Wednesday, October 7, 2015

The Amazing Spider-Man #1

The Amazing Spider-Man #1

เรื่องโดย : Dan Slott | ภาพโดย : Giuseppe Camuncoli

Marvel Comics


เปิดฉากเรื่องราวบทใหม่ของ Spider-Man กับการก้าวเข้าสู่ระดับโลก!

Peter Parker ได้กลายเป็นเจ้าของ Parker Industries ที่ตอนนี้กลายเป็นบริษัทใหญ่ที่เปิดสาขาทั่วโลก แล้วมันจะนำพาปัญหาอะไรมาให้เขากันแน่?


Spidey ก้าวสู่เวทีระดับโลก

Peter Parker มักจะพบกับปัญหาที่ถาโถมเข้าในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะในชีวิตส่วนตัวของเขาเอง หรือในอีกฐานะหนึ่ง นักโหนใย, จอมไต่กำแพง สไปเดอร์แมน แต่หลังจากใช้ชีวิตปราบปรามเหล่าร้ายมาหลายปี มันดูเหมือนว่าเขาจะสามารถจัดการกับชีวิตของตัวเองได้สักที

เพราะเพื่อนบ้านที่แสนดีของเขากำลังจะเข้าสู่อีกระดับที่ยิ่งใหญ่ขึ้น!

“ก้าวสู่ระดับโลก”


Peter : ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่...

Peter : มันมาพร้อมกับ... ความเร็ว, ความจุ และแบตเตอร์รี่ที่มากขึ้น

“ยินดีต้อนรับสู่ เว็บแวร์ จาก ปาร์คเกอร์อินดรัสทรี่ย์ ที่ตอนนี้ได้เปิดให้บริการแล้วทั่วโลก”

“มันจะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ได้อย่างสะดวกสะบาย”

“ด้วยสัญญาณที่คมชัด”

“และข้อมูลที่ไร้ขีดจำกัด”

“ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตามบนโลก”

Spider-Man : และแน่นอนว่าเพื่อนบ้านที่แสนดีของผมเองก็ใช้มันด้วยเช่นกัน!

Spider-Man : เว็บแวร์! เมื่อคุณพร้อมที่จะเชื่อมต่อกับทั่วโลก

Peter : สิ่งดีๆจาก เพื่อนที่แสนดีของพวกคุณจาก... ปาร์คเกอร์อินดรัสทรี่ย์


เซี่ยงไฮ้

รถของโจรกลุ่มหนึ่งได้ขับออกมาบนท้องถนน พร้อมยิงปืนพลังงานเข้าใส่สิ่งที่ไล่ตามพวกเขามา


และนั่นก็คือ Spider-Mobile ที่ขับขี่โดย Spider-Man และ Mocking Bird

Spider-Man : ดู-บา-บา-ดู สไปเดอร์แมนและม็อคกิ้งเบิร์ด!

Mocking Bird : นี่นายกำลังทำอะไรเนี่ย?

Spider-Man : ก็เพลงธีมของพวกเราไง ดู-บา-บา-ดู ไล่ตามพวกเหล่าร้าย!

Mocking Bird : ขอล่ะ นายร้องได้แย่มาก

แต่ Spider-Man ก็ไม่สนและเปิดระบบให้ Spider-Mobile ช่วยร้องตามไปด้วยอีกเสียง แต่ Fury ก็ติดต่อเข้ามาขัดจังหวะซะก่อน โดยเขาได้สอบถาม Mocking Bird ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับกลุ่ม Zodiac ที่กำลังไล่ตามอยู่ เธอจึงรายงานว่า พวกกลุ่มสิงโตได้บุกเข้าไปใน Parker Industries สาขาเซี่ยงไฮ้ และผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปเชื่อมต่อกับ Webware ได้ ทำให้พวกนั้นอาจจะได้ข้อมูลที่สามารถทำการแบล็กเมลล์ไปทั่วโลกได้

Fury : ทำสิ่งที่เธอต้องทำ บ็อบบี้ จะปล่อยให้ข้อมูลพวกนั้นไปตกอยู่ในมือของ โซดิแอ็ค ไม่ได้เด็ดขาด

Spider-Man : หรือไม่งั้น พวกชิลด์ ก็ต้องกลับไปที่ ปาร์คเกอร์อินดรัสทรี่ย์

Fury : เล่นมุขได้ขำดีนี่ พ่อนักโหนใย

Spider-Man : เสียใจ แต่หนนี้ไม่ใช่เรื่องตลก


Spider-Man : ฉันคิดว่า มันต้องมีการจัดฉาก, จ่ายเงินใต้โต๊ะ และบางทีอาจจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม เชื่อฉันสิ ว่านายจะต้องเจออะไรแบบนั้นแน่ๆ

Fury : แต่...

Spider-Man : ถ้าพวกนายยังอยากให้ฉันออกแบบเทคโนโลยีให้กับชิลด์อยู่ นายต้องปิดจอลงใน สาม สอง...

Fury : ก็ได้ ตามใจ ทำตามที่นายต้องการแล้วกัน

Spider-Man : ก็เพราะแบบนั้นแหละ... ฉันถึงได้มานั่งอยู่บนรถนี่ไง

Mocking Bird : เกี่ยวกับเรื่องนั้น ทำไมอยู่ดีๆนายถึงได้ขับรถเก่งแบบนี้กัน?

Spider-Man : ก็ไปขัดเกลา ประสาทสัมผัสกับปฏิกิริยาตอบสนองของแมงมุมมานิดหน่อย... กับบทเรียนส่วนตัวอีกนิด

และบทเรียนที่ว่าก็หนักหนาพอดู เพราะคนสอนต้องบอกให้เขาเหยียบเบรกอยู่หลายรอบ แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าหู Peter เลยสักนิด


กลุ่มวายร้ายเมื่อเห็นว่ายิงไม่โดนสักทีเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปยิงที่พื้นแทน


และมันก็ดูจะสำเร็จ แต่แท้จริงแล้ว Spider-Mobile ได้ไต่ลงมาวิ่งอยู่บนเส้นทางใต้ทางยกระดับแทน และ Spider-Man ก็ส่งต่อพวงมาลัยไปให้ Mocking Bird ที่ไม่รู้จะขับต่อไปอีท่าไหน


จากนั้น Spider-Man ก็ปีนออกมาด้านนอก พร้อมส่งเสียงขอบใจชาวเซี่ยงไฮ้ที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น ทำเอา Mocking Bird ถึงกับงงว่าเขาไปเรียนภาษามาตอนไหน ซึ่งมันก็ได้มาจากช่วงบทเรียนส่วนตัวนั่นเอง เพราะคนสอนต้องบอกคำว่า ‘เบรก’ เป็นภาษาจีนเขาถึงจะเข้าใจ


เมื่อถึงระยะทางที่กะไว้ Spider-Man ก็สั่งให้ Spider-Mobile เปลี่ยนโหมดและขึ้นมาดักรถของพวกกลุ่มสิงโตที่ด้านบนจนทำให้พวกมันตกใจทันที และเขาก็โดดขึ้นไปบนรถของพวกนั้น


แล้วเขาก็เปิดตัวใยแมงมุมแบบใหม่ ที่เป็นการผสานของขดลวดขนาดไมโครซึ่งสามารถที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาได้ เมื่อทำให้พวกนั้นเสียหลักสำเร็จแล้วเขาก็เปลี่ยนใช้ใยอีกแบบที่บอกว่าชอบที่สุด นั่นคือใยโฟม


ซึ่งมันจะช่วยรับแรงกระแทกจากรถที่พุ่งเสียหลักจนเข้าไปชนสิ่งของข้างหน้า โดยใยทั้งหมดนี้ยังเป็นตัวทดสอบอยู่ และเขาก็เอามาใช้ทดสอบกับพวกนี้


เมื่อจบเรื่อง Spider-Man ก็ลงมาผู้ขับขี่รายอื่นๆว่าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า แต่มันก็เปิดโอกาสให้พวกวายร้ายหนีไปได้

Spider-Man : มันอาจจะดูเป็นแบบนั้น แต่ที่จริงแล้ว ฉัน...

Spider-Man : ก็แค่มอบหมายหน้าที่ต่อให้คนอื่นก็เท่านั้นเอง

และนั่นย่อมเป็น Mocking Bird


Mocking Bird : เป็นฉันตลอดที่ต้องมาปิดงาน!

Mocking Bird : นี่เป็นครั้งที่สามแล้วในรอบเดือน พวกโซดิแอคต้องการข้อมูลอะไรจากเซิร์ฟเวอร์กันแน่? พูดมา!

Leo : มันไม่ได้ผลหรอก สายน้อย

Leo : พวกแกจะไม่ได้อะไรไปจาก โซดิแอค

Leo ได้คิดที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกดสวิตซ์ที่ฟันของมัน


แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะ Spider-Man ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว

Mocking Bird : นายเตรียมยาแก้พิษของ โซดิแอค ไว้แล้ว? โอเค อันนี้ทำให้ฉันประทับใจมากจริงๆ

Spider-Man : ก็นะ เจออะไรแบบนี้มาเป็นเดือนแล้ว เริ่มที่จะเบื่อกับเรื่องนี้แล้ว

Spider-Man : ฉันไม่อยากจะเห็นเจ้าพวกนั้นมาตายอยู่ตรงหน้าอีกแล้ว

Mocking Bird : เอาอีกแล้วเหรอ ไอ้คติที่ว่า “ถ้าฉันอยู่ตรงนี้จะต้องไม่มีใครตาย” นั่นน่ะ?

Spider-Man : เปล่า นั่นมัน... เป็นเป้าหมายที่เป็นไม่ได้ ตอนนี้ฉันรู้แล้ว แต่ฉันก็จะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวตนของฉันหรอก บ็อบบี้

Spider-Man : ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องการก็คือ ฉันจะช่วยทุกคนเท่าที่ช่วยได้ ทุกคน


หลังจากจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว Mocking Bird ก็บอกให้ Spider-Man รีบกลับมาที่ Parker Industries เพราะเธออยากจะเช็คพื้นที่เกิดเหตุ เพราะเธอคิดว่า Leo นั้นเข้าออกที่นี่ง่ายเกินไปทำให้เธอคิดว่าอาจจะมีคนในเป็นคนช่วยเหลือ แต่ Spider-Man ก็ออกปากรับว่าคนของเขาที่นี่เขาคัดมาเองกับมือ

แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรกัน เจ้าของรถ Spider-Mobile ก็มาถึง เธอคือ Lian Tang คนที่ช่วย Peter Parker สร้างรถคันนี้ และเธอโมโหมากที่ Spider-Man เอามันออกไปใช้โดยไม่ให้เธอตรวจสอบก่อน และถ้าเธอจะรายงานเรื่องนี้ให้ Peter รู้ พร้อมย้ำว่าเขากับเธอนั้น “สนิทกันมาก”


Mocking Bird : “สนิทกันมาก” แหม ใครแถวๆนี้ดูจะยุ่งน่าดูเลยว่ามั้ย?

Spider-Man : เอ่อ ก็นะพอดีฉัน...

Mocking Bird : ถ้านายพูดว่า “สับราง” ออกมาให้ได้ยินฉันจะชกนายแน่

Spider-Man : … เอิ่ม เอาเป็นว่าให้ฉันแนะนำบุคลากรให้เธอรู้จักก่อนแล้วกัน

คนที่เขาได้แนะนำก็มี Dr.Yao Wu – ผู้ดูแลระบบเทคโนโลยีไบโอชีวภาพ, Phillip Change ผู้รับผิดชอบหน่วยวิจัยพลังงานคนใหม่, และอีกคนก็คือ Min Wei ผู้ช่วยส่วนตัวของ Peter ซึ่งได้บอกให้ Spider-Man ตามหาตัว Peter ก่อนแล้วค่อยว่ากัน เนื่องจากพวกเขาจะมีงานแถลงข่าวในอีกไม่กี่อึดใจนี้

Spider-Man : ไม่ต้องห่วง ฉันคิดว่าฉันน่าจะหาตัวเขาเจอได้ เขาอยู่แถวนี้แหละ

และ Peter ก็เข้าไปในลิฟต์เพื่อเตรียมเปลี่ยนชุด ทิ้งที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของ Mocking Bird

“เกือบจะลืมไปแล้วว่ามีงานแถลงข่าวครั้งใหญ่ที่ถ่ายทอดไปทั่วโลก”

“เอ้าหายใจลึกๆ ฉันทำได้”

“ถึงเวลาต้องไปสวมชุดออกรบจริงๆแล้ว”


หลังจากนั้นก็ถึงเวลาของงานแถลงข่าว ซึ่ง Peter ได้โดนสอบถามถึงการที่เขามาเปิดบริษัทเพิ่มที่สาขานี้ ว่ามันเป็นเพราะแรงงานจีนถูกหรือเปล่าหรือเขาต้องการหาผลประโยชน์อะไร Peter จึงได้ตอบว่าผลประโยชน์นั้นขึ้นกับว่าแต่ละคนตีความอย่างไร แต่ที่แน่นอนก็คือเขาไม่ได้มาเพื่อสร้างกำไรอะไรขนาดนั้น ที่เขาต้องการคือการสร้างอนาคต

ในโลกปัจจุบัน มีเหล่าฮีโร่มากมายที่ช่วยออกช่วยเหลือโลกในทุกๆวัน แต่พวกเขาช่วยมันไปเพื่ออะไรกัน? คำตอบก็มาจากหนึ่งในแบบอย่างของฮีโร่ที่เขาชื่นชมที่สุด ลุงเบ็น ลุงของเขานั้นเรียกว่าไม่ได้มีอะไรมากมายแต่เขาก็ช่วยเหลือทุกๆคนเท่าที่จะช่วยได้

ดังนั้นเมื่อเขามีบริษัท, มีอำนาจในตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องการจะทำก็คือการรับผิดชอบต่อภาระที่ยิ่งใหญ่นี้ เขาได้พยายามที่จะสร้างงาน, ความเท่าเทียมกันของการจ้างงาน, เทคโนโลยีสำหรับโลกสีเขียว ทุกๆอย่างที่จะทำให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้ และนั่นคือเหตุผลที่ว่าเขาไม่ได้ช่วยเหลืออะไรโลก แต่เขาต้องการจะสร้างโลกที่คู่ควรให้ถูกช่วยไว้


และนี่คือหนึ่งในจุดเริ่มต้นใหม่ของเขา "มูลนิธิลุงเบ็น" ตั้งแต่วันนี้เขาจะค่อยๆช่วยเหลือทุกคนในนามของ Parker Industries เขาจะมอบโอกาสให้กับผู้ด้อยโอกาสและทำให้ชีวิตของพวกเขาเท่าเทียมกันที่สุดเท่าที่จะทำได้ และนี่ก็เป็นการจบแถลงการณ์ในวันนี้ เข้าสู่ในส่วนของการตอบคำถาม ที่เปิดให้ถามนอกประเด็นได้ เลยโดนยิงเรื่อง Spider-Man เข้าให้

นักข่าวได้ถามว่าการเอา Spider-Man มาทำหน้าที่เป็นมาสค็อตและบอดี้การ์ดแบบนี้จะไม่ทำให้มันดูเขาดูเหมือน Tony Stark เหรอ Peter จึงตอบกลับไปว่าเขาก็ไม่ได้ทำตัวเป็นคนรวยอะไร เพราะเมื่อสิ่งที่เขาทำทำให้ผลประโยชน์ของบริษัทลดลงเขาก็ได้ลดเงินเดือนตัวเองให้อยู่ในระดับของผู้จัดการระดับกลางๆเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาทำเพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริงไม่ได้อยากจะร่ำรวยอะไร

เมื่อจบงาน Peter ก็สอบถาม Min Wei ถึงภาพรวมในวันนี้ เธอได้บอกว่ามันออกมาดูดีมาก และเน้นย้ำให้เห็นชัดว่าเขาไม่ใช่ Tony Stark แต่เสียที่ว่าตอน Tony ขึ้นพูดเองก็ไม่ได้ลืมรูดซิปแบบเขาเช่นกัน

*แก้ไขนะครับ พอดีเข้าใจรูปประโยคผิด มันไม่ได้สื่อว่า Tony ตอนนี้จนอะไรขนาดนั้น


หลังจากนั้นเขาก็ต้องไปยังตารางงานถัดไป นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวกลับไปที่อเมริกา โดยในระหว่างนี้เขาก็ติดต่อไปหา Spider-Man อีกคน

ซานฟรานซิสโก

Spider-Man อีกคนทำหน้าที่อยู่ที่นี่ และเขาก็คือ Hobie หรือ Prowler นั่นเอง เขาได้รับการจ้างวานให้มาทำหน้าที่เป็น Spider-Man อีกคนในขณะที่ Peter ทำหน้าที่เป็น CEO ซึ่งตอนนี้มันมีแค่ 2 คนเท่านั้น (Hobie ไม่รู้ว่า Peter เป็น Spider-Man เพราะเขาบอกแค่ว่าตัวจริงอีกคน) และ Peter ก็ได้ตกลงนัดเจอกับ Hobie ในงานแต่งงานคืนนี้


และงานแต่งงานที่ว่า ก็เป็นของอดีตเพื่อนของเขาผู้ที่ทำให้ Peter ได้ก้าวออกมาจากการเป็นแค่เด็กถ่ายภาพก้าวสู่หนทางของนักวิทยาศาสตร์ หนึ่งฮีโร่ของเขา Max Modell เจ้าของ Horizon Lab และเขาได้แต่งงานกับเพื่อนร่วมงาน Hector… ซึ่งการได้กลับมาร่วมงานของหนึ่งในกลุ่มที่เขาเคยเรียกว่าครอบครัวนั้นทำให้ Peter ดีใจมากจริงๆ


ก่อนหน้านี้ Peter กับ Max นั้นเข้าหน้ากันไม่ติดเนื่องจากสิ่งที่ Doc Ock ได้ทำลงไป แต่สุดท้ายเขาก็สามารถแก้ไขความสัมพันธ์ได้และกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม โดย Peter ได้จ้างพวกเขากลับมาทำงานที่สำนักงานฝั่งตะวันตก แต่นอกจากนี้ Peter ยังมีของขวัญมาเซอร์ไพรซ์ทั้งคู่อีกด้วย ก่อนหน้านี้เขาได้เตรียมที่จะก่อตั้งมหาวิทยาลัยในชื่อ ”มหาวิทยาลัยเพื่อผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีปาร์คเกอร์” แต่เขาได้เปลี่ยนมันเป็น “มหาวิทยาลัยโฮไรซ่อน” แทน


โดย Peter ได้ติดต่อไปหา Liz Allen จาก Alchemax เพื่อขอให้เธอให้เขาสามารถใช้ชื่อนี้ได้ Max จึงได้ขอบใจ Peter มากที่ทำให้ตนถึงขนาดนี้ แต่ Sajani ก็ดึงตัว Peter ออกไปก่อน เพราะเธอเองก็มีเรื่องที่ต้องคุยกับเขาเหมือนกัน เนื่องจากเธอได้ฟังแถลงข่าวของเขาแล้ว และคิดว่ามันออกจะผิดทิศทางที่ควรจะเป็น เพราะที่จริงแล้วด้วยเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพและนาโนเทคที่ล้ำสมัยของพวกเขา พวกเขาสามารถที่จะเอาชนะตลาดทั่วโลกได้ไม่ยาก แต่ Peter ก็ไม่ยอมทำแบบนั้น เพราะเขาเลือกที่จะลงทุนเพื่อช่วยเหลือผู้คนมากกว่า Sajani รู้ว่า Peter เป็นคนที่ดีมาก แต่เธอก็อยากให้เขาใส่ใจในส่วนนี้ด้วย แต่ก่อนที่ Peter จะตอบไปสัมผัสแมงมุมของเขาก็ดังขึ้นมา


เพราะองกรณ์วายร้าย Zodiac กลุ่ม Pisces (ปลาคู่) ได้ปรากฎตัวออกมาทำลายงานเลี้ยงของพวกเขา และเป้าหมายของพวกมันก็คือ Peter Parker แต่โชคดีที่ Hobie นั้นเตรียมการมาพร้อม

Hobie : เยี่ยม ก็กะไว้แล้วว่ามันต้องเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น

Hobie : เพราะทุกคนที่ฉันมางานแต่ง เวลาสั่งไก่ทีไรก็ได้แต่ปลา


สิ่งที่ Pisces ต้องการคือ Webware ส่วนตัวของ Peter ที่มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆในระดับสูงสุด

“ใช่ ถูกต้อง... แต่เรื่องก็คือ นี่มันไม่ดีเลยจริงๆ พวกนั้นรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”

“คิดสิ ปาร์คเกอร์! ตอนนี้นายเป็นพี่เบิ๊มแล้วนะ นายเป็นเจ้าของบริษัททั้งหมด ทุกๆสายตาจับจ้องมาที่นาย”

“นายจะหาทางปลีกตัวไปแล้วเปลี่ยนเป็น...”

แต่แล้ว Spider-Man ก็โผล่ออกมาพร้อมอัดเข้าใส่หนึ่งในยานของ Pisces

“ฮ๊อบบี้ บราวน์?! นี่นายกำลังทำอะไรเนี่ย?”


“นายไม่ใช่สไปเดอร์แมนนะ!”

การเข้ามาของ Spider-Man เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถหลบหนีได้ แต่สิ่งที่ Sajani ต้องพูดถึงก็คือมุขตลกของเขามันห่วยแตกมาก และคนของ Horizon Lab เองก็ไม่ได้เจอสถานการณ์แบบนี้มานานมากแล้วเช่นกัน


ทาง Peter ที่ออกไปสู้ไม่ได้ก็ได้แต่ออกท่าทางเชียร์ Spider-Man ที่ต่อสู้อยู่ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิด เว้นแต่ว่า Hobie ไม่มีสัมผัสแมงมุมทำให้เขาโดดอัดจนปลิว ทั้งๆที่ถ้าเป็น Peter คงจะหลบได้ไปแล้ว


และ Peter ก็รู้ว่ามันไม่ช่สไตล์ของเขา เนื่องจาก อีกตัวตนของ Hobie – Prowler นั้นเป็นนักสู้ที่ซ่อนตัวในเงามืด ไม่ได้ออกมาสู้กันในที่โล่งแบบนี้ และจากสถานการณ์ตอนนี้มันจะทำให้ Hobie และคนอื่นๆถูกฆ่าได้ แต่ Peter ก็ไม่สามารถที่จะเปิดเผยตัวตนออกไปได้เหมือนกัน เขาจึงเลือกอีกทางนึงแทน

Peter : เว็บแวร์ คำสั่งเสียง ไรลี่ย์, ห้องเลขที่ 30, ครัชเชอร์ โฮแกน

เมื่อสั่งงานเสร็จ Peter ก็ถอด Webware ของเขาออกและเขวี้ยงไปให้พวกมัน


Pisces : ฮะ! เจมินี่ก็บอกไว้แล้วว่าแกจะต้องทำแบบนี้

Pisces : กลับลงไปในน้ำได้แล้วพวกเรา พวกเราได้ของที่ต้องการแล้ว

Pisces : ขอบคุณมาก คุณปาร์คเกอร์ แกนี่ช่าง... คาดเดาได้ง่ายๆจริงๆ

Peter : เดี๋ยว นี่พวกนายจะหนีไปเดี๋ยวนี้เลยเหรอ? จากพวกตำรวจเนี่ยนะ?

Pisces : พวกเราไม่กลัวตำรวจของพวกแกหรอก

Peter : แต่พวกเราก็ยังมีสไปเดอร์แมน

Pisces : และเขาก็ทำได้น่าประทับใจมากคืนนี้

Spider-Man : ลองพูดอีกทีสิเจ้าหัวปลาดุก ฉันจัดการ กรีนก็อบลิน, ด็อคอ็อค กับจังเกอร์น็อทมาแล้วนะ!

Spider-Man : ไม่มีใครจัดการฉันได้เป็นครั้งที่ 2

Peter : ปล่อยพวกมันไป

Spider-Man : แต่...

Peter : สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทุกๆคนปลอดภัย และอีกอย่างฉันเข้ารหัสมันไว้แล้ว

Spider-Man : นายทำได้ดีแล้ว น่าจะภูมิใจสักหน่อยนะ


Peter : ...นายพร้อมที่จะลงมือในแบบที่นายถนัดที่สุดหรือยัง?

Peter : ฉันคิดว่าพวกเรามีเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง เพื่อไล่ตามพวกมันก่อนที่พวกมันจะเจาะรหัสของฉันได้

Peter : นายจะว่าไงถ้าจะต้องกลับไปสวมชุดพราวเลอร์และช่วยสไปดี้เอามันกลับมา?

Hobie : แน่นอน ว่าแต่ฉันจะได้เงินล่วงเวลาใช่มั้ย?

Peter : ตามนั้น

สมาชิก Horizon Lab ต่างคิดว่า Peter นั้นทำได้ดีเลยทีเดียว แต่ Peter ก็ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ

Peter : ซาจานี ฉันมีเรื่องที่อยากจะบอกเธอก่อนหน้านี้... แต่ก่อนหน้านั้นฉันต้องบอกเธอบางเรื่องก่อน

Sajani : ฉันรู้ว่านายจะพูดอะไรปีเตอร์ มันก็แค่การเต้นรำครั้งเดียว นายเองก็น่ารักนะ แต่นายไม่ใช่...

Peter : เธอทำงานให้กับโซดิแอคหรือเปล่า? เธอเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องพวกนี้หรือเปล่า?

Sajani : อะไรนะ?

Peter : ฉันใช้เวลาหลายเดือนเพื่อขุดเรื่องพวกนี้ ซาจานี รวมไปถึงกู้ข้อมูลกล้องรักษาความปลอดภัยด้วย

Peter : ฉันรู้ว่าเธอร่วมงานกับแบล็คแค็ท แล้วก็โกสต์

Peter : เธอร่วมมือกับพวกนั้นล่มโปรจ็คของฉันและควบคุมบริษัทให้มันเป็นไปตามทิศทางที่เธอต้องการ แต่เรื่องนั้นจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก เข้าใจใช่มั้ย?

Sajani : ข่ะ...เข้าใจแล้ว

Peter : ฉันขอบคุณมากที่พวกเราเข้าใจกันแล้ว


ลอนดอน

Sajani ได้กลับไปที่สาขาใหญ่และพบกับ Anna Maria ที่อยู่กับ Living Brain เธอได้เร่งโปรเจ็คนาโนเทคให้เข้าสู่ระยะที่ 3 ถึงแม้ Anna จะแจ้งว่าพวกเธอยังไม่พร้อมก็ตามที นั่นเพราะ Sajani รู้ว่าพวกเธอไม่มีเวลาแล้ว

Anna : นั่นแหละ จัดการเธอเลยมั้ย ลิฟวิ่งเบรน?

Living Brain : ขอโทษด้วย คุณมาร์โคนี่ วี้--- แต่โปรแกมของผมไม่อนุญาติให้ทำอะไรแบบนั้น...

Anna : ฉันแค่ล้อเล่นน่าเด็กน้อย พวกเราต้องอัพเกรดซอร์ฟแวร์ตรวจจับคำพูดล้อเล่นให้เธอบ้างนะเนี่ย


Anna : ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ

Living Brain : ควิ้ง---- ให้ผมไปช่วยคุณ

Anna : ฉันจัดการได้น่า เบรน ว่าแต่หลังจากอัพเกรดเธอครั้งสุดท้าย… ฉันว่าเธอทำตัวน่ารำคาญขึ้นนะ รู้ตัวมั้ยเนี่ย?

Living Brain : วี้---- ต้องขอโทษด้วย ...แอนนา... แอนนาของฉัน

Doc Ock : แอนนาที่น่ารักของฉัน


โปรดติดตามตอนต่อไป!

คุยกันท้ายเล่ม

เล่มแรกสำหรับ "All-New All-Different Marvel" มาไวหน่อย แต่ทั้งนี้ในส่วนของ Secret War ผมจะค่อยๆทยอยลงต่อไปนะครับ ไม่ต้องเร่งกัน สำหรับเล่มแรกนี้ผมชอบนะ นำเสนอเนื้อเรื่องได้ยอดมาก ทำให้เราได้เห็น Peter ที่โตขึ้นและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เนื้อหาก็ยกระดับเป็นการต่อสู้กับองกรณ์ก่อการร้ายไปแล้ว แถมยังมีเงื่อนงำให้ตามหากันต่อไปอีกด้วย

สำหรับเล่มนี้มันจะตอนพิเศษที่เป็นบทนำของแมงมุมเล่มอื่นๆด้วย แต่ผมขอดูก่อนแล้วกันว่าจะลงมั้ยเพราะส่วนใหญ่เป็นเล่มที่ผมไม่ได้ทำ


12 comments:

  1. โอโห้!!ทันกำลังจะมา

    ReplyDelete
  2. ไอ้บ้า หัวกะลา นี่ ยังหลอนหลอก ไม่เลิก

    ReplyDelete
  3. Peter : ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่...
    Peter : มันมาพร้อมกับ... ความเร็ว, ความจุ และแบตเตอร์รี่ที่มากขึ้น

    ผมอ่านจบนี้หัวเราะลั่นเลย

    ReplyDelete
  4. ด็อกอ็อตโต้ทำอะไรไว้อีกล่ะเนี่ย...

    ReplyDelete
  5. ด็อคอ็อคคนนี้ยังเป็นด็อคอ็อคที่โกรธเกลียดปีเตอร์อยู่จากช่วงspider-verse ไม่อยากคิดเลยว่ามันจะมาทำอะไรปีเตอร์อีก

    ReplyDelete
  6. อยากให้ ปีเตอร์ มีชีวิตดีๆอย่างนี้ไปนานๆจัง

    ReplyDelete
  7. ใช่ที่อ็อตโต้อัพโหลดอะไรไว้ท้ายspider-verseรึเปล่า

    ว่าแต่โทนี่จน ปีเตอร์รวย โลกนี้มันกลับตาลปัตรไปละ!!

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ครับ ด็อคอ็อคตอนนั้นแหละครับ

      Delete
  8. นี้เป็นเนื้อเรื่องก่อน หรือ หลัง Secret war หรอครับ? แล้วนี่เป็นจักรวาลหลักเลยหรอ เห็นปีเตอร์ตั้งตัวได้ชีวิตดูเหมือนจะดี๊ดีแบบนี้แล้วไม่อยากให้ไปล่มต่อใน Secret war เลย

    ReplyDelete
  9. - หลัง secret war แล้ว Peter 616 ที่นั่งยานมาที่ battle world ล่ะ ? โดนหมอแปลก พัดกระจายไปไหน แล้ว
    - เล่มนี้ อยู่ ตรงไหนของโลก battle world ?

    ReplyDelete
    Replies
    1. - Hobie มีพลัง พอเศษอะไรหรือเปล่าครับ ?

      Delete