Tuesday, March 18, 2014

Comics News #9 : 2' March 2014

1. Preview Fantastic Four #2
2. Preview All-New X-Men #24
3. Preview Justice League 3000 #4
4. Wolverine New Event "3 MONTHS TO DIE"
5. Preview New Avengers #15
6. Preview Batman Beyond 2.0 #16
7. Preview Supergirl #28
8. Preview Batman & Aquaman #28
9. Preview THOR: GOD OF THUNDER #20

THOR: GOD OF THUNDER #20



Thor และหลานสาวทั้งสามได้มายังโลกมนุษย์ และพบกับ Galactus ที่หายตัวไปหลายศตวรรษกลับมากลืนกินโลกอีกครั้ง หลานสาวของเขาจึงบอกว่า นี่คือเวลาที่พวกเขาควรจะไปจาก Midgard เสียที เพราะตอนนี้โลกที่เขารักไม่เหลืออะไรอีกแล้ว


King Thor จึงบอกว่า บางครั้งเมื่อพวกเธอแก่ตัวและมีหลานสาว ความทรงจำที่เหลืออยู่นั่นแหละคือทุกๆอย่างที่พวกเธอจะมี จากนั้นเขาก็ยก Mjolnir ขึ้นมา พร้อมกล่าวอะไรบางอย่าง เขาได้ยกฆ้อนคู่ใจขึ้นมาพร้อมสะบัดมันอย่างรุนแรง


ก่อนจะเขวี้ยงขึ้นฟ้าเพื่อเปิดประตู Bifrost ส่งหลานสาวทั้ง 3 กลับไปยัง Asgard และสั่งให้พวกเธอปิดประตู Bifrost เพื่อไม่ให้ใครตามมา และเขาก็ไม่มีแผนจะไปสู้ Galactus โดยที่ไม่มีแขนอีกข้างกับฆ้อนอยู่แล้ว เขาคิดที่จะไปต่างหาก ซึ่งเขาก็รู้ว่าที่ตายของเขาก็คือท่ามกลางเศษซากหินเหล่านี้


จากนั้น King Thor ก็เดินเข้าไปหา Galactus เพื่อพูดคุยกับมัน


ขนาดโลกไม่เหลืออะไรแล้ว Galactus ก็ยังไม่เลิกความคิดที่จะกลืนกินมัน... สุดยอดจริงๆท่านพ่อตา...


ฺBatman & Aquaman #28


Batman ได้เริ่มออกตามหา Ra's al Ghul ที่นำเอาศพของ Damian และ Talia ไป ซึ่ง Alfred ก็อยากที่จะตามเขาไปด้วย แต่ทว่า Batman ก็บอกว่าเขามีผู้ติดตามที่คาดไม่ถึงมาคนเดียวก็เกินพอแล้ว และนั่นก็คือ Titus ที่แอบเข้ามาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว


และจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็พบกับแขกอีกคน... Aquaman


โดยทาง Aquaman นั้นมาที่นี่เพราะเขาได้ยินเสียงของปลาวาฬกรีดร้อง ส่วนทาง Batman ก็อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง จากนั้น Aquaman ก็บอกว่าเขาไม่ได้ยินเสียงนั้นแล้ว นั่นหมายความว่า... พวกเขากำลังจะถูกโจมตี


และนั่นก็คือ League of Assassin ของ Ra's Al Ghul นั่นเองที่ออกมาขัดขวางพวกเขา และทาง Ra's เองก็ดูเหมือนมีแผนที่จะทำบางอย่างกับศพของ Talia และ Damian


เข้าสู่บทแรกของ The Hunt for Robin!

Supergirl #28


1 เดือนก่อน

Supergirl ยังอาศัยอยู่กับ Siobhan ซึ่งทั้งคู่ก็พูดคุยกันตามภาษาเพื่อนสนิท


ซึ่งในตอนนั้นเธอก็ขอให้ Supergirl ช่วยย่างอาหารให้ด้วยลำแสงความร้อนของเธอ และเมื่อ Supergirl ย่างมันจนสุกเกินไปก็ทำให้ทั้งคู่ หัวเราะลั่นออกมา



แต่ตอนนี้ Supergirl ได้กลับกลายเป็น Red Lantern และยิงพลังเพลิงเข้าใส่เธอ


และ Siobhan ก็ไม่รู้ว่าอะไรกันที่เปลี่ยนเพื่อนสนิทของเธอให้กลายเป็นแบบนี้ได้ ซึ่งเธอคิดว่าบางทีอาจจะเป็นคนที่เธอเพิ่งน็อกไป (Lobo) ทำก็ได้ แต่ยังไงก็ตามเธอคิดว่า Kara ยังคงอยู่ในนั้น


ซึ่ง Siobhan ก็เริ่มคิดว่าเธอคิดผิดจริงๆที่มาที่นี่ และคิดว่าบางทีแต่ละคนอาจจะมีปีศาจร้ายของตัวเอง ซึ่ง Supergirl ได้ปลดปล่อยมันออกมาแล้ว และ Siobhan ก็ไม่อยากจะปลดปล่อยมันออกมาด้วย


และแล้ว Supergirl ก็กลายเป็น Red Lantern ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน เพราะตอนนี้แหวนฟ้าที่เหลือคนเดียวอย่าง Saint Walker ก็ไม่สามารถใช้แหวนได้อีกด้วย

Batman Beyond 2.0 #16


ในงานแต่งงานของ Barbara ครอบครัวของเธอต่างมีความสุข และที่ด้านนอก Dick ได้มาหาเธอ


ซึ่งที่จริงแล้ว Dick ก็ไม่คิดจะมา แต่เขาก็อยากจะมากล่าวแสดงความยินดี และมอบของขวัญให้เธอติดตัวไว้ป้องกันตัว นั่นก็คือ Batarang


ปัจจุบัน Barbara นัด Dick ออกมาพบกันที่ข้างนอก


ซึ่ง Dick ก็บอกว่าเธอยังไม่เปลี่ยนไปเลย มาก่อนเขาทุกครั้ง Barbara จึงบอกว่า บางสิ่งอาจจะเปลี่ยนไป แต่บางสิ่งมันก็ไม่เปลี่ยนไปเช่นกัน


เล่มนี้จะเป็นเรื่องราวดราม่าระหว่าง Dick และ Barbara ครับ


New Avengers #15


สมาชิก New Avengers มารวมตัวกันที่ Wakanda แต่ขาดสมาชิกไป 2 คน นั่นคือ Dr.Strange และ Namor โดย Namor บอกว่าเขาติดธุระมาไม่ได้ เว้นแต่โลกจะแตกในวันนี้ ไม่งั้นเขาค่อยมาในอาทิตย์หน้า (สงสัยไปร่วมก๊วน All-New Invade) แต่ทาง Dr.Strange นั้นพวกเขาไม่รับรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น


ซึ่ง Maximus ก็คิดว่า Dr.Strange อาจจะมีแผนในใจแล้ว ทาง Tony จึงถามว่าพวกเขาจะรอไปก่อนหรือไม่? แต่ Reed ก็บอกว่าพวกเขารอไม่ได้แล้ว และให้ Hank อธิบายความคิดของเขา


โดย Hank บอกว่าจากการที่โลกของทั้งสองใบที่พวกเขาเฝ้ามองถูกทำลาย พวกเขารับรู้ถึงศัตรูสองจำพวก Dark Priest ที่ทำลายโลกใบอื่นเพื่อปกป้องโลกของตน และ Mapmakers ระบบปฏิบัติการที่ออกทำลายโลกใบอื่น หรือปล่อยให้โลกทั้งสองใบเข้าปะทะกันเพื่อทำลายทั้งสองจักรวาล ซึ่ง Hank คิดว่าถ้าพวกเขามีเวลาศึกษาศัตรูย่อมทำให้พวกเขาแสดงผลออกมาได้แตกต่างจากทั้งสองโลกที่ถูกทำลายไป แต่เสียดายที่พวกเขาไม่มีเวลา และจึงโยนไม้ต่อให้ Reed เรื่อง เครื่องจักรของเขา


ในที่สุดเล่มนี้ก็น่าจะกลับมายังเรื่องราวของโลกหลักเสียที หลังจาก 2 เล่มที่แล้วต้องมานั่งดูโลกใบอื่นถูกทำลาย ซึ่งที่จริงเหมือนกับเป็นการเปิดตัว Dark Priest กับ Mapmakers เสียมากกว่า


Wolverine New Event "3 MONTHS TO DIE"




มิถุนายนนี้เข้าสู่อีเวนต์ใหม่ของ Wolverine ใน "3 MONTHS TO DIE" หลังจากในซีรี่ส์ปีที่แล้ว Wolverine ได้ถูกไวรัสจากต่างดาวทำลาย Healing Factor ของเขาไป ในตอนนี้ Wolverine กลายเป็นเพียงมิวแทนส์ที่มีเพียงแค่กรงเล็บอดาแมนเที่ยมเท่านั้น เขากลายเป็นบุรุษที่สามารถตายได้ และปีนี้ นักเขียน Paul Cornell ก็กำลังจะนำพา Wolverine ไปพบกับการผจญภัยที่อาจจะเลวร้ายกว่าเดิม

เรื่องราวของ "3 MONTHS TO DIE" จะเริ่มใน Wolverine #8 ที่ช่วงบทนี้จะได้ Kris Anka มาวาดให้ และในเดือนต่อไปตัวเลขจะถูกนับถอยหลังลง จนกระทั่งจบอีเวนต์ในเล่ม Wolverine #12 เดือนกันยายนพร้อตัวเล่มขนาดพิเศษ (ในเดือนกรกฎาคมจะใช้ว่า 2 MONTHS TO DIE)

โดยตัวนักเขียนก็พูดถึงการที่เขานำเอา Healing Factor ออกไปจากตัว Wolverine ว่า "แฟนๆหลายคนนั้นตั้งคำถามกับ Marvel กล้าเสี่ยงที่จะเอา Healing Factor ไปจาก Logan ได้อย่างไร มันคือสิ่งที่แสดงถึงตัวตนของตัวละครตัวนี้" ใช่แล้ว ถ้าพูดถึง Wolverine เราย่อมนึกถึงนักสู้มิวแทนส์ที่ดาหน้าเข้าใส่วายร้ายอย่างไม่กลัวตาย และทาง Marvel ก็กล้าที่จะเอามันออกไป และนั่นทำให้ Wolverine ได้พบกับสนามต่อสู้แห่งใหม่ ที่เขาจะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดในการต่อสู้ มันอาจจะเป็นสิ่งที่หวาดกลัวของตัวละครตัวนี้ แต่กลับกันมันคือเนื้อเรื่องที่น่าสนใจของผู้เขียนและผู้อ่าน


Wolverine #8 Cover by Ryan Stegman

ในส่วนของ "3 Months to Die" นั้น พวกเขาจะพูดถึงตัว Wolverine ที่ตอนนี้เปรียบเสมือนคนธรรมดา และแสดงออกมาว่าแบบนั้นมีความหมายอย่างไรกับตัวเขา, ทีม X-Men และจักรวาลมาเวล ซึ่งแน่นอนว่าในตอนท้ายมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะส่งผลไปยังเล่มอื่นๆด้วย ซึ่งพวกเขาก็ค่อนข้างประหลาดใจที่ทาง Marvel ให้พวกเขาทำได้

และพวกเขาก็ทิ้งท้ายไว้ว่า อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจนกว่าคุณจะได้ลองอ่าน

สรุปจาก : CBR

Justice League 3000 #4


Ariel ได้กลับมายัง Takron Galtos อีกครั้ง หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับ Tariq เรื่องของสมาชิก Justice League ซึ่งจริงๆแล้วเธอไม่ชอบการเดินทางข้ามประตูมิติของเธอเลย เพราะมันทำให้ตัวเองเธอรู้สึกไม่ดี แต่อย่างน้อยระบบปิดตัวเองของมันก็ทำงานได้ ทำให้เธอมั่นใจว่าจะไม่มีใครไล่ตามเธอมา


ทางด้าน Tariq ก็กำลังพาพวก Justice League ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปหาเธอ


ซึ่ง Batman ก็สงสัยว่าทำไม Tariq ถึงต้องพาพวกเขาลงมายังทางใต้ดิน ทาง Tariq จึงบอกว่า Coeval มีหูมีตาอยู่ทั่วที่ด้านบน เขาต้องระวังตัวไว้ และนอกจากนี้ Ariel เองก็กำลังโดน The Five ตามล่าอยู่อีกด้วย และพวกเขาเองก็เพิ่งโดน Locus ไล่ส่งมาที่นี่ ทาง Superman ก็บอกว่าเขาไม่กลัว Locus หรอก ถ้าออกไปได้ เขานี่แหละที่จะหักคอหล่อนเอง ทำเอา Tariq กลุ้มเลย ว่า Ariel จะผิดหวังแค่ไหนถ้าเห็น Superman คนนี้ เพราะเธอเป็นเหมือนกับ "แม่" ของพวกเขา


ทางด้าน Cadmus

Teri และ Terry ก็เครียดจัดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทาง Terry จึงต้องการจะปลอบและให้กำลังใจ Teri


ซึ่ง Teri คิดว่า ถ้าพวกเขาสร้างสิ่งที่ผิดพลาดอันหนึ่งออกมาก็ไม่ควรจะสร้างมันขึ้นมาอีก แต่ทาง Terry กลับบอกว่า พวกเขาจะสร้างให้ดีกว่าเดิม และเขารู้ดีกว่า Teri อาจจะรู้สึกผิด แต่ตอนนี้ทั่วทั้งจักรวาลกำลังเจ็บปวดและสิ้นหวัง ซึ่งความเจ็บปวดของพวกเขานั้นเทียบไม่ได้หรอก Teri จึงถามถึงความเจ็บปวดของคนที่อาสาล่ะ Terry จึงบอกว่าคนที่อาสาเข้าโปรเจ็คนี้ต้องเตรียมพร้อมสำหรับความเจ็บปวดพวกนั้นอยู่แล้ว


จากที่อ่านมาเป็นไปได้ว่า Justice League กลุ่มนี้ ก็คือคนธรรมดาที่อาสาเข้าร่วมการดัดแปลงพันธุกรรมครับ แต่จะจริงหรือไม่ก็ต้องติดตามกันต่อไป


All-New X-Men #24


ที่ลานพิพากษา

Gladiator ได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น และถาม Y.Jean ว่าเธอยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่แก้ต่างให้ตนเองเลย ใช่หรือไม่ แต่ก่อนที่จะบานปลายกว่านั้น ใครบางคนก็เข้ามาขวางเขาไว้



และเขาก็คือ J-Son แห่ง Spartax ซึ่งได้ขึ้นมาแก้ต่างให้ Y.Jean และบอก Gladiator ว่าแต่ละเผ่าพันธุ์ล้วนมีความเกลียดชังต่อ Phoenix แต่ถ้าคิดให้ดี เป็นพวก Shi'ar ไม่ใช่หรือที่เริ่มก่อน ในอดีตพวกเขาก็ส่งคนลงไปสังหารล้างครอบครัว Gray แล้วตอนนี้ก็ลักพาตัวเธอมาอีก ถ้าเธอเป็น Phoenix จริงๆ เขาคิดหรือว่าเธอจะปล่อยให้พวกเขายืนอยู่ตรงนี้ ซึ่งเรื่องนี้ Y.Jean นั้นไม่เคยรู้มาก่อน



ทางด้าน Guardians และ X-Men ก็ใช้ Angela เป็นเหยื่อล่อให้พวก Shi'ar ไขว้เขว ซึ่ง Drax และ Gamora ก็คิดว่ามันน่าจะมีทางออกอื่นที่ดีกว่านี้


บทที่ 5 ของ "The Trail of Jean Gray" ออกพุธนี้ครับ


Fantastic Four #2


จากตอนท้ายในเล่มที่แล้ว ประตูของ Negative Zone เกิดเปิดออก จนทำให้เหล่าสัตว์ร้ายหลุดออกมา และนี่คือเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่จุดจบของ Fantastic Four ตามบันทึกของ Sue Richard

เรื่องราวมันเกิดขึ้นในช่วงเวลาตอนดึกที่ตึก Baxter


ตึกส่วนบนเกิดระเบิดอย่างรุนแรง Johnny ได้รีบพุ่งตัวกลับมาในทันที ทาง Reed และ Sue ได้รีบวิ่งตามไปดูลูกๆของพวกเขา


และพบว่าลูกของเขากับเด็กๆปลอดภัยดี ด้วยความช่วยเหลือของ Dragon Man ทางด้าน Ben ที่ตามมาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น Johnny จึงตอบให้ว่าเกิดระเบิด จนตึก Baxter เกิดถล่ม


ซึ่ง Reed ก็ไม่เชื่อ เพราะเขาออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยของตึกนี้เป็นอย่างดี Johnny จึงอธิบายว่าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะตึก 3 ชั้นบนพังพินาศ แถมที่แย่กว่านั้นตอนนี้มีสัตว์ประหลาดหลุดออกมาทำร้ายผู้คนไปทั่วท้องถนน


งานภาพเล่มนี้สวยเช้งเลยทีเดียว เนื้อเรื่องก็โอเค และจากที่เห็นมันเกิดเหตุจากตึก Baxter ย่อมต้องทำให้ Fantastic Four ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่แล้ว แต่เรื่องราวจะจบลงอย่างไร นี่คือสิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไป

7 comments:

  1. ผมว่ายังต้องมี Healing Factor อยู่แน่ๆ แต่ไม่แสดงผลออกมา เพราะถ้าจำไม่ผิด Healing Factor ก็เป็นสิ่งที่ทำให้วูฟไม่ตายจากอาการอดาแมนเทียมเป็นพิษ

    ReplyDelete
    Replies
    1. แต่ล่าสุด Hank เป็นคนคิดค้นตัวยาที่ทำให้อดาเมทนเที่ยมยังคงตัวอยู่ได้ครับ ไม่ใช่ผลจาก Healing Factor

      Delete
    2. ถ้าได้ healing factor กลับมาแล้วหน้ากลายเป็นแบบเดดพูลนี่ก็ไม่ไหวนะฮะ 5555

      Delete
  2. Dick หรอ? นึกว่า Nick Fury
    หรื่อว่า.... Dick Fury ???

    ReplyDelete
  3. Saint Walker ใช้แหวนไม่ได้เพราะอะไรเหรอครับ แล้วทำไมเหลือคนเดียวแล้วละ

    ReplyDelete
    Replies
    1. โดน Relic ทำลายไปทั้งคอร์ปในช่วง Light Out ครับ ทำให้ Saint Walker เริ่มหมดสิ้นในความหวัง แต่เขาก็กำลังเดินทางตามหาความหวังในตัวเขาอยู่ โดยมีแหวนวงสุดท้ายของเขาเองคอยตามไปด้วย

      Delete
  4. ตั้งแต่ช่วงกองทัพที่สามละ DCทำร้ายเซนต์วอคเกอร์จริงๆ....

    ReplyDelete