Monday, March 24, 2014

Superior Spider-Man Annual #02

Superior Spider-Man Annual #02

Goblin Nation Tie-In

เรื่องโดย : Dan Slott | ภาพโดย : Javier Rodriguez & Phillippe Briones

วางจำหน่าย : 19 มีนาคม 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics


บทช่วงต่อของ Goblin Nation

พบกับเรื่องราวของ Ben Urich ที่พยามยามช่วยหลานชายของเขา Goblin Knight - Phil Urich

และเรื่องราวการต่อสู้ของ Wrath กับ Monster ที่ Parker Industries!


First Act - Blood Tie

Ben Urich นั่งอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืด และหวนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา เขาเคยเป็นทั้งสามี... และพ่อของครอบครัว แต่ตอนนี้ เขาเป็นแค่นักเขียนข่าวคนหนึ่ง และตอนนี้เขากำลังไล่ทำข่าวของ Hobgoblin ที่เป็นหลายชายของเขาเอง Phil Urich


และล่าสุด เขาก็เปิดฟังเทปบทสัมภาณ์ของ Norah Winter อดีตคนรัก และคู่หูของ Phil ซึ่งเธอได้เขียนหนังสือตีแผ่ความจริงเกี่ยวกับ Hobgoblin เธออธิบายว่าหลายคนที่ได้รับ Goblin Formula นั้นกลายเป็นคนบ้า, คนเสียสติ แต่พวกเขาก็ยังสามารถที่จะทำตัวเหมือนคนปกติได้ อย่างในกรณีของ Phil เป็นต้น นอกจากนี้เธอยังเพิ่มเติม ไม่ว่าเขาจะล้ำเส้นอะไรไป เขาก็เอาแต่โทษคนอื่น แต่จริงแล้วเขามันก็คือ ไอ้ขี้แพ้ และเธอเองก็ด้วยที่ไปเชื่อใจเขา

เมื่อฟังถึงเท่านี้ Ben ก็ปิดเครื่องลง พร้อมคิดถึงตัวเองว่า การที่ Phil เป็นแบบนั้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว นั่นแสดงว่าเขาไม่ใช่นักข่าวที่ดีจริงๆ


จากนั้นเขาก็ออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ของเขา และได้รับสายจาก Mary Jane เธอได้โทรมาเตือนเขาถึงเรื่องที่ Green Goblin อาจจะเล่นงานคนใกล้ชิดของ Spider-Man และเตือนให้เขาออกจากเมืองไป พร้อมให้ไปบอก Robbie ด้วย

Ben : ผมจะระวังตัวไว้ และคุณเองก็ระวังไว้ด้วย

M.J. : คุณเองก็ด้วยนะ เบ็น และฉันดีใจนะ ที่คุณยังปลอดภัย

แต่ที่ด้านหลัง Goblin Knight ได้บินลงมาหาเขา

Goblin Knight : อย่าหันกลับมา


Goblin Knight : แกจะได้ยินคำพูดบางอย่าง และฉันแน่ใจว่าแกพร้อมแล้ว

Goblin Knight : ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่าคุณจะปลอดภัย

Ben : ฟิล

Goblin Knight : และบางทีถ้าคุณคิดว่าสถานการณ์เลวร้าย คุณอาจจะเข้าไปหลบอยู่ในตึก แล้วรอไปเรื่อยๆ...

Goblin Knight : ...เพราะจากนี้ไปมันจะบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

และจากที่ Ben เห็น ชุดและรูปแบบเหมือนเดิม เขารู้ว่านั่นคือ Phil มันยังไม่สายเกินไปสำหรับเขาที่จะช่วยเหลือหลานชาย เพราะตอนนี้หลานชายของเขาก็ยังปกป้องเขาอยู่


จากนั้น Ben ก็รีบไปหา Robbie เพื่อบอกสิ่งที่ Green Goblin เตือนเขา และคิดว่าบางทีพวกเขาควรจะต้องเตือน Betty Brant และ Jonah ทางRobbie จึงบอกว่าเขาจะโทรไปหาเอง ส่วน Jonah ก็ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นสูงสุดแล้ว นอกจากนี้เขายังเห็นว่า Phil เข้าร่วมกับพวก Goblin อีกด้วย จึงอยากให้ Ben ไปเตือน Norah ไว้ เพราะเธอไม่พูดกับเขาเลยตั้งแต่ที่เขาไล่เธอออก ทาง Ben จึงรับปากพร้อมบอกให้ Robbie รักษาตัวด้วย และวิ่งออกไปทันที ส่วนทางเขาไม่ต้องห่วงอะไรเพราะหลังจากที่เขาต้องเจอการตามไล่ฆ่าของ Kingpin หรือ Electra เขาก็เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์แบบนี้แล้ว... แต่เขาโกหก เพราะเขามีบางอย่างที่ต้องการจะทำ


เขาตรงไปที่ Parker Industries และเขามองออกว่า Peter แกล้งตาย ซึ่งเขาได้รวบรวมสูตร Goblin Formula มา แต่มันมีบางส่วนนี่ขาดหายเขาจึงอยากให้ Peter ช่วย แต่ Sajani ก็บอกว่าพวกเธอไม่ต้องการสูตรของเขา เนื่องจากพวกเธอมีแหล่งต้นทางที่ดีกว่านั้น และเธอก็ให้เขาพบกับ Carlie ที่หลบอยู่ที่นี่


ซึ่ง Ben นั้นคิดว่า Carlie ตายไปแล้ว และตอนนี้เขายังพบว่าเธอแปลกไป เธอจึงอธิบายว่าเธอโดนสารของก็อบลินเข้าไป แต่เธอก็หลุดลุคของ Monster ออกมา จนเธอต้องพยายามคุมมันไว้ และคิดว่าต้องใช้ยารักษา Goblin Formula แล้ว แต่ Sajani ยังไม่แน่ใจว่ามันจะเกิดผลกระทบข้างเคียงขึ้นมาหรือไม่ และถ้ามันเกิดมันอาจจะฆ่าเธอได้ ซึ่ง Carlie ก็บอกว่าเธอยอมรับความเสี่ยง แต่ Sajani บอกว่าเธอยังไม่คิดว่ามันคือหนทางสุดท้ายจึงไม่ยอมให้เธอทำ Carlie จึงบอกเข้าไปหา Ben แทนเพราะเธอรู้ว่าเขามาเพราะเรื่องของ Phil ทาง Ben จึงรับยาไปเพื่อใช้กับ Phil


ก่อนจะไป Carlie ได้เตือนเขาว่า Phil นั้นไม่ใช่คนเดิมที่เขารู้จักอีกต่อไปแล้ว เขาถูก Goblin Formula เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ตอนนี้เขาเป็นฆาตกร เป็นเหมือนสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง และมาถึงจุดนี้ Carlie ก็เริ่มกลับกลายเป็น Monster อีกครั้ง ทำให้เธอต้องรีบกลับไปยังห้อง และ Sajani ได้เตือน Ben เป็นครั้งสุดท้าย

Sajani : เดี๋ยวก่อน ตอนนี้ สไปเดอร์แมน มีธุระติดพัน แต่คุณสามารถที่จะเรียกหาเขาได้ ผ่านทางสไปเดอร์บอทพวกนั้น พวกมันมีอยู่ทั่วทั้งเมือง

Sajani : เจ้าก็อบลินแก้ไขโปรแกรมของมัน ทำให้มันไม่สามารถจับตามองพวกที่เป็นก็อบลินได้ ดังนั้นคุณต้องบอกให้เขารู้ว่า ฟิล อยู่ที่ไหน และถ้าคุณพบกับหลานของคุณ อย่าได้เผชิญหน้ากับเขาคนเดียว บอก สไปเดอร์แมน ให้เขาช่วยคุณ เข้าใจนะ?

Ben : เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก แต่ไม่ต้องห่วงหรอก

Ben : ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่


ที่ Gramercy Park

Goblin Knight ได้บุกเข้ามาในห้องพักของ Norah และพยายามไล่ล่าเธอ

Goblin Knight : เจอตัวแล้ว

Goblin Knight : ฉันมันไอ้ขี้แพ้ใช่มั้ย นอร่า?

Goblin Kinght : แล้วเธอคิดว่าไอ้ขี้แพ้จะหาตัวเธอที่สำนักพิมพ์หลบซ่อนเธอไว้ได้งั้นเหรอ? เธอคิดว่าไอ้ขี้แพ้มันจะมีกองกำลังที่เป็นหูเป็นตาให้จนกระทั่งหาเธอพบมั้ย?

Goblin Knight : เธอควรจะปล่อยวางเรื่องพวกนี้ซะ นอร่า, แต่ฉันก็ยอมรับนะ ว่าฉันคิดอยู่เสมอว่าปากของเธอน่ะ จะทำให้เธอต้องตาย


หากแต่ว่าคนที่เขาเจอกลับเป็น Ben ลุงของเขาเอง

Goblin Knight : ลุงเบ็น? นังนอร่ามันหายหัวไปไหน?

Ben : ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันมีข้อมูลที่บอกว่าเธอเคยพักอยู่ที่นี่ คนของหลานทำงานได้รวดเร็ว แต่พวกเขาน่าจะสืบหาข้อเท็จจริงก่อนที่จะลงมือนะ

Goblin Knight : แล้วนี่มันอะไรเนี่ย กับดักงั้นเหรอ?

Ben : แน่นอนว่าไม่ใช่ ไม่มีใครรู้ว่าลุงอยู่ที่นี่ พวกเราคือครอบครัวนะ ฟิล และคนในครอบครัวไม่มีวันยืนมองคนบ้าอย่าง นอร์แมน ออสบอร์น ลากคนในครอบครัวของเขาลงต่ำหรอกนะ

Ben : ลุงเคยเขียนหนังสือของ นอร์แน ออสบอร์น… มันชัดเจนเลยว่าเขากำลังหลอกใช้หลาน เหมือนที่มันเคยทำมาตลอด

Ben : นั่นคือการจัดการกับผู้คน

Goblin Knight : ลุงไม่คิดเหรอ ว่าผมจะรู้อยู่แล้วน่ะ?

Ben : ลุงคิดว่าเธอน่ะไม่ทันได้คิดก่อนทำอะไร... และเธอก็เป็นแบบนั้นมานานแล้ว

Goblin Knight : ไม่เลย ลุงรู้อะไรไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ

Ben : งั้นบอกมาสิ แล้วลุงจะฟังที่หลานพูด ฟิล, ให้ลุงได้ช่วยหลาน

และ Ben ก็พยายามใช้โอกาสนี้ฉีดยาที่ได้รับมาจาก Sajani


แต่แล้วลูกน้องของเขากลับเรียกหาเขาเสียก่อน และเมื่อเขาออกไปดูก็พบว่าพวกนั้นจับใครมาได้ ซึ่งนั่นก็คือ Robbie ที่มามองอยู่นอกตึกและพยายามโทรเรียกตำรวจนั่นเอง

Goblin Knight : เนี่ยนะไม่ใช่กับดัก? ผมปกป้องลุงแล้วนี่เหรอที่ลุงทำกับผม!

Ben : ลุงไม่รู้ว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

Robbie : ฉันตามนายมา เพราะฉันกลัวว่า....นายจะทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ มันสายเกินไปแล้วสำหรับเขา เบ็น, เขาจะลากนายตกต่ำไปกับเขาด้วยนะ

Ben : ไม่ มันยังไม่สายไป เพราะออสบอร์น ก็เคยเข้ากระบวนการตามกฎหมายมาก่อน... มันเป็นเพราะ ก็อบลิน ฟอร์มูล่า ที่ทำให้หลานเป็นแบบนี้ ลุงจะหาทนายที่ดีที่สุดให้เธอ ลุงช่วยเธอได้นะ

Ben : และลุงรักษาหลานได้

Ben : ทำให้หลานเป็นคนเดิมกับที่หลานเคยเป็น


แต่แน่นอนว่า Goblin Knight ปฏิเสธความหวังดีของเขา

Goblin Knight : ฉันจะต้องการมันไปทำไม? ผู้หญิงอย่างนอร่าหัวเราะเยาะฉัน? ส่วนคนอย่างมันก็ ไล่ฉันเหมือนไอ้ขี้ครอก? ฉันจะกลับไปเป็นไอ้ขี้แพ้แบบนั้นทำไมอีก?

Ben : ไม่นะ ฟิล มันยังมีเซรุ่มอยู่อีก พวกเรายังสามารถ...

Robbie : เขาไม่ต้องการมันหรอก เบ็น นายไม่เห็นหรือไง ว่านี่แหละคือตัวตนของเขาน่ะ?

Goblin Knight : ไม่ว่าอะไรกันนะ? เพราะนี่เป็นปัญหาของครอบครัว

Goblin Knight เปิดดาบเพลิงของเขาขึ้นมา และฟันเข้าใส่ Robbie จังๆ ต่อหน้า Ben


ทำให้ Ben เห็นว่าเขาจะช้าไม่ได้ จึงรีบวิ่งออกไปที่หน้าต่างและตะโกนออกไปให้เหล่า Spider-Bot ได้ยินว่า Phil Urich อยู่ที่นี่ ทำให้ลูกน้องทั้ง 2 คน คิดที่จะเข้ามาเล่นงานเขา แต่ Goblin Knight กลับเข้ามาฟันทั้งคู่

Goblin Knight : นี่ฉันยังเป็นคนออกคำสั่งอยู่หรือเปล่า?

Goblin Knight : มันมีแค่ฉันเท่านั้น ที่จะฆ่าคนที่มีสายเลือดเดียวกันได้

Goblin Knight : ขอโทษด้วยที่มันต้องเป็นแบบนี้ ผมรู้ว่าลุงนั้นหวังดี เอาล่ะบอกผมมา ว่า”ยารักษา” ที่เหลือนั่นอยู่ที่ไหน และใครที่รู้สูตรการทำของมัน และผมไม่ต้องการให้เรื่องนี้มันต้องเจ็บปวดกับผมมากกว่าที่ผมเป็นอยู่


แต่มันไม่ทัน เพราะ Superior Spider-Man มาถึงแล้ว

S.Spider-Man : ฉัน...ก็ไม่อยากจะพูดแบบเดียวกับแกหรอกนะ... ไอ้ขี้ขลาด

S.Spider-Man : เล่นงานฉันผ่านทางคนอื่น? แถมยังจับตัวประกันอีก? แค่ 2 อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว

S.Spider-Man : เราจะได้เห็นกัน ว่าแกมีดีแค่ไหน เจ้าก็อบลิน

Goblin Knight : ได้เลย ฉันจะแสดงให้เขาเห็นว่าฉันมีดีแค่ไหน... ด้วยการเอาหัวของแกไปให้เขา ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

“ใบหน้าของเขา”

“จากหน้ากากของเขา มันง่ายที่ฉันจอบอกตัวเองว่า เขากำลังสู้กับมันอยู่ เขากำลังทรมานเพราะมัน เหมือนกับ คาร์ลี่”

“แต่ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่า เขากำลังสนุกกับมัน”

“นี่คือตัวตนที่เขาต้องการจะเป็น”


ทั้งคู่เขาปะทะกัน ในขณะที่ Ben ไปดูอาการของ Robbie ซึ่ง S.Spider-Man ก็โดนเล่นงานจากถุงมือไฟฟ้าของ Goblin Knight แต่ก็ไม่นานนักที่เขาจะกลับมาโต้กลับได้

Ben : ร็อบบี้? สไปเดอร์แมน! ร็อบบี้ยังไม่ตาย!

Goblin Knight : ก็อาจจะใช้ แต่มันก็ไม่นานนักหรอก ถ้าพวกแกไม่พาเขาไปที่โรงพยาบาล แล้วทำตามนโยบายการประกันภัย ดูเหมือนว่าความรู้ของฉันจะยังไม่ลงหลุมนะ และดูท่า ฉันจะไม่ได้โง่เหมือนที่แกคิด จริงมั้ย?


Ben : เขากำลังจะตาย และหน่วยกู้ชีพอาจจะก็มาไม่ทันด้วย

S.Spider-Man : ถ้านายโกหกเพื่อช่วยเหลือหลานของนายล่ะก็...

Ben : ฉันไม่ได้โกหก

Ben : ร็อบบี้ ยังช่วยได้ แต่ฟิลน่ะหมดหวังแล้ว

Ben : ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไรก็ตาม เขาไม่ใช่หลานของฉันอีกต่อไปแล้ว

S.Spider-Man : ก็ได้ งั้นจงสนุกกับชีวิตอันอิสระที่เหลืออยู่ของแกเถอะ อูริช

Goblin Knight : แน่นอน ฉันจะใช้มันให้คุ้มค่าเลยล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

และ Goblin Knight ก็บินหนีไป โดยมี Ben เฝ้ามองด้วยหลานของเขาเป็นครั้งสุดท้าย


ที่ดาดฟ้าของโรงพยาบาล

S.Spider-Man : เขาน่าจะรอดแล้ว ฉันควรจะไปได้ซักที และถ้านายรู้อะไรเกี่ยวกับหลานของนาย สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการติดต่อฉัน

S.Spider-Man : ฉันหวังว่านายจะรู้ตัวได้แล้วนะ ว่าเขากลายเป็นอะไรไปแล้ว

“จริงๆแล้ว ฉันไม่รู้หรอก และมั่นใจว่าฉันไม่มีทางทำได้”

“แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันเข้าใจ นั่นก็คือ ฟิล อูริช ที่ฉันรู้จัก...”

“...ตายไปกับภรรยาของฉันแล้ว”


ที่ห้องของ Ben

“ฉันต้องยอมรับมันให้ได้”

“คุณจะต้องเรียนรู้การสูญเสียของคุณเองก่อน คุณจึงจะสามารถไว้อาลัยให้พวกเขาได้”

“แต่ฉันยังไม่ได้เสียไปหมดทุกอย่าง”

“ฉันยังมีความจริง และความสามารถที่จะค้นหามัน การเปิดเผยมันออกมาให้ผู้คนเข้าใจ และยอมรับ”

“เพื่อส่องสว่างในความมืดมิด โดยเฉพาะในยามที่สิ่งต่างๆนั้นดูจะยากลำบาก, ในยามที่สิ่งนั้นมันเจ็บปวด, ในยามที่เราได้เห็นเหล่าคนที่ต้องรับผิดชอบถูกเปิดเผยตัว และถูกลงโทษ”

“ฉันเป็นหนี้คนที่ฟิลเคยเป็น และตัวฉันเองด้วย”

“ชื่อของฉันคือ เบ็น อูริช”

“ฉันคือนักข่าว”


Second Act – Chasing Ghost

ที่ Parker Industries

Wrath ได้ตื่นขึ้นมาและรับรู้สถานการณ์ของเธอในทันที ว่าเธออยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว


และเธอก็เข้าเล่นงาน Living Brain อย่างงายดาย พร้อมใช้แก๊สของเธอช๊อตวงจรประตูเพื่อขังมันไว้


ทางด้าน Carlie ก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว เธอต้องการยารักษาเดี๋ยวนี้

Sajani : ฉันยังทดสอบมันอยู่ รออีกหน่อยนะ คาร์ลี่ ฉันจะไม่ยอมฉีดยาที่อาจจะฆ่าเธอได้ให้แน่ๆ

Carlie : ตอนนี้เธออยู่ในห้องกับสิ่งที่สามารถฆ่าเธอได้นะ

Sajani : แต่เธอไม่ทำนี่ เธออาจจะแข็งแรงอีกในไม่ช้า หรือถ้าอยากจะให้ฉันมัดเธอไว้อีกรอบก็บอกแล้วกัน

Carlie : เธอน่าจะลองทดสอบก็อบลินฟอร์มูล่ากับหนูทดลองในแล็บ

Sajani : ฉันลองแล้ว และมันก็พังกรงออกมา และวิ่งมาหาฉัน มันอาจจะฆ่าฉันได้... ถ้ามันไม่ระเบิดตัวเองไปเสียก่อน

Carile : ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

Wrath : ขอบใจสำหรับเสียงหัวเราะ ทีนี้ฉันจะได้รู้ว่าต้องต่อยไปที่ไหน


และ Wrath ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้าไปเตะใส่เธอเต็มๆ

Wrath : และถ้าฉันไม่ปล่อยเธอไป... มันก็ไม่เกี่ยวกับว่าเธอจะพรางตัวเองหรือไม่


Sajani : ยัยบ้านี่ เธอกำลังทำอะไรลงไปรู้ตัวมั้ย?

Wrath : ฉันจะจัดการกับเธอทีหลัง วิคตอเรีย แฟรงเกนสไตล์

Sajani : ฉันพยายามจะรักษาเธอ เธอควบคุมมันได้...อยู่บ้าง...แต่ถ้าคุณยังทำแบบนี้ มันจะทำให้เธออดทนไม่ได้อีกต่อไป

Monster : ใช่แล้วฉันทนมาพอแล้ว แล้วแกล่ะว่ายังไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Carlie ได้หลุดจากการควบคุมแล้ว Monster ได้ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง


Monster : ฉันอาจจะสับสนไปซักหน่อย... แต่ตอนนี้ฉันได้สติแล้ว

Monster : และน่าเสียดายที่แกพูดแบบเดียวกันไม่ได้

Monster ที่บ้าคลั่งเข้าเล่นงาน Wrath เป็นชุด จนเธอล้มทั้งยืน

Sajani : แวรธ ระวัง! คุณตาบอดหรือไง?

Wrath : ฉันมองไม่เห็นเธอ! แล้วเธอมองเห็นได้ยังไง?


Sajani : เอาล่ะฉันเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น และต้องจัดการมันอย่างไร แวรธ จับตัวเธอไว้อีกครั้ง

Wrath : พูดน่ะมันง่ายกว่าทำนะ!

Sajani ได้ใช้โอกาสที่ Wrath จับตัว Monster ไว้ ฉีดยาเข้าใส่เธอ

Sajani : ขอโทษด้วยนะ คาร์ลี่ แต่พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

Monster : เธอต่างหากที่ไม่มีทางเลือก ยัยคนน่าเบื่อ ฉันจะเจาะรู้ที่หน้าของแกให้...


Monster : อึ๊กกก! อะไรเนี่ย? แกทำอะไรกับฉัน....

Sajani : มันได้ผล!

Monster : แต่มันช้าเกินไป ฉันยังสามารถที่จะ...

Wrath : เดี๋ยวนะ เธอเพิ่งจะเรียกมันว่า...

Wrath : ...คาร์ลี่?

และเมื่อยาออกฤทธิ์ ก็ทำให้ Carlie กลับสู่สภาพเดิม และทำให้ Wrath มองเห็นเธออีกครั้ง

Carlie : ฉันรู้สึก...แปลกๆ...

Wrath : คาร์ลี่ คูเปอร์?


Wrath : คาร์ลี่ ฉันออกตามหาเธอไปทั่วเลย! ตั้งแต่ที่ ปีเตอร์ ลักพาตัวเธอไป!

Carlie : ไม่ใช่ ปีเตอร์... แต่เป็นเจ้าก็อบลิน…

Wrath : เธอหมดสติไปแล้ว

Sajani : ช่วยฉันวางเธอไว้บนเตียงหน่อย

Sajani : แล้วเลนส์ที่ตาของคุณ มันมีระบบตรวจสอบใบหน้าเหมือน สไปเดอร์แมน ใช่มั้ย?

Wrath : เธอรู้ได้ยังไง?

Sajani : เพราะระบบมันมีข้อผิดพลาดน่ะสิ ตอนนี้คุณไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่มีใบหน้าของก็อบลินได้

Wrath : ให้ตายเถอะ... งั้นตอนนี้ทุกๆอย่างก็ชัดเจนแล้ว มันมีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องการจะถาม คาร์ลี่ เธอจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่?

Sajani : จากการทดลองของสูตรยานี้ มันไม่ใช่ “เมื่อไหร่” หรอก แต่เป็น “ถ้าเธอตื่นขึ้นมา” ต่างหากล่ะ


Wrath : ฉันไล่ล่าเป้าหมายผิดตัวมาตลอด และในขณะที่คาร์ลี่ต้องการฉัน ฉันกลับ...

Wrath : ฉันไม่ใช่หมอ ดังนั้นอยู่ที่นี่ไป ฉันก็คงจะทำอะไรไม่ได้

Wrath : แต่อย่างน้อยๆ ฉันก็สามารถออกไปข้างนอกนั่น และให้เจ้าก็อบลินมันชดใช้ได้ และตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น

Wrath ได้บดขยี้เลนส์ที่ตาของเธอเป็นผงในทันที

Wrath : ฝากดูแลเธอด้วย ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันทำได้

Sajani : แล้วว่าแต่ คุณไล่ตาม ปีเตอร์ ทำไม? เพราะสไปเดอร์แมน เหรอ?

Warth : ถ้าพวกเรารอดจากเรื่องในครั้งนี้ไปได้ ฉันอาจจะบอกเธอ แต่ในตอนนี้ พูดตามตรงเลยว่า... ฉันไม่เห็นว่ามันจะสำคัญตรงไหน


ติดตามเรื่องราวต่อได้ใน Superior Spider-Man #30


คุยกันท้ายเล่ม

อ่านจบตอนนี้เข้าใจคำว่า "ความลับนั้นมีค่าตอบแทนที่เราต้องจ่าย และความจริงเองก็ด้วย" จากในหนัง The Amazing Spider-Man 2 เพราะ Carlie นั้นพยายามขุดค้นหาความจริงของ Doc Ock มาตลอด จนกระทั่งเธอพบความจริง และสิ่งที่เธอต้องจ่ายก็คือตัวเธอเอง ที่โดน Goblin Formula เข้าไป และตอนนี้แม้จะแก้ก็ยังไม่แน่ว่าเธอจะรอดหรือไม่

เล่มนี้เป็นเนื้อเรื่องระหว่าง Superior Spider-Man #29 - 30 ซึ่งผมคิดว่าเขาคงจะอธิบายสิ่งต่างๆไม่หมดในเล่มหลัก จึงต้องแยกเล่มนี้ออกมาเล่าส่วนเสริม ให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ฺที่สุด

1 comment:

  1. ขอบคุณครับ Wrath ดูเหมือนไม่ค่อยเก่งไงไม่รู้

    ReplyDelete