Saturday, May 28, 2016

DC Universe Rebirth #1

DC Universe Rebirth #1


มันไม่ใช่การรีบู๊ต แต่เป็นการนำเอาสิ่งเก่าที่แฟนๆรักให้กลับมาอีกครั้ง 

และนี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจจะทำให้จักรวาล DC ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!


ชายคนหนึ่งได้กล่าวถึงความสำคัญของเวลา จากคำพูดของลุงของเขา “เวลาทุกวินาทีล้วนมีค่า” เขารักโลกใบนี้แต่ก็คิดว่ามันยังมีบางอย่างที่หายไปจากโลกที่เขารัก ชายคนนี้ไม่มีญาติพี่น้องมากมายนัก พ่อและแม่ของเขาต่างไม่มีเวลาให้ เขาไม่มีแม้กระทั่งคนที่เรียกได้ว่าเพื่อนอย่างเต็มปาก แต่ทุกๆอย่างเปลี่ยนไปในวันที่เขาได้พบกับวีรบุรุษของเขาได้รับพลังและเป้าหมายในชีวิต แต่บัดนี้พวกมันถูกทำให้หายไปจากชีวิตของเขา


ปัจจุบันชายคนนี้ได้หลุดออกมาจากมิติความเป็นจริง แต่เขาก็สามารถหาทางกลับมาได้เพราะมีสายฟ้าคอยนำทาง ปัจจุบันเขากำลังมองหาใครบางคนที่สามารถสื่อสารกับเขาได้ และครั้งนี้เขาได้มาหาชายที่น่าเชื่อถือที่สุด Batman โดยหวังว่าจะสามารถช่วยตนได้

ในตอนนี้ Batman กำลังคิดถึงเรื่อง Joker ทั้ง 3 คนที่เขารู้มาจากเก้าอี้โมเบียสอยู่ เขาพบว่ามันมี Joker ปรากฎขึ้นมา 2 แห่งในตอนนี้ ที่ Civil City และอีกคนกำลังโดนส่งไปเรือนจำ Arkham Asylum


หลังจากที่ Darkseid ตายในอีเวนต์ Darkseid War มันทำให้มิติความเป็นจริงสั่นคลอนจนเกิดประตูทำให้ชายคนนี้หาช่องทางออกมาจากสิ่งที่กักเขาไว้ได้ เขาได้คิดที่จะลองเข้าไปพบกับ Batman ตรงๆแม้มันจะเป็นการฆ่าเขาก็ตามที แต่ยังไงก็ตามตอนนี้สถานการณ์ของเขาก็แย่ยิ่งกว่าตายเสียอีก หลังจากนั้นประกายสายฟ้าก็ฟาดเข้าใส่ Batman ทำให้เขาตกลงจากเก้าอี้ แต่ทว่ามันกลับตามมาด้วยเสียงของใครบางคน

??? : บรู๊ซ!

“ฉันกลายเป็นผู้ที่ถูกลืม”


“ชื่อของฉันคือ วอลลี่ เวสต์ ฉันคือหนึ่งในชายที่รวดเร็วที่สุดในโลก”

Wally : บรู๊ซ ฉันต้องการความช่วยเหลือของนาย!

“แต่ตอนนี้มันไม่มีใครจำฉันได้อีกแล้ว ว่าครั้งหนึ่งฉันก็เคยเป็น แฟลช เหมือนกัน”


Batman คิดว่าคนที่เห็นตรงหน้านั้นคือ Barry แต่อีกฝ่ายก็บอกไม่ใช่ เขาชื่อ Wally แต่เนื่องจาก Batman จำเขาไม่ได้ การเชื่อมต่อไม่สำเร็จทำให้ประกายสายฟ้าได้ดึงตัวเขากลับไปอีกครั้ง และประกายนั้นก็มาจาก Speed Force พลังสายฟ้าที่มอบความเร็วให้แก่นักวิ่งทุกคน แต่ถ้าพวกเขาวิ่งจนเร็วเกินไปพวกเขาจะเข้าไปติดอยู่ในนั้น เมื่อมันเกิดขึ้นความทรงจำของพวกเขาจะค่อยๆสูญหายไปจนเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Speed Force ตอนนี้ Wally ได้โดนดึงกลับเข้าไปอีกครั้ง แต่เขาก็พยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายบอก Batman ว่าจดหมายจาก Thomas Wayne นั้นคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง


หลังจากที่ Wally หายตัวไป ความเคลือบแคลงใจก็ปรากฎในสายตาของเขาพร้อมจ้องมองไปยังจดหมายของพ่อที่เขาได้รับจาก Barry มา


ฝั่ง Wally ที่กลับไปติดใน Speed Force อีกครั้งนั้นก็หวนคิดถึงอดีต การที่เขาได้พบกับ Barry, การได้พลังมา, กลายเป็น Kid Flash, ได้พบเพื่อนมากมาย, การจากไปของ Barry, การสืบทอดมรดกและกลายเป็น The Flash, คนรักของเขา Linda จนกระทั่งการกลับมาของ Barry มันทำให้เขาคิดว่าชีวิตนี้ช่างสมบูรณ์แบบ


แต่แล้วการมาของ Flashpoint ได้เปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างไป อย่างไรก็ตามในช่วงสุดท้าย Barry สามารถที่จะแก้ไขสิ่งต่างๆได้ในที่สุด แต่เขากลับไม่รู้เลยว่ามันมีใครบางคนที่เฝ้ามองจักรวาลของพวกเขาอยู่ เมื่อสิ่งต่างๆกำลังกลับไปดังเดิมผู้เฝ้ามองคนนั้นก็ลงมือ มันดึงเอาช่วงเวลา 10 ปีไปจากพวกเขา ฮีโร่ที่เป็นตำนานกลับไปเป็นมือใหม่อีกครั้ง, สายสัมพันธ์ของพวกเขาอ่อนแอลงและบางส่วนก็ถูกลบเลือนให้หายไป มันได้ทำลายมรดกของพวกเขาจนหมดสิ้น Wally คิดว่าบางทีคนคนนี้อาจจะจับตามองพวกเขามาตั้งแต่ก่อน Flashpoint แล้ว และมันมีเพียงแค่ Wally ที่รู้เรื่องนี้


Wally จะไม่ยอมแพ้ เขาจะต้องหาทางกลับไปและเตือนเรื่องนี้ว่ามันมีคนที่จ้องเล่นงานพวกเขาอยู่ เขาจะต้องออกไปเพื่อปกป้องเหล่าคนที่เขารัก แต่สิ่งแรกที่เขาต้องทำก็คือหาคนที่สามารถพาเขากลับไปบ้านได้ก่อนที่เขาจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับ Speed Force ไปตลอดกาล

จบบทแรก – สูญหายในกาลเวลา


ที่โรงพยาบาลของเหล่าคนชรา ชายแก่คนหนึ่งกำลังโวยวายว่าเขาต้องการจะออกไปจากที่นี่ แต่ไม่มีใครอนุญาติให้เขาออกไป เขาหลบหนียามที่เขามาจับตัวและขังตัวเองไว้ในห้องแห่งหนึ่ง และประกายสายฟ้าก็ปรากฎขึ้น Wally ได้มาหาชายแก่คนนี้ เขารู้จักชายคนนี้รวมถึงเพื่อนๆของเขา ชายคนนี้เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มฮีโร่ที่ช่วยหยุดยั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ทุกอย่างกลับถูกลืมเลือนไป แต่ Wally ยังเชื่อว่าชายแก่คนนี้ Johnny Thunder จะสามารถพาพวกเขากลับมาได้ พา Justice Society ให้กลับมาอีกครั้ง Wally ได้ถูก Speed Force ดึงกลับไปมันเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจนเขาเองยังไม่รู้ว่าจะทำได้อีกกี่ครั้ง ส่วนชายแก่ Johnny ก็โดนยามพาตัวไป


อีกด้านนึงที่สถานนีตำรวจ เจ้าหน้าที่สอบปากคำได้พูดคุยกับ เจ้าหน้าที่ Sawyer ว่าเธอได้สอบปากคำผู้หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งโดนจับเพราะไปขโมยแซนวิชกิน โดยเธอเข้าใจผิดกับที่ที่เธอจากมาเพราะที่นั่นอาหารคือสิ่งที่แจกฟรี ในระหว่างการสอบปากคำหญิงสาวคนนั้นบอกว่าเธอมาหา Superman เพื่อนของเธอ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเขาหายตัวไปและอาจจะตายไปแล้ว แต่หญิงสาวยังคงยิ้มได้และบอกว่าทุกๆอย่างจะเป็นไปด้วยดี เพราะเธอมองเห็นอนาคตมาแล้ว

เจ้าหน้าที่คิดว่าเธอเป็นคนบ้า แต่เธอก็ไม่มีอาวุธอะไรติดตัวมาเลย เว้นเพียงแต่แหวนที่มีสัญลักษร์ตัว ‘L’


ที่ Ivy University

Ryan Choi โดนต่อว่าแทน ศาสตราจารย์พาลเมอร์ที่ขาดสอนมาเป็นครั้งที่ 5 แล้ว และเขาก็โดนขู่ว่าถ้าไม่สามารถหาคำตอบเรื่องที่ Ray Palmer หายตัวไปไหนได้เขาจะต้องโดนส่งกลับฮ่องกง Ryan จึงรีบวิ่งกลับมาหาศาสตราจารย์ในทันที และเขาก็รู้สึกเหมือนมันไม่มีใครอยู่ที่ห้องทดลองของเขามานานแล้ว แล้วจู่ๆหน้าจอคอมก็เปิดขึ้นพร้อมข้อความของ Ray ที่บอกว่าตอนนี้เขาติดอยู่ในสถานที่เขายังไม่เชื่อว่าจะมีจริง นั่นคือ Microverse เขาได้ฝาก Ryan ยกเลิกคลาสสอนทั้งหมด และบอกภรรยาของเขา Jean ว่าเขารักเธอ


จากนั้น Ray ก็บอกต่อว่าเขารู้ดีว่า Ryan ไม่ชอบการออกไปข้างนอกมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจาก Ryan เพราะเขาเป็นคนเดียวที่รู้จักวิทยาการของตนมากที่สุดและเป็นคนที่ตนเชื่อใจที่สุดด้วย เขาได้ทิ้งเข็มขัดย่อส่วนไว้ที่ห้องแล็บให้ Ryan และต้องการให้ใช้มันช่วยพาเขาออกไปจากที่นี่ ซึ่งนี่มันอาจจะไม่ได้เป็นเพียงแค่การช่วยเขาหากแต่เป็นการช่วยเหลือจักรวาลนี้เลยอีกด้วย Ray นั้นคิดได้ว่าเขาต้องเตือน Ryan บางอย่างก่อนแต่สัญญาณก็ขาดไปก่อนที่จะบอกจบ

หลังจากที่จอดับไป Ryan ก็มองไปข้างๆและพบกับเข็มขัด The Atom ที่ Ray พูดถึง ก้าวแรกสู่การเป็นฮีโร่ของเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว


Kord Industries

Ted Kord อยู่กับ Jaime Reyes ซึ่งอยากให้ Ted ช่วยเอาเกราะที่ติดอยู่ด้านหลังของเขาออกไป แต่ Ted กลับสร้างยาน The Bug ขึ้นมาแทน และบอกอีกว่าเขาจะใช้มันเป็นเหมือน Batcave ของทั้งคู่ในระหว่างที่ออกทำงานร่วมกัน Jaime จึงบอกว่าเขาต้องการความช่วยเหลือไม่ใช่จะมาเล่นเป็นฮีโร่แบบ Batman กับ Robin ก่อนที่จะได้เถียงต่อ Jaime ก็ถึงเวลาต้องไปเรียนแล้วจึงแปลงร่างและรีบบินไป


หลังจากที่ Jaime ไป Dr.Fate ก็ปรากฎตัวขึ้นที่ด้านหลังและบอก Ted ว่าเกราะแมลงของ Blue Beetle นั้นไม่ใช่วิทยาศาสตร์อย่างที่เขาคิด แต่มันเกี่ยวข้องกับเวทมนต์ แต่ทว่าคำพูดของ Dr.Fate กลับทำให้ Ted รู้สึกสนใจมันมากกว่าเดิม


สำหรับคนอื่นๆนั้น Damian ได้เค้กฉลองวันเกิดอายุ 13 ปี

Jessica ที่กลายเป็น Green Lantern คนใหม่ได้รับการติดต่อจาก Hal เกี่ยวกับเรื่องของ Sinestro

นอกจากนั้น Jackson อดีต Aqualad จาก Pre New 52 ก็กลับมาอีกครั้งแต่ถูกปรับให้กลายเป็นเกย์แทน


สุดท้าย Pandora กำลังวิ่งหนีบางสิ่งไปที่ตรอก แต่มันกลับเป็นทางตัน ทำให้เธอได้แต่หันหน้าสู้กับมัน เธอได้บอกว่ามันยังมีความหวังอยู่ในตัวของเหล่าฮีโร่ ความหวัง, ความอุทิศตัว และความรักที่มีต่อกันของพวกเขาจะร่วมกันทำลายสิ่งมันทำ เธออาจจะไม่รอดในวันนี้แต่เหล่าฮีโร่จะพิสูนจ์ให้เห็นว่ามันคิดผิด

Pandora : พวกเขาจะพิสูจน์ให้เห็น ว่าแกก็เป็นแค่คนที่เปล่าเปลี่ยวและขี้เหงา สัตว์ประหลาดที่โหด...

ก่อนที่จะพูดจบ พลังทำลายบางอย่างก็ทำลายร่างของ Pandora จนสลายไป

จบบทที่สอง - มรดก


Wally สัมผัสถึงเสียงกรีดร้องบางอย่างได้ และเมื่อไปถึงมันคือเกาะที่อยู่ท่ามกลางมรสุม ที่นั่น Grail ได้เล่าให้ Darkseid ตัวน้อยฟังเกี่ยวกับน้องชายของ Wonder Woman ที่ชื่อว่า Jason และบอกอีกว่าเขามีพลังพิเศษที่คล้ายคลึงกับ Darkseid


หลังจากนั้น Wally ก็พบว่า Superman ในจักรวาลนี้ได้ตายไปแล้ว


ในจุดเกิดเหตุเขาพบกับ Oliver และ Diana ที่ปัจจุบันทั้งคู่ไม่ได้คู่กันอีกแล้ว แต่เมื่อทั้งคู่สบตากันพวกเขาก็พบว่ามันเหมือนมีอะไรดึงดูดอีกฝ่ายเข้าหากัน พวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันไม่สามารถอธิบายออกมาได้ มันเหมือนมีอะไรที่อยู่ในใจของพวกเขา จนทำให้พวกเขาต่างคิดในทุกคืนวันว่าพวกเขาสูญเสียอะไรไป


ฝั่ง Superman.Pre52 นั้น Lois.Pre52 กังวลเรื่องที่ Jon ลูกชายของเธอระดมถามเข้ามามากมาย และอีกเรื่องก็คือการตายของ Superman พวกเขารู้ว่าโลกนี้มีบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากที่พวกเขาจำได้ แต่บางเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นคล้ายคลึงกัน เช่นเดียวกัน Superman.Pre52 เองก็เคยตายมาก่อนจากการต่อสู้กับ Doomday แต่ก็ฟื้นคืนชีพมา แล้ว Superman คนนี้เองก็จะฟื้นขึ้นมาด้วยหรือเปล่า? Superman.Pre52 นั้นหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น

หลังจากที่แยกจาก Lois.Pre52 เพื่อไปทำงาน Superman.Pre52 ก็พบกับ Mr.Oz ชายปริศนาที่วางแผนเล่นงาน Superman ก่อนหน้านี้ เขามาเพื่อบอก Superman.Pre52 ว่าแท้จริงแล้วเขากับครอบครัวไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเชื่อว่ามันเป็น เช่นเดียวกับ Superman ที่ตายไปแล้วในตอนนี้ เมื่อพูดจบเขาก็หายตัวไป


Aquaman ได้พา Mera ขึ้นมายังชายหาดบนฝั่งเพื่อกินมื้อเย็นกัน จากนั้นทั้งคู่ก็รื้อฟื้นความหลังเก่าๆของพวกเขาการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ Aquaman ได้พูดถึงเรื่องที่เขาไม่เคยอยากได้บัลลังก์ แต่ถ้ามีเธออยู่เคียงข้างแล้วล่ะก็... Aquaman ได้ขอ Mera แต่งงานด้วยแหวนที่ทำจากวัสดุของแอตแลนติสกับโลกด้านบน


กลับมาที่เกิดเหตุการณ์ตายของ Superman ที่นั่น Wally พบผู้หญิงที่เขาตามหามานาน อดีตคนรักของเขา Linda Park ผู้หญิงที่เป็นจุดหมายที่นำเขากลับมาได้ตลอดเวลา เขาจึงมั่นใจว่า Linda จะต้องจำเขาได้แน่ๆ Wally ได้ลงไปตรงหน้าของเธอในทันที


แต่ทว่า Linda กลับจำเขาไม่ได้ มันทำให้ Wally เสียใจอย่างมาก ความรักของเขาพังทลายลงและเป็นอีกครั้งที่เขาโดนประกายสายฟ้าของ Speedforce ดูดกลับเข้าไป

จบบทที่สาม – ความรัก


ถึงจะโดน Linda ปฏิเสธแต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ Wally ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะกลับไปยังโลกเดิมของเขา สานสัมพันธ์รักกับ Linda อีกครั้ง เขาได้ไปหาเหล่าคนที่คิดว่าน่าจะรู้จักเขาอย่าง Captain Boomerang, Cyborg หรือ Dick Grayson แต่พวกเขากลับจำไม่ได้เลย การออกมาหลายครั้งทำให้ร่างกายของเขาเริ่มสูญสลายไป เขาเหลือแรงอีกครั้งเดียวที่จะไปหาคนที่คิดว่ารู้จักเขา


และจากนั้น Wally ก็มองเห็น Wally.Black อีกคนนึง ซึ่งเขารับรู้ว่าเป็นญาติของตัวเองที่ถูกตั้งชื่อตามปู่ของเขาเอง Wallance West จากนั้น Wally ก็มองเห็น Wally.Black ใช้พลังของอีกฝ่ายช่วยเด็กที่เกือบโดนรถชน มันทำให้ Wally รับรู้ว่าช่วงเวลาแห่งฮีโร่ของ Wally.Black นั้นกำลังจะเริ่มต้น ส่วนของเขากำลังจะสิ้นสุดลง เมื่อปราศจาก Linda ชีวิตของ Wally ก็ว่างเปล่า เขาไม่คิดที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว


ในช่วงสุดท้ายนั้น Wally ได้พบกับชายคนสุดท้ายที่เขาอยากจะพบในชีวิตนี้ Barry Allen ชายที่รวดเร็วที่สุดในโลก วีรบุรุษและอาจารย์ของเขา เขามองเห็น Barry ช่วยผู้คนด้วยรอยยิ้ม ทำทุกอย่างที่ทำให้ผู้อื่นมีความสุข การได้เห็น Barry แบบนี้ก็ทำให้ Wally มีความสุขแล้ว


เขาจึงได้ตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายเดินทางไปหา Barry เพื่อบอกคำลาและปล่อยให้เวลาในอดีตได้ผ่านไปเสียที

Wally : แบร์รี่ คุณไม่รู้หรอกว่าผมเป็นใคร...

Wally : …และคุณคงจะจำผมไม่ได้

Wally : ดังนั้นนี่จึงเป็นการมาทักทาย... และบอกลา


Wally : ก่อนอื่นคุณต้องไปหาแบทแมน ถามเขาเกี่ยวกับจดหมายของพ่อของเขา บอกเขาว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับประวัติศาตร์ของโลกใบนี้ มีใครบางคนบิดเบือนมัน... และทำให้พวกคุณหลงลืมบางสิ่งไป

Wally : เหมือนผม

Barry : นายเป็นใคร?

“ฉันไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว”

Wally : แบร์รี่ ขอบคุณสำหรับชีวิตที่แสนมหัศจรรย์

Wally กำลังสูญสลายไปต่อหน้า Barry กระแสเวลาของ Speed Force ได้แสดงภาพใบหน้าของ Wally จากหลายช่วงเวลาให้ Barry เห็น


Wally : ขอบคุณสำหรับความใจดีของคุณ

Wally : ขอบคุณสำหรับแรงบัลดาลใจที่คุณมอบให้

Wally : ขอบคุณที่อยู่ข้างผมในเวลาที่ต้องการ

Wally : และสำหรับครั้งนี้... ครั้งสุดท้าย

Barry : ฉันไม่เข้าใจ...

Wally : ผมหวังว่าวันนึงคุณจะเข้าใจ และคุณพูดถูกนะ แบร์รี่

Wally : เวลาทุกวินาทีคือสิ่งที่มีค่าจริงๆ


Wally : และเพราะคำพูดนั้น ผมจะไม่จากไปด้วยความปวดร้าว

Wally : ผมจะไปด้วยความรักที่อัดแน่นเต็มหัวใจ

Wally : ลาก่อน แบร์รี่ ลาก่อน

ร่างของ Wally สูญสลายไปแทบหมดสิ้น แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็บังเกิดขึ้น ความทรงจำในอดีตได้แล่นเข้ามาในหัว Barry เขารับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าที่กำลังจะหายไปคือใคร...

Wally : วอลลี่?

Barry ได้เอื้อมมือไปหา Wally ที่เกือบจะหายไป


และดึงให้ Wally กลับมาได้ในที่สุด

Wally : ฉัน... กลับมาแล้ว?


Wally : คุณพูดชื่อผม คุณพาผมกลับมา

Barry : ฉัน... ฉันขอโทษจริงๆ วอลลี่

Barry : โอ้ พระเจ้า...

น้ำตาของ Wally ได้เอ่อไหลออกมา ความพยายามครั้งสุดท้ายของเขาไม่เปล่าประโยชน์ คนที่สำคัญกับเขาที่สุดสามารถจำเขาได้แล้ว ทั้งคู่ได้เดินเข้าหากัน


และสวมกอดกันด้วยความดีใจอย่างที่สุด

Barry : นี่ฉันลืมเธอไปได้ยังไงกัน?


ตอนนี้ Barry จำได้ทั้งหมดแล้ว ทุกๆอย่างในอดีตที่มี Wally เกี่ยวข้องด้วย เรื่องที่ Iris พาเขามาแนะนำ, เรื่องที่เขาโดนสายฟ้าฟาดใส่, เรื่องที่เขาทำงานร่วมกับ Teen Titans และเรื่องที่เขาเป็น The Flash!


Wally นั้นจดจำเรื่องในอดีตไม่ได้มากนัก แต่เขารู้ว่ามันมีเรื่องในอดีตมากกว่าที่เขาจำได้ จากนั้นเขาก็บอกเรื่อง Flashpoint ให้ Barry ฟังและทุกๆอย่างที่สูญหายไปหลังจากนั้น และ Wally มั่นใจว่ามันไม่ใช่เพราะ Barry แต่เป็นเพราะใครคนอื่น


คนทีมีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร พลังที่ไม่มีใครเคยพบเจอมาก่อน ในช่วงเวลาที่อยู่นอกเวลา Wally พยายามที่จะมองดูว่าเขาคนนั้นคือใคร ซึ่ง Wally มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ว่าแม้กระทั่งตอนนี้...

ที่ถ้ำ Batman ที่ฟังคำพูดของ Wally ได้เอะใจว่ามันมีสิ่งผิดปกติ เขาค่อยๆเดินตรวจสอบไปรอบๆถ้ำจนกระทั่งมองเห็นบางสิ่งส่องแสงออกมาหลังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่พังจากสายฟ้าที่ฟาดใส่ เขาจึงแงะมันออกมาจากหิน

Wally : พวกเรากำลังโดนเฝ้ามองอยู่

สิ่งที่ Batman แกะออกมาได้ก็คือ เข็มกลัดหน้ายิ้มเปื้อนเลือดของ Comedian จาก Watchmen

จบบทที่สี่ – ชีวิต


บทส่งท้าย

ห่างไกลจากโลกออกไป ยังดาวอังคารสีแดง มีสิ่งหนึ่งเปล่งประกายอยู่ที่นั่น มันคือนาฬิกาที่ Wally ได้มาจาก Barry และทำหายไป มันลอยขึ้นมาและถูกแยกส่วนก่อนที่จะประกอบกันใหม่อีกครั้ง พร้อมคำพูดที่ดังขึ้นมา

“ฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องใช่มั้ย?”


“มันจบลงในที่สุด”

“จบเหรอ?”

“มันไม่มีอะไรที่จบลงหรอก เอเดรี่ยน”

“ไม่มีสิ่งใดที่จบลง”


นาฬิกากำลังเดินอยู่ในจักรวาลดีซี


หลังจากนี้ พวกเขาจะกลับมาอีกครั้ง

ทั้งเหล่าฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด และวายร้ายที่ร้ายกาจที่สุดของพวกเขา


คุยกันท้ายเล่ม

สำหรับเล่มนี้ผมคิดว่าหลายๆคนน่าจะได้อ่านกันก่อนแล้วจากสปอยที่หลุดออกมาซึ่งทางผมเองก็ทำส่วนของสปอยไว้ แต่ผมก็อยากจะหยิบยกเนื้อหาเต็มๆมาให้อ่านอีกที เพราะมันได้อารมณ์กว่าการอ่านตัวหนังสือสปอยอย่างเดียวมากๆ บทพูดและงานภาพนั้นช่วงส่งเสริมให้เรื่องของเล่ม One Shot นี้ออกมาพิเศษกว่าที่เราคาดคิดไว้ บางสิ่งนั้นอาจจะดูตลก, แถ หรือไม่สมเหตุสมผล แต่การอ่านครั้งแรกผมไม่คิดว่าเราจะคิดถึงสิ่งเหล่านั้น เนื้อเรื่องจะพาเราให้เอาใจช่วย Wally ว่าเขาจะได้กลับมาหรือไม่ ไปพร้อมๆกับรับทราบการเปลี่ยนแปลงจักรวาลดีซีผ่านทางความคิดของเขา ซึ่ง Geoff Johns นั้นทำได้ยอดเยี่ยมมาก เขาพยายามหาประเด็นที่จะผูกสิ่งต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน เขารู้ว่าควรจะแก้ไขอะไรยังไง ซึ่งถึงจะแถไปหน่อยแต่มันก็ออกมาดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว ตลอดการอ่านเล่มที่ 60 กว่าหน้า ผมบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่เต็มอิ่มที่สุด และอยากให้แฟนๆยุคเก่าของดีซีได้อ่านกัน เพราะ Geoff johns เขียนมาให้แฟนๆยุคเก่าจริงๆ โดยเฉพาะแฟนๆของ Wally West ที่อยากให้เขากลับมา แต่ครั้งนี้มีการพ่วงเอา Watchmen มาด้วย

โมเม้นต์ที่ผมประทับใจที่สุดในเล่มนี้คือฉากของ Wally West ที่มาบอกลา Barry และฉากที่ทั้งคู่สวมกอดกัน ทั้งคำพูด, งานภาพ มันเป๊ะมากจนได้อารมณ์ความซึ้งและเศร้าโศกที่ทำให้เราอินไปกับมัน มันคือฉากที่ผมอยากให้มีใน Superman #52 การเล่นกับการลาจากของตัวละคร ทำให้เราคิดว่านี่คือช่วงเวลาสุดท้ายของเขาจริงๆ เขากำลังจะหายไปแล้วจริงๆนะ ไม่ใช่ให้พูดนิดๆหน่อยๆ 2 หน้าแล้วก็ตาย มันซึ้งก็จริงแต่ไม่ประทับใจเท่า

ประเด็นของ Watchmen นั้น บอกตรงๆก็คือทางผมไม่ได้ตาม Watchmen เท่าไร ดังนั้นจึงอาจจะไม่ได้พีคกับการมาของพวกเขาเท่าแฟนๆคนอื่นๆ ผมเลยไม่ขอพูดถึงส่วนนี้มากแล้วกัน แต่สำหรับตัวละครอื่นๆที่พากลับมาและสายสัมพันธ์ที่ถูกพูดถึงใหม่นั้นมันมีบางส่วนที่ดูแปลกๆอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เนื้อหาสะดุดอะไร ที่ผมสนใจยิ่งกว่าคือการกลับมาของ JSA ในจักรวาลหลัก เพราะมันจะส่งผลต่อ Earth-2 ว่าพวกเขาจะกลายเป็นอะไรไปแทน กลายเป็นตัวสำรองของจักรวาลหลัก แล้วโลกของพวกเขาจะยังถูกนำเสนอต่อไปหรือตัดมันทิ้งไป

สำหรับตัวละครที่น่าสงสารที่สุด ตอนแรกผมจะยกให้ Simon Baz แต่หลังก็พอมีบทบ้าง ตอนนี้ผมเลยโยนให้ Pandora เพราะตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรกในช่วง New 52 เธอทำให้เราเห็นว่าเธอมีพลังมหาศาลในการรวมจักรวาลและสร้างขึ้นใหม่, เธอเป็นบุคคลปริศนาที่น่าค้นหาจนกระทั่งมันมาพังในช่วง Trinity War ที่ไม่สามารถตอบคำถามแฟนๆถึงพลังที่ทำให้เธอรวมจักรวาลได้ และปมก็ถูกลืมไปเรื่อยๆพร้อมกับตัวตนของเธอ จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ ที่เธอโดน Dr.Manhattan ยิงทิ้ง เป็นบทสรุปของบทอันน้อยนิดที่เหลืออยู่


ฉากที่ Dr.Manhattan ฆ่า Rorschach ใน Watchmen นั้นเหมือนกันกันเด๊ะๆ (ข้อมูลจาก Bleeding Cool)

นอกจากนั้นสำหรับตัวละคร Mr.Oz ได้มีทางเว็บ Bleeding Cool คิดว่าชายคนนี้อาจจะเป็น Ozymandias เพราะที่มือของลูกน้องของเขามีสัญลักษณ์ตัว Z ซึ่งถ้ามองดีมันจะเหมือนกับสัญลักษณ์ตัว N จากคำว่า Nostalgia ที่เป็นแบรนด์น้ำหอมซึ่ง Ozymandias ทำขึ้นมา

ตัวละคร Mr.Oz นั้นเป็นตัวละครลึกลับที่ปรากฎตัวครั้งแรกในเล่ม Superman และตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ถึงตัวตนที่แน่ชัดของเขา



นอกจากนั้นบทพูดสุดท้ายของตัวเล่ม ยังอ้างอิงไปถึงบทสนทนาของ Dr.Manhattan กับ Ozymandias อีกด้วย โดยในตอนท้ายของ Watchmen เล่มนี้นั้น Dr.Manhattan ได้บอกว่าเขาอยากที่จะลองสร้างชีวิตด้วยมือตัวเองดูสักครั้งและจากไป


จนกระทั่ง Before Watchmen ก็ได้แสดงให้เราเห็นว่า Dr.Manhattan ได้ทำเช่นนั้นจริงๆ แต่ผลลัพธ์นั้นยังไม่เคยถูกกล่าวถึง จึงมีการตีความกันว่าจักรวาลดีซีในตอนนี้อาจจะเป็นผลงานการสร้างของ Dr.Manhattan และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการทดลองบางอย่างเขาอยากจะลองดูว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็เป็นได้


โดยรวมเล่มนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากสำหรับผม เป็นหนึ่งในเล่มที่นักอ่านน่าเก็บสะสมสำหรับเนื้อหาที่กระชับและแทบจะเต็มทุกอารมณ์ (ยกเว้นความมันส์ในฉากบู๊) สำหรับแฟนๆยุคเก่าของดีซีน่าจะชอบกันมาก แต่สำหรับแฟนใหม่ๆอาจจะไม่เข้าใจเท่าไรว่ามันซึ้งอะไรกันขนาดนั้น

Score 9.5/10 เล่มแนะนำสำหรับคนอ่าน DC ว่าควรจะหามาอ่าน สำหรับคนที่จะเริ่มอ่านก็อ่านได้เพราะตัวเล่มมีการอธิบายตัวละคร Wally ไว้บ้าง แต่อาจจะไม่อินเท่าคนที่อ่านมาก่อนเพราะไม่รู้จักตัวละครว่าเป็นใครมากจากไหน แต่ถ้าจะเริ่มอ่านจากพวก Batman Rebirth, Superman Rebirth เลยก็ได้ไม่ว่ากัน


เล่มนี้เป็นการสปอยที่จัดเต็มที่รู้สึกไม่ได้ทำมานานแล้ว โดยรวมผมคิดว่ามันตัดช่วงได้ยากเพราะเนื้อหามันเยอะจริงๆ หลังทำเสร็จเลยว่าช่วงนี้คิดว่าคงจะขอพักสักวัน 2 วันนะครับสำหรับสปอย และถึงจะอ่านสปอยของผมไปแล้วก็อยากให้ลองไปซื้ออ่านกันเองดูอีกรอบนะครับ เพราะเล่มนี้ผมว่าอ่านเองจะได้อิมแพ็คจากตัวเล่มมากที่สุด

11 comments:

  1. จดหมายที่บรูชมี นี้ได้มาจากแบทแมนแฟลชพอยรึเปล่าครับ

    ReplyDelete
  2. พีคอย่างแท้จริง ทุกตำนานกำลังจะกลับมาแล้ว

    ReplyDelete
  3. ให้ 10 เต็มเลยครับ ยิ้มเลยตอนเห็นแพนโดร่าโดนสลายตัว

    ReplyDelete
  4. อ่านเเบบเต็มๆ บอกเลยเล่มนี้โคตรพีค Epic มาก

    ReplyDelete
  5. ตกลงคือ Rebirth ทำให้ย้อนเวลากลับไป 10 ปีใช่ไหมครับ

    ReplyDelete
  6. Rebirth จะเอาหลายๆ สิ่งที่หายไปตอน Flashpoint กลับมาสินะครับ อยาก Aquaman กับ Mera แต่งงานกันแล้ว หรือ Green Arrow คู่กับ Black Canary เหมือนเดิม แต่ว่ามีเฉพาะ Green Lantern สินะ ที่จะมีอีเวนท์เปลี่ยนแปลงจักรวาลยังไง เหตุการณ์ก็ยังเดินไป Timeline ของมัน

    ReplyDelete
  7. ความจำผมไม่ค่อยดีละ ลืมไปแล้วว่า Eventที่Super HeroของEarth-2โดนจับนี่ จบยังไงนะครับ?

    ReplyDelete
  8. ยอดเยี่ยม นึกถึงตอนมาอ่านใหม่ ๆ ตอนนั้นแฟลชพอยท์ใกล้จบ

    ReplyDelete
  9. ขอบคุณสำหรับสรุปมากๆเลยนะคะคุณแบงค์ฉากมาพบกันอีกครั้งเป็นอะไรที่ประทับใจมากๆเลยค่ะ
    ดีใจที่เราได้วอลลี่คนเดิมกลับมานะคะ ทำให้บ้านเฟลซเริ่มกลับมาสนุกอีกครั้งจริงๆค่ะ

    ReplyDelete
  10. The deep you dig into the topic and endow with us the perfect knowledge is appreciable.
    ez payday loans in houston

    ReplyDelete
  11. พี่คะ ไม่มีต่อหรอคะ

    ReplyDelete