็นจุดเริ่มต้นบทที่สามของ Avengers (บทแรกคือ Avengers World บทที่สองน่าจะ Infinity)

ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ ทั้ง Avengers และ New Avengers จะดำเนินเรื่องไปในอนาคต 8 เดือนข้างหน้าจากปัจจุบัน ซึ่งเราจะเห็นได้จากปกทั้ง 2 เล่ม ว่าตัวละครมีการเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน โดย Brevoort ก็ยังไม่ขอบอกว่าคนบนปกคือใครกันบ้าง (แต่จริงๆแค่ดูก็น่าจะพอเดาออกบางคนแล้ว) ซึ่งเรื่องราวนี้จะเชื่อมต่อไปช่วงท้ายในเดือนเมษายนปีหน้า ประมาณคุณจะได้อ่านคอมมิคที่จะออกใน 8 เดือนข้างล่วงหน้า

แต่ที่ Brevoort บอกเพิ่มเติมคือ มันจะไม่ได้มีแค่ 2 เล่มนี้เท่านั้น แต่จนกว่าจะถึงเมษาปี 2015 เรื่องราวจะกระชั้นชิดมากขึ้นเรื่อยๆ มันจะเป็น 7 เดือนข้างหน้า, 6 เดือนข้างหน้า ก่อนที่สุดท้ายเมื่อถึงเดือนเมษายน ทุกๆอย่างก็จะมาถึงบทสรุปสุดยิ่งใหญ่ ใน Time Runs Out

และจากปกมันก็มีคำถาม เพราะบนปก Avengers #35 เราจะเห็น Havok บนปกด้วย ทำให้มีการตั้งคำถามว่า เรื่องราวนี้จะเชื่อมต่อกับ "Uncanny Avengers" ของ Rick Remender หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่า Brevoort นั้นไม่ได้ตอบตรงๆ เขาแค่บอกว่าบนปกนี้มีความลับซ่อนอยู่ และมันไม่ใช่สิ่งที่เกิดจาก Avengers เท่านั้น แต่เป็นทั้งจักรวาลมาเวล ดังนั้นแน่นอน สิ่งที่ Rick ทำจะส่งผลถึงเรื่องราวใน Avengers นี้ด้วย และเนื้อหาในเล่มจะไม่ใช่การบอกเล่าเฉพาะ "Avengers" หรือ "New Avengers" แต่มันจะการกล่าวถึงเรื่องราวอื่นๆในจักรวาลมาเวลที่ผ่านมา 8 เดือนด้วย


และสำหรับข่าวลือที่ว่า จะมีกลุม Cabal เวอร์ชั่นใหม่ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย นั้น Brevoort ยืนยันว่าเป็นความจริง โดยพวกเขาจะเป็นเหมือนกลุ่มตรงข้ามของ Illuminati ทีเต็มไปด้วยวายร้าย

ส่วนเรื่องลำดับอีเวนต์ต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น Brevoort ได้บอกว่า "Time Runs Out" จะเกิดขึ้นหลังอีเวนต์ต่างๆทั้งหมด เพราะเอาจริงๆอีเวนต์นี้จะนำเสนอเรื่องราวในปีหน้า ดังนั้นไม่ว่า อีเวนต์ใหญ่ของ X-Men, Spider-Man, Guardians of The Galaxy หรือแม้กระทั่ง AXIS ที่จะเกิดปลายปีนี้ ก็จะเกิดขึ้นก่อนหน้าอีเวนต์นี้ ซึ่งมันอาจจะดูเหมือนไม่มีการเชื่อมโยงกัน แต่สุดท้ายทุกๆอย่างจะเชื่อมโยงกันในช่วง 8 เดือนนี้

ซึ่งตัว Brevoort ก็เล่นมุขเล็กน้อยว่า ที่พวกมันต้องเกิดก่อน เพราะถ้าเกิดหลัง "Time Runs Out" จะไม่มีเวลาให้มันเกิดขึ้นอีก

สุดท้ายนี้ "Time Runs Out" คือเรื่องราวที่จะพานักอ่านไปพบกับเรื่องราวในอนาคตของจักรวาลมาเวล มันจะตอบคำถามบางอย่าง ในขณะที่สร้างคำถามมากมายขึ้นอีกเช่นกัน ซึ่งมันจะนำไปสู่เรื่องราวที่ Jonathan Hickman ผู้เขียนเรื่องวางแผนไว้ตลอด 3 ปี ที่เขารับผิดชอบ ทั้ง 2 หัวนี้ และในเล่มพิเศษ "Avengers #35" กับ "New Avengers #24" นี้จะมาพร้อมขนาดใหญ่พิเศษอีกด้วย

สรุปข่าวจาก : CBR

5 comments:

  1. เล่นใหญ่ เดินเรื่องเร็ว ทั้งคอมิค ทั้งหนังโรงจิง ๆ
    ดีซี ยังเรื่อย ๆ- -*

    ReplyDelete
  2. DC ก็มี future end ไงครับอนาคต 5 ปีข้างหน้า
    ส่วนปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงสมาชิกใน JL ก็น่าสนใจนะ
    ส่วนหนังโรง รอดู Superman/Batman ก่อนค่อยว่ากัน

    ReplyDelete
  3. ขวาน Jarnbjorn ของธอร์อันนี้มีประเด็นจริงๆ แฮะ ตั้งแต่ Uncanny Avengers ลากยาวเลย เจ๋งแฮะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้ามองดีๆจะเห็นแขนเหล็กของ Destroyer ที่ Old.Thor ใช้ในอนาคตด้วย

      Delete