Wednesday, February 24, 2016

Earth-2 Society #9

Earth-2 Society #9

เรื่องโดย : Dan Abnett  | ภาพโดย : Jorge Jimenez

วางจำหน่าย : 10 กุมภาพันธ์ 2016

สำนักพิมพ์ : DC Comics


ปัญหาระหว่าง 2 เมืองเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้เหล่าฮีโร่ต้องเร่งแก้ไข

แต่ก่อนที่จะแก้ได้พวกเขาก็พบว่ามีมีปัญหาที่แย่ยิ่งกว่าเดิมได้เกิดขึ้นมาอีก!


หลังจากที่พบกับ Fury แล้ว Hawkgirl ก็กลายเป็นแขกของเธอ และได้มาร่วมชมการฝึกของเธอกับลูกน้องหญิงของเธอ แต่ในหัวของ Hawkgirl ก็ยังเต็มไปด้วยคำถาม ว่าเธอสร้างเมืองใต้ดินที่ใหญ่โตขนาดนี้ได้ยังไง และชาวเอมะซอนที่พวกเธอเห็นนั้นมาจากไหน เพราะล่าสุดเท่าที่รู้มาพวกเธอล้วนตายไปหมดแล้ว


หลังจบการฝึก Fury ก็ได้เดินเข้ามาพูดคุยกับ Hawkgirl ซึ่งเธอก็ตอบคำถามของ Fury ว่าที่เธอทำอยู่คือการฝึกฝนทักษะการต่อสู้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม ซึ่งเธอรู้ว่ามันจบลงไปแล้ว แต่หากมันเกิดขึ้นใหม่เธอก็อยากจะเป็นผู้ที่สามารถหยุดมันไว้ได้  ซึ่งเธอก็ได้ทำการจับตาดูการสื่อสารระหว่างเมืองต่างๆจนคิดว่าสงครามที่ว่าอาจจะกำลังมาถึงบนโลกใหม่ในไม่ช้านี้ จากความขัดแย้งระหว่างเมือง Erebus กับ Ark Home จากนั้นเธอก็ชวน Hawkgirl ออกไปเดินด้วยกัน และ Hawkgirl จึงค่อยถามต่อว่า Fury นั้นซ่อนเมืองของเธอไว้ใต้ดินทำไม


ทางฝั่งกองกำลังโลกตอนนี้ก็กำลังวุ่นกับความบาดหมางระหว่าง Erebus กับ Ark Home เมื่อผู้ว่าจากทาง Ark Home ประกาศก้าวว่าเขาจะไม่ยอมยกพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรอันล้ำค่าให้แก่เมืองอื่นแน่นอน และจากที่ Sandman ตรวจพบตอนนี้พวกเขาได้ส่งกำลังทหารลงไปกว่า 2 พันนายแล้ว และทางด้าน Huntress ก็มาพูดคุยกับสภาของฝั่ง Erebus ที่กำลังร้อนระอุเช่นกัน


แต่ในระหว่างนี้เองพวกเขาก็พบว่าทางเมืองอื่นได้มีส่งกองกำลังเข้ามาที่ฟื้นที่ซึ่งกำลังแย่งชิงกันเหมือนกัน ผู้บัญชาการ Sato จึงได้สั่งให้ Power Girl ลงไปจัดการเพื่อไม่ให้เกิดการเข่นฆ่ากันเองขึ้น


ฝั่ง Green Lantern เองนั้นก็ทำการรับข่าวสารทั้งหมดจากฝั่งของผู้บัญชาการ Sato แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะต้องออกตัว  อีกอย่างคือเขามีเรื่องที่ต้องคุยกับ Lois (Red Tornado) ก่อน นั่นคือ เขาต้องการให้เธอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาสำหรับโลกใบนี้ รัฐธรรมนูญที่โปร่งใส, มีเกียรติ และสุจริตที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เพื่อทำให้เกิดการเลือกตั้งที่เปิดเผยและมีอิสระอย่างแท้จริง สิ่งที่ทำให้ทุกเมืองสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ทำให้เกิดความบางหมางอย่างตอนนี้ขึ้นมาอีก

Green Lantern คิดว่ามันไม่มีใครเหมาะกับตำแหน่งนี้มากไปกว่า Lois Lane นักข่าวผู้มากด้วยคำพูดอันคมคายและหนึ่งในคนที่มีความเข้าใจด้านการเมืองมากที่สุด และอีกอย่างคืออย่างน้อยเธอก็ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่มากกว่าเขาในตอนนี้ ที่หลายๆคนนิยามให้ว่ากลายเป็น "พระเจ้า" ของโลกใบใหม่ไปแล้ว


กลับมาที่ Power Girl เธอสามารถขับไล่กองกำลังที่หมายจะบุกเข้ามาฝั่ง Ark Home ได้สำเร็จแต่ก็พบว่าสัตว์กลายพันธุ์ตรงมาในบริเวณนี้เธอจึงเรียกหากำลังเสริม และ Green Lantern ก็ตอบรับพร้อมมุ่งหน้าไปหาเธอในทันที และตอนนี้ Green Lantern ก็ได้คำตอบเรื่องของพวกมันแล้ว เขาบอกว่าเจ้าพวกนี้นั้นได้รับการดัดแปลงและออกแบบมาอย่างดี ดังนั้นพวกมันไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากเหตุการณ์ Terraforming อย่างแน่นอน แต่ต้องมีใครที่สร้างพวกมันขึ้นมาและปล่อยออกมาสร้างความวุ่นวาย


ในขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการ Sato ก็ติดต่อไปหา Captain Steel ที่อยู่กับ Val กับ The Flash ว่าทางด้านนั้นเป็นไงบ้าง Captain Steel จึงตอบไปว่าพวกเขากำลังจะเริ่มเดินเครื่องอุปกรณ์ที่ Val สร้างขึ้น และจากนั้นในอีกไม่กี่นาทีพวกเขาก็จะได้รู้ซักทีว่ามันมีน้ำมันอยู่ใต้ผืนดินที่ 2 เมืองนี้กำลังแย่งกันจริงๆหรือเปล่า ซึ่งถ้าไม่มีก็มีข้อดี นั่นคือ 2 เมืองนั้นตีกันเองเพื่อความว่างเปล่า แต่ข้อเสียก็คือ ประชากรส่วนใหญ่ก็จะต้องใช้ชีวิตลำบากขึ้นเพราะขาดทรัพยาการในการสร้างพลังงานเพิ่มเติม


Gotham

Dick เรียกรวมพล Oliver (Red Arrow) กับอดีตแชมป์มวยโลก Ted Grant เพื่ออธิบายสิ่งที่เขาไปพบเจอมานั่นคือ Nimbus Solution บริษัทที่ส่งออกเซลล์พลังงานนั้นไม่ได้ใช้พลังงานบริสุทธิ์ แต่เป็นรังสีเน่าเสียจากยาน Ark Home ลำเก่า ซึ่งเป็นพิษสำหรับมนุษย์และหากปล่อยไปผู้คนที่ใช้ของเหล่านั้นก็จะต้องตายเพราะรังสีที่ได้รับเข้าไป พวกเขาจึงจะเปิดฉากสงครามกับ Nimbus Solution ในคืนนี้


ฝั่ง Val ได้ข้อสรุปแล้ว ว่าผืนดินที่แย่งชิงกันนั้นไม่มีน้ำมันอยู่เลย ซึ่งถือเป็นข่าวร้ายสุดๆ แต่มันมีข่าวที่แย่กว่านั้น เพราะ Val ได้ทำการค้นคว้าโลกนี้ด้วยตัวเองมาสักพักแล้ว ตอนนี้เขาจึงได้ข้อสรุปอีกข้อว่าโลกที่ถูกสร้างขึ้นโดย Braniac ใบนี้นั้นเป็นเพียงแค่การรวมตัวกันของเศษซากหินอันแห้งแล้ง นั่นหมายความว่าโลก Earth-2 ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติที่มนุษย์ต้องใช้เพื่อการดำรงชีพอยู่เลยแม้แต่น้อย


กลับมาที่ฝั่ง Hawkgirl อีกครั้ง Fury ได้อธิบายว่าพวกชาวเอมะซอนนั่นถูกโลกภายนอกหวาดกลัวมาช้านาน เธอจึงไม่คิดที่จะปล่อยให้ผู้คนของเธอออกไปพบเจอโลกแบบนั้น แต่ Hawkgirl ก็พยายามอธิบายว่าคนอื่นๆกำลังช่วยสร้างสังคมที่ดีขึ้นมาอยู่ และหากพวกเธอร่วมมือกันจะสร้างสังคมใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้

เมื่อได้ยินดังนั้น Fury จึงได้พูดคำหนึ่งออกมาซึ่งแปลว่า "ประเทศที่รวมเป็นหนึ่ง" (One Nation Indivisible) และเธอคิดว่าแนวคิดของ GL กับกองกำลังโลกนั้นไม่มีทางทำได้สำเร็จ แต่กลับกันวัฒนธรรมของชาวเอมะซอนนั้นเป็นสิ่งที่เก่าแก่ พวกมันผ่านประสบการณ์การใช้งานมาอย่างยาวนานท่ามกลางการควบคุมอย่างชาญฉลาด และโลกใบนี้ควรจะเอามันเป็นแบบอย่าง แต่ยังไงก็ตามเธอไม่คิดที่จะปกครองโลกใบนี้อย่างแน่นอน หลังจากนั้น Hawkgirl ก็สอบถามถึงเรื่องของผู้คนบนยานที่เธอเคยอยู่ และคำตอบของ Fury ก็คือพวกเขาล้วนตายไปหมดแล้วและชาวเอมะซอนได้เข้ามาแทนที่


คุยกันท้ายเล่ม

ยิ่งอ่านยิ่งแปลเนื้อหาก็ยิ่งเป็นแนวการเมืองขึ้นเรื่อยๆ เล่มนี้เป็นเล่มแรกๆในชุด Earth-2 ที่ผมบอกได้เลยว่าคุยกันเยอะมาก แต่ผมคิดว่ามันสนุกนะ เพราะอย่างที่บอกว่าเราไม่ได้เห็นเนื้อเรื่องแนวนี้บ่อยๆ อาจจะไม่ค่อยมีฉากตีกันมันส์ๆ แต่เนื้อหานั้นนำเสนอได้ดีมาก มีการนำเสนอบทสนทนาของตัวละครอย่างเป็นระบบ ผิดกับบทแรกที่กระจายตัดไปมาอย่างไม่มีระบบ

ตอนนี้ประเด็นของเรื่องได้เพิ่มขึ้นมา นั่นคือ อันแรกพวกเขาจะอยู่อาศัยในโลกที่ไม่มีทรัพยาการสำหรับเอื้อเฟื้อแก่การดำรงชีพของมนุษย์แบบนี้ได้ยังไง เหล่าฮีโร่จะหาทางแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งนี่เป็นประเด็นที่ค่อนข้างใหญ่และไม่สามารถพูดออกไปตรงๆได้ เพราะมีสิทธิ์ที่สถานการณ์จะแย่กว่าเก่า อีกเรื่องคือฝั่ง Fury ที่เธอพูดเหมือนจะมีแผนบางอย่าง กับการที่เธอบอกว่าคนอื่นบนยานตายไปแล้ว แต่คิดว่าส่วนนี้น่าจะเฉลยในเล่มหน้านะครับ

โดยรวมผมให้ Earth-2 Society บทที่ 2 - One Nation Indivisible นี่ดีกว่าบทแรกมากๆ เพราะมันอ่านสนุกและเนื้อเรื่องค่อนข้างดีเลยจริงๆ ตอนนี้เลยหวังว่ามันจะดีได้แบบนี้ไปจนจบบทนะ

1 comment:

  1. จะตีกันทำไม จับมือปรองดองกันดีกว่า

    ReplyDelete