Wednesday, October 15, 2014

Comics News #15 : 1' - 2' October 2014

1. พรีวิว EDGE OF SPIDER-VERSE #4
2. พรีวิว GREEN LANTERN / NEW GODS: GODHEAD #1
3. พรีวิว Amazing Spider-Man #7
4. พรีวิว Avengers & X-Men : AXIS #1
5. พรีวิว Earth-2 #27
6. พรีวิว Earth-2 : World's End #1
7. พรีวิว Avengers & X-Men : AXIS #2

Avengers & X-Men : AXIS #2


จากเล่มที่แล้ว ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สิ่งต่างเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม Tony ได้พบว่าฝันร้ายของเขาเป็นจริงแล้ว เหล่าเพื่อนๆของเขาโดนเล่นงานไปทีละคนสองคนด้วยสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา Sam พยายามจะให้ Tony ยืนหยัดขึ้นมาให้ได้ เพราะเขาน่าจะเป็นคนเดียวที่รู้ว่าจะรับมือกับพวกมันได้ยังไง แต่คำตอบนั้นช่างสิ้นหวัง Tony ไม่รู้เลยว่าอะไรจะหยุดพวกมันได้

Sam ได้พยายามที่จะให้ Tony ตั้งสติและคิดถึงการทำงานของมันออกมา ว่าจากข้อมูลในตอนนี้ที่เขามีมันถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดแบบไหน ใช้รูปแบบการคิดอย่างไร และพลังของมันทำงานอย่างไร Tony ค่อยๆไล่เรียงความทรงจำของเขา และพอจะมองการโจมตีของมันออก ว่าหากพวกเขาถูกพบเห็นพวกเขาก็จะโดนเล่นงานทันที เขากับ Sam จึงรีบเคลือนไหวในทันที และ Tony ก็ค่อยๆคิดทีละนิดว่าทำไมพวกมันถึงเล่นงานเหล่าฮีโร่ทุกคนที่พบเห็น


Tony รู้ว่ามันไม่ได้ฆ่าคนที่มันโจมตี และเมื่อเขาคิดไปเรื่อยๆคำตอบก็ออกมา หุ่นของเขาเป็นหุ่นสำหรับกักกันศัตรู มันจะโจมตีคำนวณความแข็งแกร่งของศัตรู และยิงลำแสงที่ทำห้ศัตรูหยุดนิ่งซึ่ง Hank Pym คิดค้นออกไป และจากนั้นก็จะทำการกักขังพวกเขาไว้ในตัวของมัน และเนื่องจากมันเป็นอดาแมนเทียม การโจมตีธรรมดาย่อมไร้ผล และในระหว่างที่ Tony กำลังหาทางออกเขาก็โดนเล่นงานเข้าให้ Sam จึงเสียสละตัวเอง เพราะเขารู้ว่ามีแค่ Tony เท่านั้นที่จะหยุดยั้งมันได้


แต่ดูเหมือนการเสียสละของ Sam นั้นอาจจะดูเสียเปล่า เพราะเกราะของเขาได้รับความเสียหายที่ต้องการเวลาในการพักฟื้นระบบ 5 วินาที และด้วยเวลาขนาดนี้ทำให้เขาโดนลำแสงเข้าอีกครั้ง แต่ก่อนที่เขาจะโดนกักขังเหมือนคนอื่นๆ พลังสายหนึ่งก็เข้าเล่นงาน Sentinel จนเซไป


ตอนที่สองจะมาในเร็วๆนี้นะครับ จากที่ดู Red Skull สร้างหุ่นไม่ให้ฆ่าแต่กักขังไว้แบบนี้น่าจะมีความหมายบางอย่าง และการที่มันโจมตีแต่ฮีโร่จะทำให้วายร้ายต้องออกมาสู้แทนหรือไม่? อันนี้คงต้องดูกันต่อไปครับ


Earth-2 : World's End #1


Multiverse

"พวกเราที่อยู่บนโลกใบนี้นั้นเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ไร้ซึ่งพลัง... แต่ทุกๆการตัดสินใจของพวกเราก็นำไปสู่โลกใบใหม่"

"แต่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอแล้วที่จะนำมันไปสู่อนาคตที่พวกเราต้องอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปชั่วชีวิต..."

"จริงๆแล้วฉันหวังว่าตัวเองจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ก่อนที่จะกลายเป็นกรีนแลนเทิร์น ในขณะที่ฉันยังเป็นแค่อลัน สก็อตต์ ก่อนที่..."


"...ฉันปฏิเสธที่จะรับฟังเสียงของคนที่ห่วงใยฉันที่สุด"

และเรื่องราวก็ย้อยกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นของมัน ก่อนที่สงครามระหว่างโลกจะอุบัติ โลกที่ทุกคนยังอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข (จากภาพจะเห็นครอบครัวนึงที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา พวกเขาคือครอบครัว Grayson ซึ่ง Dick แต่งงานกับ Barbara และกำลังจะคลอดลูกของพวกเขา)


โดยในขณะนั้น Alan Scott ได้จ้าง Terry Sloan ให้ทำการสร้างเครือข่ายประตูมิติ Boom Tubes เพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสารขนาดใหญ่ แต่เขาไม่รู้เลยว่า Sloan นั้นมีแผนการของเขาเอง


และในตอนนั้น Alan ยังเชื่อมั่นในตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่รับฟังคำตอบของ Sam แฟนหนุ่มของเขา จน Sam ต้องหาวิธีอื่นเอง


ในตอนนั้น Steppenwolf กำลังขยายกองทัพของเขาอยู่ในมิติที่ 9 เพื่อเตรียมการใหญ่สำหรับการรุกรานในไม่ช้า กับลูกสาวของเขา Fury


และในค่ำคืนแห่งจุดเริ่มต้น ที่ Gotham City

Batman และ Robin มาถึงยังตึกที่ซ่อนของ Jimmy Olsen โดยไม่รู้ว่า Jimmy นั้นพบเห็นสิ่งที่ Sloan กำลังทำอยู่ และเมื่อเขาจะอธิบายให้พวก Batman ฟังเขาก็เผลอเรียกชื่อ "Bruce" ออกไป ทำให้ Batman ต้องรีบทำให้เขาสลบลงโดยเร็ว


Metropolis

เมื่อไม่มีผู้ใดเตือนเรื่องนี้ได้อีก ประตูมิติก็ถูกเปิดออก เสียงโทรศัพท์จากพ่อของ Lois มาสายเกินไป การบุกรุกของ Apokolips เริ่มขึ้นแล้ว และนี่คือจุดเริ่มต้นของสงครามบน Earth-2...


ตอนแรกคิดว่าจะต่อกันเลย แต่ทำไปทำมาเล่มนี้น่าจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ่้นทั้งหมดโดยย่อเพื่อให้นักอ่านหน้าใหม่เข้าใจได้ง่าย และท้ายๆจึงจะต่อจาก Earth-2 #26 ล่ะมั้ง จุดที่น่าสนใจคือครอบครัว Grayson นี่แหละ เพิ่งจะโผล่มาในอีเวนต์นี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีบทบาทสำคัญอย่างไรกับจักรวาลนี้....


Earth-2 #27


Metropolis, 10 ปีก่อน

Clark กับ Lois กำลังดู Kara เดาะวอลเล่ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ Kara เรียก Lois ว่า 'แม่'

Gotham, 8 ปีก่อน

Helena กับเพื่อนสาวของเธอกำลังเดินอยู่บนถนนช่วงพลบค่ำ ซึ่งหนึ่งในเพื่อนสาวนั้นก็บอกว่ามันอันตรายที่จะออกมาเดินบนถนนช่วงเวลานี้

Virginia, 5 ปีก่อน

Kara และ Helena มาติดอยู่ที่จักรวาลหลัก ซึ่ง Kara ก็จัดงานวันเกิดให้ Helena พร้อมใช้พลัง Heat Vision ของเธอตัดกระดาษเป็นรูปค้างคาวให้เธอด้วย แต่เธอก็โดน Helena บอกว่าพวกเธอมีกรรไกรนะ

Krypton, 45 ปีก่อน

Val Zod คือผู้รอดชีวิตคนเดียวของตระกูล Zod


Metropolis, 10 ปีก่อน

ในช่วงเวลานั้น มันเป็นครั้งแรกที่ Kara บินได้

Gotham, 8 ปีก่อน

ด้านหลังของ Helena ปรากฎชายคนหนึ่งที่เตรียมจะเข้าไปปล้นเธอและเพื่อนๆ โดยไม่รู้ว่าใครกำลังเฝ้ามองปกป้องเธออยู่

Virginia, 5 ปีก่อน

Kara นั้นดูดีใจกับวันเกิดของเพื่อนสนิท แต่ Helena นั้นยังเศร้าหน่อยๆเพราะตอนนี้ครอบครัวของเธอไม่อยู่กับเธออีกต่อไปแล้ว

Krypton, 45 ปีก่อน

Val โดนทิ้งให้อยู่ตัวคนเดียว โดยที่คนอื่นๆก็ได้แต่จ้องเขาที่เป็นผู้เหลือรอดคนเดียวของตระกูล


Metropolis, 10 ปีก่อน

Clark ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะหลังจากที่เธอมาจากดาวคริปตัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอบินได้

Gotham, 8 ปีก่อน

ชายคนที่ว่าโดยเชือกมัดเข้าที่เท้าอย่างรวดเร็ว ข้อหาที่เขาพยายามจะทำร้าย "หลานสาว" ของเขา

Virginia, 5 ปีก่อน

Kara คอยดูเพื่อนสนิทของเธอเป่าเค้กอย่างมีความสุข

Krypton, 45 ปีก่อน

เด็กสาวคนหนึ่งได้เข้าไปหา Val ซึ่งกำลังอยู่ตัวคนเดียว และถามถึงเรื่องที่พ่อแม่ของเขาตาย



Metropolis, 10 ปีก่อน

ส่วนที่ Lois คิด คือเธอจะเติบโตเป็นคนที่แข็งแกร่งเท่ากับ Clark เท่ากับ Superman

Gotham, 8 ปีก่อน

Helena กับเพื่อนเห็นชายคนนั้นโดนจับแขวนเสาไฟฟ้าก็พากันวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว จนถึงขนาดที่ Helena ลืมกระเป๋าทิ้งไว้

Virginia, 5 ปีก่อน

ทั้งสองเข้ากอดกันด้วยความรักใคร่ เพราะไม่ว่าจะโลกอันเป็นบ้านเกิดของพวกเธอหรือโลกใบนี้จะมีแค่ทั้งคู่เท่านั้นที่เป็นเพื่อนแท้กันตลอดไป

Krypton, 45 ปีก่อน

เด็กสาวคนนั้นแนะนำตัวว่าเธอชื่อ Kara ซึ่งครอบครัวของเธอก็ตายไปเหมือนกัน และทั้งคู่ก็น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน


ปัจจุบัน ที่ Geneva ศูนย์บัญชาการหลักของ C.E.R.N.

Val แบกพา Batman ออกมา ซึ่งดูเหมือนจะมีปัญหาเกี่ยวกับหลุมเพลิงที่นี่ และ Val ก็คิดว่านักวิทยาศาสตร์ของ Cern นั้นยังติดอยู่ด้านล่าง

ที่ข้างๆพวกเขา Kara กับ Helena ที่ข้ามกลับมาได้ก็อยู่ด้วย และดูเหมือนพวกเขาจะพบกันแล้ว โดย Kara นั้นไม่รู้สึกชอบ Thomas เสียเท่าไร


เล่ม #27 นี้จะเป็นเนื้อเรื่องหลังจาก World's End #1 ดังนั้นต้องอ่านเล่มนั้นก่อนถึงจะมาอ่านเล่มนี้ได้ครับ โดยทั้ง 2 เล่มจะออกอาทิตย์นี้พร้อมกัน


Avengers & X-Men : AXIS #1


Tony และกลุ่ม Avengers ตรวจพบสัญญาณพลังโทรจิตที่กระจายไปทั่ว Los Angeles แต่ Steve ก็ติดต่อเข้ามาว่า มันไม่ใช่แค่นั้น แต่มันเป็นทุกหนแห่งตอนนี้ทุกเมืองตกอยู่ภายใต้การจราจลที่เปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง ซึ่ง Steve ก็พอจะรู้แล้วว่าใครที่จะทำแบบนี้ได้ เขาจีงรีบให้พวก Tony กลับมาที่ Avengers Mansion ทันที

ส่วนทาง Alex ก็พบกับฝันที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ก่อนที่ Xavier จะเข้ามาพบกับเขาและบอกให้เขาหยุดยั้ง Red Skull ได้ เมื่อนั้นเขาถึงรู้สึกตัวและพบกับ Red Skull เข้าก่อนที่จะตื่นขึ้นมาท่ามกลางเปลวไฟและสายฝน


และฝันร้ายได้กลายเป็นจริงแล้ว Red Skull กลายร่างเป็น Onslaught พวกเขาไม่สามารถที่จะหยุด Magneto จากการฆ่า Red Skull ได้ทำให้มันเกิดเรื่องนี้ขึ้น มันจึงเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องฆ่าพวกเขาทั้งคู่เพื่อยุติเรื่องนี้


และนี่คือตอนแรกของ AXIS บทแรก : จอมวายร้ายสีแดงผู้ทรงอำนาจ 


ตัวเล่มมีกำหนดออกพุธนี้ และจะออกต่อเนื่อง 3 เล่มต่อเดือน ผมจะพยายามลงให้ต่อเนื่องกันที่สุดนะครับ

Amazing Spider-Man #7


Coles Academy High School, Jersey City

Kamala Khan กับพี่ชายของเธอ ซึ่งพวกเธอกำลังจะไปเรียนชีววิทยา ซึ่งพี่ชายของเธอก็บอกว่าถ้าเธอยังทำตัวเป็น Ms.Marvel ต่อไปเธอจะพบกับปัญหาชีวิตเยอะแน่ๆ ซึ่ง Kamala ก็ฟังและบ่นกลับไป ก่อนที่จะมีข้อความเข้ามาในมือถือ ซึ่งเป็นข่าวของผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือน Ms.Marvel (ชุดเก่าของ Carol) เข้าเล่นงานพวกตำรวจ Kamala จึงไม่ยอมที่จะปล่อยให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ และเปลี่ยนชุดของเธอมุ่งหน้าออกไปทันที ทำให้พี่ชายของเธอต้องเก็บชุดเธอไว้และแก้ตัวแทนอาจารย์ให้เธออีก


ทางด้าน Anna Maria ก็จับ Peter มานั่งอยู่หน้า Spider-Bot ที่เหลืออยู่ เธอต้องการจะให้เขาจัดการเรื่องการเป็น Spider-Man และการทำงานในบริษัทของเขาให้ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ Doc Ock นั้นเคยทำได้ดี และเธอก็อยากจะให้เขาหยิบข้อดีส่วนมาใช้ แม้ Peter ดูจะไม่ชอบอยู่บ้างก็ตาม โดยพวกเขาได้ฟังเหตุการณ์ที่ดักจับได้จากสัญญาณของตำรวจและพบว่ามันเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น เมื่อได้ยิน Peter ก็คิดที่จะออกไปทันที แต่ Anna ก็ดึงเขาไว้ และจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มีการติดต่ออีกครั้งว่าพวกเขาคุมไฟได้แล้ว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ Anna ต้องการจะบอก นั่นคือ บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็สามารถจัดการปัญหาได้โดยที่ไม่ต้องให้เขาช่วย นั่นคือการสิ่งที่ Doc Ock ทำเขาปล่อยปัญหาเล็กน้อยให้พวกตำรวจ หรือคนที่เหมาะสมกับหน้าที่นั้นได้ทำ


Peter ที่ได้ฟังก็ยังไม่ยอมรับทั้งหมด เพราะเขาแบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ไว้ Anna จึงบอกว่าความรับผิดชอบต่อพนักงาน และแบ่งเบาภาระของ Sajani เองก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน แต่แล้วเมื่อมีสัญญาณบอกว่ามีผู้พลังพิเศษก่อเรื่อง Peter ก็หายตัวไปทันที ซึ่ง Anna ก็พอรับได้กับสถานการณ์แบบนี้...


เล่มนี้จะเป็นช่วงพักครึ่งก่อนอีเวนต์ใหญ่ ซึ่งก็ถือเป็นการโปรโมต Ms.Marvel คนใหม่คนนี้ไปในตัวด้วยเช่นกันครับ


GREEN LANTERN / NEW GODS: GODHEAD #1


ในช่วงเริ่มต้นของจักรวาล มันเริ่มขึ้นจากความว่างเปล่า และภายในความมืดมิดพลังงานแห่งชีวิตได้ได้ปรากฎออก และมันได้ให้ก่อให้เกิดชีวิตมากมาย รวมไปถึงดวงดาวจำนวนมหาศาลในจักรวามัลติเวิร์ส แต่มันก็มีอยู่ดวงหนึ่งที่น้ำได้ระเหยกลายเป็นแสงสว่าง และจากแสงสว่างนั้นมันเกิดจากการทำลายของชีวิต


นับจากช่วงเวลาที่เทพองค์เก่าได้สูญสลายไป มันได้ก่อให้เกิดเทพองค์ New God ขึ้นมา แต่หนึ่งในนั้นก็คือผู้ที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ทำให้พี่ชายและน้องชายที่ถือครองพลังนั้นจำต้องต่อสู้กันเอง การศึกเกิดขึ้นมายาวนานถึง 7 วัน 7 คืน มันไร้ซึ่งผู้ชนะ มีแต่การทำลายล้างเกิดขึ้นทั่วบริเวณ ผู้กุมความชั่วร้ายได้เลือกที่จะอยู่บนดาวดวงนั้นต่อไป ในขณะที่อีกหนึ่งได้ออกไปสร้างสรวงสวรรค์แห่งใหม่อีกดวงหนึ่ง และเรียกมันว่า New Genesis ทั้งสองฝ่ายได้เพิ่มขุมกำลังของตนเอง และรอคอยการปะทะกันครั้งต่อไป และในขณะเดียวกัน High Father ผู้นำของ New Genesis ก็ได้ให้ความสนใจกับกำแพงที่อยู่รอบๆจักรวาลนี้ The Source Wall


ผู้ใดที่สัมผัสกับ Source Wall จะถูกดูดกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับมัน ทำให้พวกเขาไม่เคยรู้ว่ามันมีอะไรอยู่อีกด้านของกำแพง แต่ตอนนี้พวกเขาพบว่า Source Wall ได้ปลดปล่อยพลังงานบางอย่างออกมา จนทำให้พวกเขาคิดว่ามันอาจจะส่งผลต่อสมดุลของจักรวาล และในตอนนั้นเองที่ High Father ได้พบกับ Relic ที่เพิ่งจะถูกขังเมื่อไม่นานมานี้ และพวกเขาก็กำลังจะพบว่ามันได้มีผู้ที่สามารถข้ามผ่านกำแพงนี้ไปได้แล้ว


และจากการค้นพบครั้งนี้ New Genesis จะเปิกฉากรบกับเหล่า Lantern เพื่อให้ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ สิ่งที่จะสามารถช่วยเหลือพวกเขาโค่นล้ม Darkseid และ Apokolips ได้


EDGE OF SPIDER-VERSE #4


ในจักรวาลหนึ่งที่ไม่เหมือนกับที่เราเคยเห็น เด็กหนุ่มที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตา Patton Parnel ได้กำลังนั่งทดสอบเรื่องปฏิกิริยาแสงของเขากับตัวทดลองที่ #32 ก่อนที่เขาจะโดนลุง Ted ตวาดว่าให้รีบเข้ามาเตรียมตัวไปโรงเรียน


เขาเข้ามาและกล่าวสวัสดีโครงกระดูกหมายเลข #16 ของเขา ก่อนที่เขาจะหยิบกล้องขึ้นมาส่องสาวผมแดง Sara Jane ข้างๆบ้านของเขา และพูดถึงเรื่องที่เขาต้องการเก็บตัวอย่างทดลองมาจากตัวทดลอง (Sara) ที่อยู่ข้างๆบ้านคนนี้


บนรถ Patton กำลังนั่งคิดเกี่ยวกับการทดลองของเขา แต่แล้ว Sara ก็เข้ามาชวนคุยถึงเรื่องการไปทัศนศึกษาที่ Alcorps ซึ่งเธอไม่คิดคุยกับเขามาก่อนทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก โดยเธอพยายามที่จะบอกให้เขาอยู่ใกล้ๆเธอไว้เพื่อที่จะช่วยเธอทำการแสดงให้บริษัทนี้เห็นว่าพวกเธอไม่ชอบการทารุณสัตว์ทดลอง แต่แล้วเขาก็โดนกันออกไปโดยแฟนหนุ่มของ Sara นั่นก็คือชายผมทองที่มีชื่อว่า Gene


ในระหว่างที่พวกเขาเดินชมบริเวณรอบๆ Sara ได้ลากตัว Patton เข้ามายังห้องที่เก็บสัตว์ทดลองไว้ และแมงมุมตัวหนึ่งได้สดุดตาของเขา ทำให้ Patton พยายามที่จะช่วยมันออกมา แต่มันกลับกัดเขาเข้าจากนั้นพนักงานคนหนึ่งก็เข้ามาพบ


Spider-Man จักรวาลนี้ไม่มี Gwen แฮะ ชื่อก็ดูแปลกออกไปหน่อยๆ แต่ที่น่าสนใจคือ Peter จักรวาลนี้โรคจิตสุดๆ = ="

5 comments:

  1. มันจะกลายเป็นแมงมุมยักตามหน้าปกป่าว

    ReplyDelete
  2. บุคลิกแบบนี้สงสัยได้มาตายในอีเวนท์หลัก :-D

    ReplyDelete
  3. "และจากแสงสว่างนั้นมันเกิดจากการทำลายของชีวิต"

    ตรงนี้น่าจะผิดนะครับ
    And from the light....sprange live. = และจากแสงสว่างนั้น ชีวิตก็โพล่ออกมา
    sprang[V] ช่อง 2 ของ spring

    เพราะจากรูป สิ่งมีชีวิตพวกนั้น กำลังโพล่ออกมาจาก น้ำพร้อมควันที่ออกจากร่างกายนะครับ

    ReplyDelete
  4. คารากับเฮเลน่ากลับมาเล่มไหนครับเนี่ย

    ว่าแต่เฮียซุปเลี้ยงคาร่ามาตั้งแต่เด็กเลยเหรอเนี่ย

    ReplyDelete
    Replies
    1. ทั้งคู่กลับมาในเล่ม World's Finest #26 ครับ แต่กลับเข้า Earth-2 จริงๆน่าจะ Earth-2 : World's End #1 ครับ

      อันนี้ผมก็ตกใจเหมือนกัน ที่โผล่มา Kara เรียก Lois ว่าแม่เนี่ย

      Delete