Spider-Verse Team-Up #2

Spider-Verse Team-Up #2

วางจำหน่าย : 10 ธันวาคม 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

Miles และ Ultimate Spider-Man มายังโลกปี 67 เพื่อมาขอยืมกำลังจาก Spider-Man ในยุคนี้

Spider-Gwen ได้มาทำภารกิจที่มีแต่เธอเท่านั้นที่จะทำได้ เพราะ Peter ในจักรวาลที่เธอมานั้น ได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะการตายของเธอ!

Too Many Spider-Men

เรื่องโดย : Christos Gage ภาพโดย : Dave Williams

ในโลกของ Spider-Man ยุค 60's

Peter ถูก Jonah เรียกมาหาให้ไปทำข่าวของ Spider-Men อีก 2 คน ที่โผล่มาโหนใยไปมาในเมือง ซึ่ง Peter ก็คิดว่าพวกนั้นอาจจะเป็นตัวปลอมเหมือนก่อนหน้านี้ ส่วน Jonah คิดว่า Spider-Man ต้องเผยธาตุแท้ออกมาแล้วแน่ๆ จึงอยากให้ Peter ไปหาข้อพิสูจน์ ซึ่ง Spider-Men ที่ว่าก็คือ

Ultimate Spider-Man : เฮ้ ไมล์ ไม่คิดว่าพวกเราโหนใยผ่านบล็อกเดิมนี่มาประมาณ 6 รอบแล้วเหรอ?

Miles : เมืองนี้มันดูเหมือนกันไปหมดสำหรับฉัน เอาเป็นว่าอยู่ใกล้ เดลี่ย์เพลย์เน็ตไว้ เพราะเราต้องหา สไปเดอร์แมน ของโลกนี้ให้เจอ

Ultimate Spider-Man : ก็จริง โอ๊ะ...

Ultimate Spider-Man : ฉันว่าเราเจอแล้วล่ะ!

และแล้วทั้งคู่ก็หา Spider-Man 60's เจอ

Spider-Man 60’s : ให้ตายสิ มันเป็นเรื่องจริง! ฉันไม่รู้นะว่าพวกนายเป็น ชาร์ล คาเมโอ้ หรือมิสเทริโอ้ หรือใครก็ตาม แต่พวกนายทำพลาดไป 2 อย่าง อันดับแรกคือพวกนายใช้ชุดผิด...

Spider-Man 60’s : … และอีกอย่างถึงจะเป็นคนที่สามารถทำทุกอย่างที่แมงมุมทำได้ ก็ไม่สามารถที่จะอยู่ที่ไหนพร้อมกันสองคนในที่เดียวได้!

Spider-Man 60’s : เอาล่ะ ทีนี้ เจ้าพวกตัวปลอมถึงเวลาถอดหน้ากากและยอมแพ้แล้ว หรือไม่งั้นฉันจะใช้ใยมัดพวกนายไว้ แล้วไปถอดกันที่สถานทีตำรวจ จะเลือกข้อไหน!

Ultimate Spider-Man : ถอยไปก่อน ไมล์ ฉันว่าฉันรู้แล้วว่านี่เป็นโลกแบบไหน ฉันจะคุยกับเขาในภาษาที่เขาน่าจะเข้าใจเอง

Ultimate Spider-Man : มาคุยกันหน่อยนะ เจ้าคุณพ่อ ตอนนี้มันกำลังมีเรื่องใหญ่อยู่ข้างนอกนั่น และพวกเราไม่มีเวลาที่จะมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้

Spider-Man 60’s : สรุปคือเลือกทางโดนจัดหนักสินะ!

Ultimate Spider-Man : เอาจริงดิ! นี่มันใยแมงมุมหรือผ้าห่มกันแน่เนี่ย?

Spider-Man 60’s : แล้วสำหรับนายล่ะ?

Miles : เดี๋ยวก่อนครับ พวกเราไม่ใช่คนร้าย เราเป็นไอ้แมงมุมจากมิติอื่น พวกเราต้องการความช่วยเหลือของคุณในการจัดการกับกองกำลังวายร้ายที่แม้แต่กองกำลังแมงมุมเท่านั้นที่จะจัดการได้... มันฟังดูบ้าบอสุดๆไปเลยใช่มั้ยเนี่ย?

Spider-Man 60’s : มิติอื่น นั่นอธิบายได้หมดทุกอย่างเลย แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่า?

Miles : นี่คุณเชื่อพวกเราเหรอครับ?

Spider-Man 60’s : แหงสิ ฉันเคยเจอไอ้แมงมุมจากมิติอื่นมาก่อน ชุดของพวกเขาก็น่าเกลียดพอๆกับนายนี่แหละ ไม่รู้สึกว่ามันมีลายใยแมงมุมเยอะเกินไปหน่อยหรือไง?

Ultimate Spider-Man : มาเข้าเรื่องกันเลย มันมีกลุ่มแวมไพร์ที่เรียกตัวเองว่า อินเฮริเตอร์ พวกมันเดินทางไปยังมิติต่างๆและฆ่าพวกแมงมุมทุกคนที่พวกมันเจอ

Ultimate Spider-Man : และทางเดียวที่พวกเราจะสู้กับพวกมันได้ก็คือการรวบรวมกองกำลังแมงมุมจากมิติอื่นๆ และพวกเราก็กลุ่มที่ทำการตามหาสมาชิกเหล่านั้น! มาลงเรือลำเดียวกันเถอะ เพื่อนฝูง!

Ultimate Spider-Man : เอ้อ บอกตรงๆนะท่านผู้ชม หมอนี่ค่อนข้างจะบ้านนอกพอตัว ไม่รู้ให้เขามาเข้าร่วมนี่จะเป็นทางเลือกที่ดีจริงๆหรือเปล่า เพราะเขามีสิทธิที่จะร้องไห้ขี้มูกโป่งเหมือนเด็กๆก็ได้

Spider-Man 60’s : เขาพูดกับใครเนี่ย?

Miles : ผมว่าเขาเองก็ไม่รู้หรอกมั้ง

Ultimate Spider-Man : ประเด็นของฉันก็คือ คุณพอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าเรื่องนี้มันจริงจังแค่ไหน

Spider-Man 60’s : แน่นอน และฉันก็อยากจะช่วย แต่ฉันก็ยังมีงานที่ต้องสะสางที่นี่

Spider-Man 60’s : รู้มั้ย ว่า ด็อคเตอร์ โนอาฮ์ บ็อดดี้ หลบหนีออกจากคุกได้อีกแล้ว แถมเขายังรวบรวมวายร้ายของฉันไปกับเขาด้วย

Ultimate Spider-Man : “โนอาฮ์ บ็อดดี้”? ขอร้องล่ะ นี่มันเรื่องตลกใช่มั้ยเนี่ย? ชื่อนี่มันตลกเป็นบ้า

(Noah Boddy เหมือนคำพ้องเสียงว่า No Body ที่แปลว่าไม่มีร่าง)

Spider-Man 60’s : มองไปรอบๆสิ นายคิดว่าฉันโกหกหรือเปล่า?

??? : แกตลกเสมอนั่นแหละ พ่อสมองมีแต่ใย! ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เหล่าวายร้ายปรากฎตัวออกมาแล้ว และ Spider-Men ก็แย่งกันจัดการพวกนั้นเป็นการใหญ่ โดย Ultimate Spider-Man กับ Miles คิดว่า Spider-Man 60’s นั้นไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ แต่ Spider-Man 60’s ไม่คิดแบบนั้นเพราะเขาเคยจัดการพวกมันมาก่อนหน้านี้แล้วทั้งหมด

Miles เลยเริ่มเห็นด้วย เพราะนี่คือจักรวาลของ Spider-Man 60’s แต่พวกเขากลับพลาดใครบางคนไปนั่นก็คือ Dr. Noah Boddy ที่ล่องหนได้ และมันได้ยิงปืนรังสียูเรเนี่ยมเข้าใส่ Spider-Men ทั้งสามจนลงไปชักแหง็กๆ ซึ่งถ้าพวกเขาโดนยิงอีกนัดเดียวก็จะเสร็จในทันที แต่ Green Goblin ก็มาขวางไว้เสียก่อน เพราะ Noah Boddy นั้นดันบอกว่าโลกใต้ดินจะต้องเป็นของมัน ซึ่ง Green Goblin ไม่คิดแบบนั้น

และพวกนั้นก็เริ่มที่จะแตกคอกันเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ Spider-Man 60’s เคยทำกับพวกมันมาก่อน ด้วยการพูดแทนพวกมัน (คล้ายๆออกเสียงแทนวายร้ายสักคนแล้วทำให้เข้าใจผิดจนตีกันเอง)

Miles : นี่มันสถานการณ์จริงจังนะ เป็นช่วงเวลาของความเป็นและความตาย มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะเคย...

Spider-Man 60’s : ฉันเข้าใจที่นายพูดนะ เพื่อน เพราะลุงเบ็นของฉันถูกฆ่าเนื่องจากฉันไม่ลงมือให้ทันเวลา ฉันรู้ดีว่าฉันต้องทำอะไรเมื่ออยู่ในสถานการร์คับขันแบบนี้

Miles : แน่นอน... ผมรู้ว่าคุณเป็นแบบนั้น เพราะผมไล่ตามคุณในฐานะมือสมัครเล่นมาก่อน... ซึ่งมันก็ค่อนข้างทำให้ผมไม่ค่อยชอบใจอยู่บ้างเวลาที่คนอื่นมาทำกับผม

Miles : งั้นตามนั้น พวกเราจะตามที่แนวทางของคุณ แต่ถ้าพวกเราจะรอดจากสถานการณ์นี้ไปได้ ทั้ง 2 คนต้องฟังที่ผมพูด...

ทางพวกวายร้ายก็เริ่มที่จะหาเรื่องใส่ Noah Boddy แต่บางคนก็ยังเกรงกลัวปืนของเขาอยู่บ้าง และเมื่อได้จังหวะ Ultimate Spider-Man ก็ยิงใยเข้าใส่ขาของ Green Goblin

เพื่อดึงให้มันล้มเข้าหา Noah Boddy จนอีกฝ่ายคิดว่าถูกเล่นงานทีเผลอและยิงปืนเข้าใส่ Green Goblin กับ Scorpion ก่อนที่ Miles จะลอบเข้าไปจัดการ Noah Boddy เสียเอง

Spider-Man 60’s : เป็นพลังที่ยอดเยี่ยมมาก เพื่อนเอ๋ย!

Ultimate Spider-Man : ใช่มั้ยล่ะ ฉันล่ะอิจฉาเรื่องฝ่ามือพิษนั่นจริงๆ ส่วนไอ้เรื่องพลังพรางตัวนั่นน่ะช่างมันเหอะ เพราะใครเล่าอยากจะซ่อนตัวในเมื่อเรามันทั้งหล่อและเท่เสียขนาดนี้?

และเมื่อเสร็จเรื่องพวกเขาก็เตรียมตัวที่จะไปกันต่อ

Miles : พวกเราควรจะไปโลกต่อไปกันได้แล้ว เพราะตอนนี้เวลากำลังน้อยลงทุกที... สำหรับพวกเราทุกคน

Spider-Man 60’s : แต่ฉันต้องไปบอก ป้าเมย์ ก่อนว่าฉันจะไม่กลับมาสักพัก... แล้วก็ เจมสัน กับ เบ็ตตี้ ด้วย

Ultimate Spider-Man : งั้นให้ฉันช่วยมั้ย จะได้ประหยัดเวลาหน่อย... เพราะจากที่คิดพวกเราก็ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ทั้งคู่นี่ พวกเราก็น่าจะดูเหมือนกัน

Miles : ฉันไม่มั่นใจหรอกนะ ว่ามันจะได้ผลน่ะ

Peter 60’s : ก็นะ ตัวตนของฉันไม่ใช่ความลับสำหรับพวกนายทั้งคู่อยู่แล้ว ฉันเลยไม่คิดว่ามันจะ... เดี๋ยวก่อน ปีนกำแพง แล้วโหนใยให้ตายเถอะ!

Peter 60’s / Ultimate Peter: นี่นายเดินอยู่ข้างนอกแบบนั้นเนี่ยนะ?

จากนั้นไม่นาน...

Peter 60’s : ฉันไปบอก ป้าเมย์ แล้ว ว่าฉันจะไปเที่ยวกับทางโรงเรียน แล้วว่าแต่ทางฝั่งนั้นเป็นไงบ้าง?

Ultimate Spider-Man : ก็ไม่มีปัญหา แต่หมอนั่นดูจะผิดสังเกตนิดหน่อย แต่เขาก็แค่เรียกฉันว่า ฮิปปี้ แล้วก็สั่งให้ไปตัดผม

Miles : ผมก็อยากจะช่วยนะ แต่ผมคิดว่า... มันคงจะยากถ้าจะให้บอกว่าผมเป็นคุณ

Peter 60’s : ไม่อยากจะเชื่อ นี่เธอ...เป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยมต้น! ฉันคิดว่าเธอจะแก่กว่านี้เสียอีก อันนี้ไม่ได้ว่ากันนะ แค่ที่เห็นจากทักษะของเธอน่ะ

Miles : ...งั้นมั้ง?

Miles : ไม่สิ ผมก็ว่างั้นแหละ

Miles : เอาล่ะ... ทีนี้ สไปเดอร์เม็น ถึงเวลาลุยกันแล้ว แล้วคุณจะว่าไงล่ะ ถ้าพวกเราจะไปช่วยจักรวาลมัลติเวิร์สด้วยกัน?

Ultimate : อ้อ จริงๆคงไม่ต้องให้บอกหรอกมั้ง แต่ติดตามต่อได้ใน สไปเดอร์เวิร์ส นะครับ ท่านผู้ชม

A Spider In The Dark

เรื่องโดย : Gerry Conway  | ภาพโดย : Steven Sanders

Earth-21205

Spider-Gwen มีภารกิจมายังที่นี่ แต่ดูเหมือนเธอกำลังไล่ตามคนที่คล้ายกับพวก Goblin อยู่

และด้วยระเบิดของ Goblin ก็ทำให้พวกเธอพบกับคนของ Verna ที่ไล่ตามมา เธอจึงคว้าเอาระเบิดออกมาเขวี้ยงใส่พวกนั้น จน Goblin เองก็งงไปหมดว่าตกลงอะไรเป็นอะไรกันแน่

Peter : เจ้าพวกวายร้ายเมื่อกี๊มันใครกัน? และแต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ...

Peter : ...เธอเป็นใครกัน? เธอไล่ตามฉันมา พาฉันไปพบกับการไล่ล่าของผู้หญิงบ้าคนนั้นและสมุนของเธอ... มันดูเหมือนเธอจะรู้จักฉัน แต่ฉันดันไม่รู้จักเธอเลย

Spider-Gwen : จริงๆแล้วเธอรู้จักฉันนะ ปีเตอร์ หรือควรจะบอกว่าเคยรู้จักดีล่ะ

Spider-Gwen : แต่ฉันแค่ไม่ใช่ตัวฉันเองที่เธอเคยรู้จัก

Peter : ก่ะ...เกว็น?

Peter : แต่มัน....เป็นไปไม่ได้... ฉันเป็นคนที่ฆ่าเธอ

Peter : ฉันเป็นคนฆ่าเธอ

Peter : และจากนั้นฉันก็ฆ่ามัน

Peter : ฉันฆ่าพวกนั้น คนแรกก็เกว็น คนถัดมาคือเจ้าก็อบลิน และเมื่อพวกเขาตายไปทั้งหมด คนสุดท้ายที่ต้องตายก็คือ สไปเดอร์แมน

Spider-Gwen : ฉันเข้าใจ เพราะในจักรวาลของฉัน ฉันคือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องตาย ฉันรู้ว่ามันรู้สึกยังไง...

Peter : ไม่จริง!

Spider-Gwen : มันเป็นเรื่องจริง ความเศร้าโศก ความรู้สึกผิด และความคิดเกี่ยวกับพลังที่มาพร้อมความรับผิดชอบ

Spider-Gwen : ฉันเปลี่ยนอดีตของเธอไม่ได้ ปีเตอร์ แต่ด้วยสิ่งนี้...

Spider-Gwen : ฉันสามารถที่จะเปิดหนทางให้เธอกลับไปเป็นคนที่เธอสมควรจะเป็นได้

Peter : มันคืออะไร?

Spider-Gwen : มันเป็นเหมือนเครื่องสร้างประตูมิติ มันมี ปีเตอร์ จากหลายมิติความเป็นจริง ตอนนี้โลกของเหล่าแมงมุมกำลังมีอันตรายร้ายแรง

Spider-Gwen : และฉันถูกเลือกให้มาตามหาเธอ ปีเตอร์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา... แต่ตอนนี้โลกใบอื่นต้องการเธอ ฉันต้องการเธอ

Peter : ผู้หญิงคนนั้น ที่เธอเรียกว่า เวอร์น่า หล่อน...

แต่แล้วประตูมิติก็ถูกเปิดขึ้นระหว่างพวกเขา

และมันคือการมาของ Verna

Verna : ข้าได้กลิ่นเลือด... เลือดของแมงมุมที่น่าอร่อย เหล่าหมาล่าเนื้อ.... ไปเอาตัวมันมา

Peter ที่เห็น Gwen ได้รับบาดเจ็บได้วิ่งเข้าไปหาเธอก่อนที่พวกคนอื่นๆจะไปถึง

Peter : เกว็น ไม่ ไม่นะ

Peter: อย่าตายนะ... ฉันขอร้อง... ไม่เอาอีกแล้วนะ

Spider-Gwen : ....ไง ปีเตอร์....เธอเป็นไงบ้าง?

Peter : ฉันไม่เป็นอะไร

Peter : แต่ฉันเป็นคนที่ดีกว่านี้ได้

Peter : บางทีฉันอาจจะกลายเป็นผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าฉันเป็น...

Peter : ...แต่บางทีฉันอาจจะเป็นได้ดีกว่าตัวฉันคนเดิมที่ตายไปแล้ว

Peter ในชุด Goblin ได้พุ่งผ่านพวกหมาล่าเนื้อของ Verna และใช้ระเบิดเล่นงานพวกมัน

แต่เขาก็โดน Verna จับตัวไว้ได้

Verna : นี่แกบ่นอะไรของแก? แกไม่ใช่ “คน” ที่ดีหรือไม่ดีหรือแย่อย่างที่ว่า

Verna : แกเป็นแค่อาหารของพวกเรา

Verna : ฉันกินแมงมุมอย่างพวกแกเป็นอาหาร ทั้งมือเช้า, มื้อกลางวัน และมื้อเย็น

Peter ที่โดนเล่นงานกลับยิ้มออกมา พร้อมเสียง “กริ๊ก” ที่ตามมา

Peter ตัดสินใจใช้ระเบิดในระยะประชิดกับ Verna แม้ตัวเขาจะต้องโดนไปด้วยก็ตาม

Spider-Gwen : ปีเตอร์! โอ พระเจ้า ไม่นะ...

Peter : อย่า... อย่าร้องไห้ไปเลย....

Spider-Gwen : ฉันคิดว่าฉันน่าจะช่วยเธอได้

Peter : เธอได้ทำแล้ว

และ Peter ที่กลับตัวได้ก็จากไปในที่สุด

Spider-Gwen : เขาตายแล้ว และแกจะเป็นคนต่อไป!

Spider-Gwen ได้ฝากคำพูดไว้ก่อนที่จะหนีเข้าไปในประตูมิติ

Verna : ฉันไม่เห็นว่าแกควรจะยิ้มให้อะไรเลย คิดว่าโง่เง่าเสียมากกว่า ที่ต้องมาทิ้งชีวิตไปแบบนี้

Verna : ทำให้ฉันต้องเสียอาหารที่มีค่าไปอีกหนึ่งมื้อ

จบบท

เล่มหน้าเล่มสุดท้ายของ Team-Up พบกับ 

ภารกิจที่ต้องรวบรวมเหล่าแมงมุมถึง 5 คนในภารกิจเดียว มันคืออะไรกันแน่?

อีกด้าน Mayday ก็ต้องไปทำในภารกิจเสี่ยงอันตรายกับแมงมุมปริศนา เขาคือใครกัน? 

คุยกันท้ายเล่ม

ก็เป็นอันจบไป กับอีก 1 เล่มของ Spider-Verse นะครับ ส่วน Scarlet Spiders คงต้องขอให้รออีกสักพัก เพราะเร็วๆนี้จะขอลงเป็น AXIS #9 และ All-New Captain America #2 ก่อนนะครับ