Edge of Spider-Verse #3
เรื่อง และ ภาพโดย : Dustin Weaver
วางจำหน่าย : 24 กันยายน 2014
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
พบกับ Spider-Man สุดไฮเทค Dr.Aaron Aikman นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ได้รับพลังของแมงมุม
เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูปริศนา Naamurah เขาจะสามารถรอดไปสู่ Spider-Verse ได้หรือไม่?
Ikegami Medical Center คือศูนย์การแพทย์ที่คิดค้นวิทยาการทางแพทย์ขนาดใหญ่ระดับโลก ซึ่งห้องแล็บของเขานั้นล้ำยุคไปหลายศตวรรษ
Doctor Aaron Aikman อายุ 27 ปี คือหนึ่งในพนักงานที่นี่ เขาทำการผลิตยารักษาพิษของเหล่าแมลงร้าย แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า เมื่อ 3 ปีก่อน Doctor Aaron ได้ทำการพัฒนาการรักษาบางอย่างขึ้นมาอย่างลับๆ และด้วยสิ่งนั้นเขาได้เพิ่มยีนของแมงมุมเข้าไปจับตัวกับการจัดเรียง DNA ของเขาเสียใหม่ และมันทำให้เขาได้รับพลังอันน่าเหลือเชื่อมา จนต่อมาเขาได้กลายเป็นฮีโร่ของเมืองนี้ Spider-Man
โดยเขาได้ประดิษฐ์ชุดสุดไฮเทคขึ้นมาเพื่อออกไปรับมือกับเหล่าร้าย ส่วนหมวกมีระบบตรวจจับความร้อน, ที่แขนติดตั้งเครื่องยิงใยที่เขาพัฒนาขึ้นมาเอง และที่เข็มขัดก็มีการติดตั้งเครื่องช๊อตไฟฟ้าไว้ ส่วนที่ขาก็มีเครื่องสำหรับดีดตัวไว้ด้วย เขาได้ออกจัดการเหล่าวายร้ายในเมืองนี้ไปหลายคน
จนกระทั่งเมื่อ 1 ปีก่อน ที่เขาได้พบกับวายร้ายสาว Naamurah ที่สามารถทำลายใยของเขาลงได้ และเครื่องช๊อตไฟฟ้าของเขาก็ยังทำอะไรเธอไม่ได้ จนทำให้เขาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่สิ่งที่ Naamurah กล่าวกับเขานั้นก็ดูจะมีเงื่อนงำอยู่
Naamurah : ฉันได้ผ่านประตูอันดำมืดนั่นมาแล้ว มันยังมีพวกที่เป็นอย่างฉันอยู่อีกมาก แมงมุมตัวน้อยอย่างแกจะเป็นอาหารที่ดีสำหรับพวกมัน และจากนั้น โลกใบนี้... ก็จะพินาศ
หลังจากการพ่ายแพ้ครั้งนั้น Doctor Aaron ได้ทำการปรับปรุงใยของเขา ที่จะไม่มีวันโดนทำลายได้อีก และแน่ใจว่า Naamurah จะไม่มีทางหนีไปได้
ซึ่งอีกหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับ Aaron ก็คือคนที่เขาคบหาด้วย Dr.Kaori Ikegami ผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนี้และเป็นหัวหน้าของเขา เธอคือนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ฉลาดล้ำรวมไปถึงรู้เรื่องเทคโนโลยีเกี่ยวกับหุ่นยนต์อยู่มากมาย และด้วยสิ่งเหล่านี้มันสามารถทำให้เธอเปลี่ยนแปลงบริษัทแห่งนี้ให้กลายเป็นบริษัทที่ล้ำหน้ากว่าบริษัทไหน นอกจากนี้เธอยังเป็นอาจารย์ที่ดีของเหล่านักวิทจัยในบริษัทของเธออย่าง Dr.Aaron อีกด้วย
แต่มันก็ใช่ว่าเธอจะมีแต่เรื่องราวดีๆ เพราะลูกสาวของเธอ Hannah อายุ 10 ขวบ ได้ถูกรถชนจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา แต่นั่นก็คือหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ Dr.Kaori มุ่งมั่นในวงการรักษาอย่างเต็มที่ เพื่อหาทางช่วยเหลือลูกสาวของเธอให้ได้ และ Aaron ก็ช่วยเหลือเธอหาหนทางช่วยลูกสาว ทำให้ทั้งคู่สนิทกันมากขึ้นจนความสัมพันธ์นั้นไปไกลเกินกว่าจะเป็นศิษย์อาจารย์
หลังจากนั้นไม่นานนัก Dr.Kaori ก็เปลี่ยนไป เธอย้ายลูกสาวออกไปยังที่อื่นและบอกเขาว่าเธอไม่ต้องการความช่วยเหลือของเขาอีกแล้ว และจากนั้นมาเขาก็พบกับ Dr.Kaori น้อยลง
จากการออกจัดการเหล่าวายร้ายในเมืองนี้มากขึ้น มันทำให้ Aaron สามารถรับรู้ถึงรูปแบบการลักพาตัวของ Naamurah ได้ในที่สุด และหลังจากหลายเดือนที่ผ่านมาเขาได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วสำหรับการจัดการกับ Naamurah
แต่แล้วในวันนี้เองที่ Dr.Kaori ได้กลับมาหาเขาอีกครั้ง และเข้าจูบเขาในทันที
จากนั้น Kaori ก็ขอให้ Aaron ไปกับเธอสองคนในทันที ซึ่ง Aaron ก็ประทับใจมากและอยากจะทำแบบนั้นแต่ตอนนี้เขามีเรื่องที่ต้องสะสางก่อน แล้วเขาจะกลับมาหาเธอในวันพรุ่งนี้ตอนเย็น แต่ Kaori กลับไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้น และเริ่มสติหลุดว่าเธอทำทุกอย่างพังหมดรวมไปถึงบอกว่าเขาไม่ห่วงลูกสาวของเธอแล้วสิท่า เขาถึงไม่ถามถึงเรื่องของ Hannah เลย Aaron ได้ยินก็เริ่มมีอารมณ์เพราะเธอเป็นคนบอกให้เขาอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้เอง จนเขาเผลอหลุดปากไปว่า Hannah คงจะตายไปแล้ว และ Kaori คงจะไม่สามารถที่จะเผชิญกับมันได้จึงกลับมาหาเขา
คำพูดของเขาทำให้ Kaori เสียใจมาก และรีบวิ่งออกมาจากเขาไปในทันที Aaron ได้วิ่งตามลงมาหยุดเธอไว้แต่ก็ไม่ทัน เขารู้ว่าเธอกำลังเจ็บปวดแต่เขาตามเธอไปตอนนี้ไม่ได้ เพราะเขามีเรื่องที่ต้องทำในตอนนี้
Aaron : ฉันคือคนเดียวที่ยืนหยัดต่อต้านวิกฤตที่เกิดขึ้น และตราบใดที่ฉันยังอยู่ปีศาจร้ายจะต้องสูญสิ้น
Aaron : เข้าสู่โหมดตรวจจับ ตัดการตรวจจับภาคพื้นดิน ตรวจจับทุกคลื่นความถี่ของตำรวจ ปิดเสียง และเตือนเข้ามาทุกครั้งเมื่อตรวจพบคำว่า นามูร่าฮ์
Aaron : เดี๋ยว นั่นมันอะไร?
Aaron : กล้องตรวจจับที่ 2 ทำการล็อคเป้าหมาย ขยายภาพ และบันทึกไว้
Aaron : เจอตัวเธอแล้ว
Aaron : มุ่งหน้าไปทางใจกลางของทางตอนใต้ ตรงตามเวลาเป๊ะ
และสิ่งแรกที่ Aaron ทำก็คือการช่วยเหลือคนที่ถูกลักพาตัวออกมา
เมื่อ Naamurah พบว่าผิดแผนมันก็หนีไปในทันที ทำให้ Aaron ต้องรีบตามไป
Aaron : บันทึกตำแหน่งไว้ และส่งข้อความหาตำรวจ... ให้มาช่วยผู้เคราะห์ร้ายของนามูร่าฮ์ ที่หมดสติอยู่ในตำแหน่งที่บันทึกไว้
Aaron : จะคลาดกับหล่อนตอนนี้ไม่ได้ ปรากฎตัวออกมาสิ
Aaron ไล่ตามมากลับพบว่า Naamurah หายไป
Aaron : เดี๋ยวก่อน! กล้องด้านหลัง!
Naamurah ได้เข้าเล่นงาน Aaron จากด้านหลัง
Naamurah : แก คือ คนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่พวกนั้นแล้วงั้นเหรอ? แกคือมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดงั้นเหรอ?
Naamurah : มันไม่มีมนุษย์หรือตัวตนผิดแปลกใดที่สามารถจะเอาชนะเราได้!
Aaron ที่โดนเล่นงานก็รีบใช้ใยที่เขาทำขึ้นใหม่มัดตัวไว้ และปล่อยให้มันดิ่งลงมาจนกระแทกกับพื้นด้านล่าง
Naamurah ติดอยู่ในใยของ Aaron เขาทำสำเร็จ
Aaron : มันจบแล้ว นามูร่าฮ์! แกก่อการร้ายในเมืองนี้มานานพอแล้ว มันต้องจบลงเดี๋ยวนี้! บอกฉันมา ว่าแกเอาคนที่แกลักพาตัวไปไว้ที่ไหน!
Aaron : แกทำอะไรกับ... นี่มันอะไรกัน?
Aaron : แกไม่ใช่นามูร่าฮ์
Daarroh : ฉันคือ ดาร์รอฮ์ และมันยังมีพวกเราอยู่อีกมาก ความพยายามของแกมันสูญเปล่า ชัยชนะของแกในครั้งนี้ก็เป็นเพียงแค่ภาพมายา
Daarroh : แกคือคนเดียวที่ปล่อยให้แมงมุมได้เข้าไปอยู่ในร่างกายถูกมั้ย ถูกล่ะสิ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า!
Aaron : พูดออกมาเจ้าตัวประหลาด ว่าแกรู้อะไรเกี่ยวกับฉัน?
Daarroh : ตอนที่ฉันได้ออกมาจากประตู ฉันได้มองเห็น จุดขนานระหว่างโลกของเรา และ ณ จุดนั้น... ความตายกำลังจะมาเยือนแก สไปเดอร์แมน
Aaron : เดี๋ยวก่อน ฉันรู้จักใบหน้าของแก แกคือหนึ่งในผู้เคราะห์ร้าย
Daarroh : แกไม่มีทางเป็นฮีโร่ของพวกเรามันได้หรอก สไปเดอร์แมน มนุษย์ชาติถึงกาลอวสารแล้ว
Aaron : พวกเขาอยู่ที่ไหน ดาร์รอฮ์ ผู้เคราะห์ร้ายคนอื่นๆอยู่ที่ไหน บอกฉันมา!
ก่อนที่ Daarroh จะพูดต่อมันก็หมดสติไป Aaron จึงต้องพามันกลับมารักษา ซึ่งสมองของเขาถูกเชื่อมต่อกับเครื่องจักรนั้นโดยตรงและเมื่อพวกเขานำมันออกไปสมองก็ได้รับความเสียหายจนไม่แน่ว่าจะสามารถฟื้นคืนมาได้ดังเดิม จากนั้น Aaron จึงถามถึงชุดเครื่องจักรกลนั้น ซึ่งตำรวจคิดจะนำมันกลับไปเป็นหลักฐานแต่ก็ทิ้งให้พวกเขาทำการตรวจสอบก่อนหนึ่งคืน
และจากการตรวจสอบนั้นพวกเขาได้พบกับชีวจักรกลขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกับระบบประสาท และมันคือหนึ่งในสิ่งที่ Aaron ร่วมสร้างขึ้นมา และเมื่อ Aaron เห็นมันเขาก็รู้ทันทีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
Aaron ได้เดินทางมาถึงยังสถานที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์มากมาย และเขาก็พบกับ Dr.Kaori อยู่ที่นี่
Kaori : เป็นคุณเอง...
Aaron : ด็อกเตอร์ อิเคงามิ ฮันนาฮ์อยู่ที่ไหน?
Kaori : ไม่ใช่ที่นี่ เธอ... เธอจากไปแล้ว
Kaori : อย่าทำร้ายเธอนะ อารอน และอย่าทำร้ายฉันเลยหลังจากสิ่งที่ฉันทำลงไป
Aaron : คาโอริ หยุด!
Aaron : เจ้าสิ่งนี้มันหมายความว่ายังไง? แล้วนามูร่าฮ์คือใคร? ตอนนี้ลูกสาวของคุณ ฮันนาฮ์อยู่ที่ไหน?
จากนั้น Dr.Kaori ก็เล่าทุกอย่างออกมา ว่าหลังจากที่ Aaron บอกให้เธอปล่อยวางจาก Hannah ให้เธอได้ไปสบายมันทำให้ Dr.Kaori เกลียดเขาจนปลีกตัวออกมาและหาทางช่วยเหลือ Hannah ด้วยตัวคนเดียว เธอสามารถหาทางทำให้ Hannah ฟื้นขึ้นมาได้สำเร็จ
ซึ่ง Hannah ได้บอกแม่ของเธอว่าเธอได้ฝันร้ายแห่งบางสิ่งที่มืดมิด และไม่ขาดคำเธอกลับแสดงอาการหวาดกลัวว่าเธอยังคงมองเห็นสิ่งนั้นหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาแล้ว มันทำให้เธอแทบจะเสียสติและหมดสติไป จนเมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเธอก็ไม่ใช่ Hannah คนเดิมอีกต่อไป
หลังจากนั้น Hannah ก็บอกให้ Dr.Kaori ทำสิ่งต่างๆที่เธอต้องการ และเพื่อลูกสาวแม่ของเธอก็ยอมทำแต่โดยดี แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่านั่นไม่ใช่ แต่มันคือ Naamurah
Aaron : คาโอริ เธอบอกให้คุณทำอะไร?
Kaori : เธอบอกให้ฉันสร้างอุปกรณ์สำหรับช่วยเดินนั่นออกมามากขึ้น สำหรับผู้คนที่เธอพาตัวมา... คุณจะทำร้ายเธอหรือเปล่า อารอน?
Aaron : พวกเขามีทั้งหมดกี่คน แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?
Kaori : พวกเขาทุกคนเป็นผู้เคราะห์ร้าย และตอนนี้พวกเขาก็ออกไปข้างนอกทั้งหมด...
Kaori : เพื่อลักพาตัวมาให้มากขึ้นสำหรับ... รอบต่อไป
Aaron : พระเจ้าช่วย
Kaori : ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณพูดถูก...
Kaori : ฮันนาฮ์ตายไปแล้ว...
แต่ Aaron ไม่ได้ฟัง เพราะตอนนี้เขาต้องหยุดยั้งพวก Naamurah ให้ได้เสียก่อน
Aaron : ฉันอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้ ตอนนี้มีพวกมันหลายร้อยตัวอยู่ข้างนอกนั่น มันเป็นเหมือนการรุกรานจากต่างมิติ
Aaron : มันคือมิติที่เชื่อมต่อเข้ามาในช่วงเวลาที่คนเราหมดสติ
Aaron : ฉันมันตามืดบอดจริงๆ... ถ้าตอนนั้นฉันช่วยเธอ... ฉันก็น่าจะหยุดยั้งเรื่องนี้ได้?
Aaron : ตอนนี้ฉันต้องหยุดยั้งเธอให้ได้ ฉันคือคนเดียวที่ทำได้
แต่ Aaron ได้ลืมนึกถึงคำพูดของ Daarroh ไป เพราะสิ่งที่มันพูดมันคือคำพยากรณ์ ที่บ่งบอกถึงความตายที่ใกล้จะมาหาเขามากขึ้นทุกที และเงาของใครบางคนก็ปรากฎออกมาที่ประตูตรงหน้าเขา
Daarroh : ความตายกำลังจะมาเยือนแก สไปเดอร์แมน
มันเป็นไปตามที่ Daarroh พูดไว้
Aaron : แกเป็นใคร?
Morlun : จุดจบของเรื่องราวของแก
Naamurah : แกไม่มีทางเป็นฮีโร่ของพวกมันได้ สไปเดอร์แมน เพราะมนุษย์ชาติถูกกำหนดให้ล่มสลายแล้ว
The End
เล่มหน้า Edge of Spider-Verse #4
คุยกันท้ายเล่ม
ก็เป็นอันจบเรื่องราวของ Dr.Aaron ไป คงไม่ต้องถามกันว่าจะรอดมั้ย สู้กันเดี่ยวๆไม่มีทางที่ Morlun จะแพ้อยู่แล้ว โดยเฉพาะกรณีนี้
สำหรับตอนต่อไปเตรียมพบกับ Spider-Man ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน เรื่องราวดุจนิยายสยองขวัญ... ใน Edge of Spider-Verse #4 วันพรุ่งนี้ครับ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
Superior Spider-Man #32
Edge of Spider-Verse #1
Superior Spider-Man #33
Edge of Spider-Verse #2
Amazing Spider-Man #7-Edge of Spider-Verse
อยากให้รอดอยู่นะ -_- แต่คงยาก คำเปรยตอนท้ายนี่แบบไม่มีแววรอดเลย สไปดี้คนนี้
ReplyDeleteน่าเสียดาย แต่ก็ RIP น่ะ
ReplyDeleteน่าสงสาร
ReplyDelete